เริ่มๆ มีการวิเคราะห์ คาดการณ์ คาดคะเน หรือทำนาย ทายทัก กันมั่งแล้ว...ว่ารัฐบาลท่านนายกฯ บิ๊กตู่ อาจถึงขั้น ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันภายในปีหน้า เอาเลยถึงขั้นนั้น แม้นเป็นการทำนาย ทายทัก ในแบบคนละเรื่อง-คนละม้วน หรือตรงกันข้ามกับคำทำนายของนักทำนาย (โหร) ตัวจริง-เสียงจริง อย่าง โหรวารินทร์ หรือ โหนบิ๊กตู่ ชนิดขาวกับดำ...

                                       --------------------------------------------

                คือสำหรับ โหรวารินทร์ นั้น...โดยทางเท้า หรือทางตีนของท่าน ย่อมปรารถนาและต้องการที่จะให้ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ อยู่ยาวว์ว์ว์ไปจนครบเทอม หรือต่อไปอีก 4 ปี 8 ปี ไปจน 20 ปี อยู่แล้วแน่ๆ ไม่งั้นท่านต้องคงหันไป โหน อะไรต่อมิอะไรไปตามเรื่อง ตามราว คำทำนาย ทายทัก ข้อวิเคราะห์ หรือการประเมิน การคาดการณ์ของท่าน จึงไม่อาจจัดอยู่ใน มาตรฐานสากล มากมายซักเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ...สำหรับผู้ที่ประเมิน ผู้ที่คาดการณ์ไปในทิศทางตรงกันข้าม เท่าที่ดูๆ แล้ว ก็น่าจะออกไปทาง หมอเดา ซะเป็นหลักใหญ่ ไม่ได้ถึงกับลุ่มลึก ลึกซึ้ง ไม่ว่าในทางรัฐศาสตร์ หรือโหราศาสตร์ แต่อย่างใด...

                                      --------------------------------------------

                เพราะถ้าหากเอาหลักรัฐศาสตร์เข้าไปจับแล้ว...บรรดาผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม หรือผู้ที่อยากจะหัก อยากจะโค่น ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ซะเหลือเกิน ไม่ว่าในสภาฯ หรือนอกสภาฯ น่าจะออกไปทาง ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันซะล่ะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่ยังคงยึดมั่นต่อวิถีทาง แนวทางแห่งรัฐสภา จากที่เคยดูน่ากลัว น่าอันตราย อันเนื่องมาจากภาวะ ปริ่มน้ำ สามารถฉวยจังหวะ ลักหลับ รัฐบาล ในช่วงระหว่างเข้าส้วม ช่วงออกไปขี้ ไปเยี่ยว ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่เมื่อต้องเจอกับภาวะ งูกินกล้วย แถมยังอาจตามมาด้วยแนวโน้มภาวะ ผึ้งแตกรัง ขึ้นมาซะอีก โดยสถานะ โดยเสถียรภาพ ความมั่นคง ของรัฐบาลภายใต้วิถีทางรัฐสภา จึงออกอาการ พ้นน้ำ แห้งตั้งแต่หัว ไปยันรูสะดือโน่นเลย...

                                    ---------------------------------------------

                คือระดับ งูกินกล้วย นั้น...ยังไม่ถึงกับปลอดโปร่ง โล่งใจ มากมายซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเจอกับ ผึ้งแตกรัง ขึ้นมาเมื่อไหร่ นอกจากอาจส่งผลให้เสียงของฝ่ายค้าน หายไปเป็นสิบๆ ระดับ 20-30 ไปจนถึง 70-80 เอาง่ายๆ ยังอาจส่งผลให้เสียงของฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นในอัตราผกผัน ชนิดแทบไม่ต้องเสียเวลาออกเรี่ยว ออกแรง ไล่ฟัด ไล่ขยำ คุณน้อง เต้-มงคลกิตติ์ ให้ต้องขนลุก ขนพอง เอาเลยก็ยังได้ แค่ถอดเสื้อ ถอดผ้า สมัครเข้าเรียนรักษาดินแดน (รด.) เดี๋ยวเดียว...ใครต่อใครก็คงเซไป เซมา ถลาเข้ามาขย่ม ชนิดเมื่อยแข้ง เมื่อยขา ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ จะลาไปขี้ ไปเยี่ยว ยกโขยงไปต่างประเทศกันเป็นคณะๆ ก็แทบไม่ต้องเหลียวซ้าย แลขวาอีกต่อไปแล้ว...

                                   ------------------------------------------------

                ส่วนด้านนอกสภาฯ นั้น...เท่าที่ดูจาก แฟลชม็อบ ที่มีบรรดาคนรุ่นใหม่แห่งพรรคอนาคตใหม่เป็นหัวหอก ก็น่าจะลุกขึ้นมาเต้น แฟลชแดนซ์ ได้เลย คือถึงแม้จะยกทัพ โยธา ปลุกระดมกันมาได้เป็นแสนๆ หรือถึงจะยืดเยื้อ คาราคาซัง ยาวนานเป็นม็อบฮ่องกง ไม่ใช่แค่ ชั่วโมงเดียวจบ แบบสกายวอล์กบ้านเรา แต่โดยคุณลักษณะของความเป็นมวลชน หรือกองกำลังมวลชนโดยทั่วไปแล้ว มันคงไม่ได้มี อำนาจชี้ขาดในขั้นตอนสุดท้าย อยู่ภายในมือแต่อย่างใดเลย โอกาสที่จะไล่ทุบกองบัญชาการของฝ่ายตรงกันข้ามให้แหลกลาญ หมดสภาพลงไปแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด แบบ การปฏิวัตินิรันดร ของ ทรอตสกี มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ดังนั้น...ถึงมากันเป็นล้านๆ ถึงเผาโน่น เผานี่ ทุบโน่น ทุบนี่ แต่ด้วยสถานะของ ความเป็นรัฐบาล ที่ยังไม่ได้หมดสิ้นลงไป ก็ย่อมสามารถยักไป-ยักมา ยื้อไป-ยื้อมา หรือตื๊อไป-ตื๊อมา จนฝ่ายตรงข้ามอาจ เหี่ยวปลาย ไปเอง ได้เสมอๆ...

                                   -----------------------------------------------------

                ดังนั้น...ไม่ว่าโดยวิถีทางรัฐสภา หรือวิถีทางลงถนน ก็น่าจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ที่จะหัก จะโค่น รัฐบาลท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ให้ม่อยกระรอกลงไปได้ง่ายๆ เหลือแต่วิธีเดียวเท่านั้นที่อาจช่วยให้ข้อวิเคราะห์ คำทำนาย ทายทัก ในลักษณะที่ว่า เป็นไปในแบบสมพรปาก นั่นก็คือการสวดมนต์ อธิษฐาน ภาวนา หรือสาปแช่ง ก็แล้วแต่ ให้เกิดรายการ ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก-ดันเสือกตาย ขึ้นมาดื้อๆ!!! และดูจะเป็นวิถีทางที่ค่อนข้างเป็นไปได้มากที่สุด ยิ่งกว่าวิถีทางอื่นๆ ด้วยเหตุเพราะการอยู่ยาวว์ว์ว์ อยู่นาน ของรัฐบาล นับตั้งแต่ได้ เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน มาตั้งแต่เกือบ 5-6 ปีที่แล้ว คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า มันชักออกไปทาง สัญญา พรนารายณ์ หรือ สัญญาเมื่อสายัณห์ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                               ---------------------------------------------------------

                คือออกไปทาง...เจ้าเปลี่ยนไป-หัวใจเหมือนถูกปืน-แทบล้มทั้งยืน-สะอื้นอกตรม ตาดั๊บ-ตั๊บ-ตาด่าดาดาๆๆ ยิ่งขึ้นไปทุกขณะ และแม้จะเซลฟ่ง เซลฟี่ จะเดินสายออกเยี่ยมชาวบ้าน ชาวช่อง ชนิดวันละ 3 เวลาหลังอาหาร ก็อาจไม่ได้ช่วยให้อะไรต่อมิอะไรมันดูดี อย่างเท่าที่ควรจะเป็นซักกี่มากน้อย อันนี้นี่แหละ...ที่อาจทำให้ ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก-ดันเสือกตาย เอาง่ายๆ ด้วยเหตุเพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมเป็นไปตามภาษิตชาวจีนผู้ขายซาลาเปาแถวๆ เยาวราช ที่ได้ว่าเอาไว้ว่า เหนือฟ้า-ยังมีฟ้า...เหนือนภา-ยังมีอากาศ...เหนือกระดาษ-ยังมีซาลาเปา นั่นแล...

                                 -------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก George Eliot... “Nothing is so good as it seems beforehand. - ไม่มีอะไรจะดี เหมือนกับที่มันทำท่าว่าจะดีในตอนแรก...”

                                ------------------------------------------------------