แฟลชม็อบ หรือ Flash mob ในภาษาของความเคลื่อนไหวสากลหมายถึง การนัดพบของคนบางกลุ่มเพื่อแสดงอะไรบางอย่างที่อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ได้
    Flash แปลว่าปุ๊บปั๊บฉับพลัน
    Mob แปลว่ากลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งและสลายตัวภายในเวลาอันสั้น ไม่ลากยาว ไม่ยืดเยื้อ 
    บางคนเรียกมันเป็นความเคลื่อนไหวแบบ "น้ำจิ้ม"
    ปรากฏการณ์ Flash mob ในต่างประเทศเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เป็นการนัดหมายกันในที่สาธารณะผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย
    ส่วนใหญ่การพบปะเช่นนี้จะไม่มีผู้นำเด่นชัด ทุกคนมาร่วมกันด้วยจุดประสงค์เพื่อแสดงออกอะไรบางอย่างในระยะสั้นๆ
    บางครั้งเป็นการเต้นรำร้องเพลง
    บางครั้งเป็นการแสดงจุดยืนประเด็นสังคม
    และบางครั้งก็เป็นเรื่องการเมือง
    การปรากฏตัวของ Flash mob มักจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสันติ ไม่ต้องการจะสร้างความไม่สะดวกหรือขัดขวางวิถีชีวิตของผู้คน
    จึงมักจะเป็นการโผล่มาพบกันช่วงสั้นๆ และสลายตัวไปในเวลาอันรวดเร็ว
    แฟลชม็อบเป็นเรื่องที่สร้างเซอร์ไพรส์ในที่สาธารณะ โดยกลุ่มคนที่ร่วมกิจกรรมเช่นนี้มีการนัดหมายกันมาก่อน
    ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกันร้องเพลงที่สนามบินฮีธโทรว์ของลอนดอน หรือสถานีรถไฟใต้ดินที่โคเปนเฮเกน หรือจัตุรัสกลางเมืองใหญ่หลายแห่ง
    จะว่าไปแล้วหากคุณเจอ Flash mob อย่างนี้ในที่ชุมชนของเมืองใดก็ตาม ก็ไม่มีเหตุอันใดจะต้องตกอกตกใจไป
    ตรงกันข้ามพอคุณหายตะลึงหรือแปลกใจแล้ว เผลอๆ อาจจะเข้าไปร่วมร้องเพลงเริงระบำกับเขาก็ได้
    การรวมตัวของผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่ Skywalk สี่แยกปทุมวันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นความพยายามเลียนแบบ Flash mob ลักษณะนี้
    แต่เมื่อมีการนัดหมายโดยคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคนี้ผ่านวิดีโอคลิปทางโซเชียลมีเดียล่วงหน้า มันจึงไม่เกิด "เซอร์ไพรส์" ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของแฟลชม็อบ
    แต่คล้ายๆ กับจะเป็นการระดมพลเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านผู้มีอำนาจมากกว่า จึงเป็นการกลายพันธุ์จากแนวคิดเดิมของแฟลชม็อบที่นำมาใช้กับการเมือง
    บางคนเรียกมันว่าเป็น "นวัตกรรม" ทางการเมืองของไทย ซึ่งคงจะเกิดจากความจำเป็นมากกว่า...เพราะคุณธนาธรคงจะพยายามหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่า "เอาคนลงถนน"
    บางคนช่วยอธิบายด้วยซ้ำไปว่าการใช้ Skywalk ซึ่งอยู่เหนือระดับถนนนั้น ย่อมจะตีความได้ว่านี่ไม่ใช่การ "ลงถนน" หากแต่เป็นการ "แสดงตน" ของคนที่ต้องการจะแสดงความสนับสนุนต่อคุณธนาธรและพรรคอนาคตใหม่มากกว่า
    แน่นอนว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณธนาธรก็เรียกกิจกรรมนั้นว่าเป็นการ "ปลุกม็อบ" และ "สร้างกระแส" เพื่อพรรคของตน
    ขณะที่คุณธนาธรและแกนนำของพรรคแย้งว่านี่มิใช่ทำเพื่อพรรค แต่ทำเพื่ออนาคตของประเทศชาติ
    ผู้คนที่แบ่งฝักฝ่ายอยู่แล้วก็คงจะไม่เปลี่ยนทัศนคติต่อพรรคนี้เพียงเพราะเหตุการณ์แฟลชม็อบแต่อย่างใด
    เมื่อกลุ่มคนวันนั้นเสร็จกิจกรรมภายในหนึ่งชั่วโมงด้วยการร้องเพลงชาติพร้อมกันตอนหกโมงเย็น ก็ย่อมจะพูดได้ว่าผู้มาร่วมส่วนใหญ่ได้แสดงความรับผิดชอบ ไม่เปิดทางให้มีการกล่าวหาว่านี่เป็นความพยายามสร้างความวุ่นวายหรือเดือดร้อนแก่ผู้ใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณนั้น
    ในบรรยากาศการเมืองวันนี้ จำเป็นจะต้องมีช่องทางการแสดงออกของประชาชนที่มีความเห็นต่างจากผู้มีอำนาจ เพราะรัฐธรรมนูญก็รับรองสิทธิการรวมตัวและแสดงออกด้วยวิธีการสันติ
    ในเหตุการณ์วันเสาร์ เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ได้แสดงความพยายามจะสกัดกั้นกิจกรรมของผู้สนับสนุนพรรคการเมืองนี้แต่อย่างใด ก็ถือเป็นการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันในระดับที่น่าพอใจ
    ผมจึงมองไม่เห็นเหตุผลอันใดที่เราจะต้องต่อต้านคัดค้านกิจกรรมทางการเมืองที่รักษากติกาและยอมรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ตราบเท่าที่ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพในเสรีภาพของการแสดงออกอย่างเสมอภาคและใช้มาตรฐานเดียวกัน
    พรรคอนาคตใหม่ต้องรักษาคำพูดของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองผ่านกลไกรัฐสภา
    และผู้มีอำนาจในประเทศจะต้องพิสูจน์ว่าจะเคารพในกติกาที่เป็นธรรมและเท่าเทียม
    หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งทำผิดหลักการและกติกาที่ให้สัญญาประชาคมเอาไว้ ก็ย่อมเป็นสิทธิที่จะแสดงออกให้ได้ปรากฏภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย ด้วยวิธีการที่สันติปราศจากความรุนแรง ท้ายที่สุด ทุกฝ่ายต้องตระหนักว่าความอยุติธรรมและการฝ่าฝืนสัญญาประชาคม และการทำร้ายความคาดหวังของประชาชนนั่นแหละคือศัตรูร้ายกาจที่สุดของประชาธิปไตย
    และหากมีการกระทำที่ทำร้ายความรู้สึกของประชาชนอย่างรุนแรงต่อเนื่องโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน  สิ่งที่จะเกิดขึ้นคงไม่ใช่แค่เพียง "แฟลชม็อบ" อีกต่อไป.