อัยการชี้ศาลสั่งจำคุกโจ๋ตีกันในโรงพยาบาลเป็นคดีป้องปรามเหตุ แต่ทำเครื่องมือเสียหายต้องชดใช้


เพิ่มเพื่อน    

 

วันที่ 15 ธ.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเพิ่มเติมกรณีศาลจังหวัดอ่างทองมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันที่โรงพยาบาลอ่างทอง ว่า ภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาและสื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวคำพิพากษาจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูงรุ่น 8 ซึ่งตนเป็นนักศึกษาหลักสูตรดังกล่าวอยู่นั้น พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้นำข่าวที่ศาลสั่งลงโทษจำคุกผู้ก่อเหตุในโรงพยาบาลขึ้น หารือในห้องอบรม ซึ่งในหลักสูตรมีผู้เรียน 150 คน มีแพทย์ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงเรียนหลักสูตรดังกล่าวอยู่กว่า 70 ท่าน ก็มองว่าเหตุที่เกิดในสถานพยาบาลจะทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีวัยรุ่นที่ส่วนมากจะเมาในช่วงเทศกาลทะเลาะ ทำร้ายกัน เมื่อมีคนบาดเจ็บมารักษาที่โรงพยาบาล ก็ยังมีการตามมาทำร้ายกันในโรงพยาบาลอีก ทั้งที่สถานที่ดังกล่าวควรเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวแบบนี้ค่อนข้างบ่อยขึ้น แพทย์ทั้งหลายที่เรียนในหลักสูตรดังกล่าวก็มีความเห็นเรียกร้อง ขอให้โรงพยาบาลเป็นที่ที่ปลอดภัย ไม่ใช่แต่เพียงแพทย์ สำหรับประชาชนด้วย

ซึ่งตนในฐานะที่เป็นอัยการและเรียนหลักสูตรดังกล่าว ได้ขึ้นกล่าวว่า ในเรื่องกฎหมายขอให้มั่นใจว่าเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุด อย่างคดีที่โรงพยาบาลอ่างทองที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าคดีนี้ เหตุเกิดช่วงเดือนพฤศจิกายน อัยการฟ้องไป ศาลก็มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่รอลงอาญาในช่วงต้นเดือนธันวาคม ก็ถือว่ารวดเร็ว ตรงนี้เราอาจจะดูในเรื่องของความร่วมมือ และในเรื่องของการเร่งรัดผลคดีให้ ก็อยากจะฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นว่า ในช่วงเทศกาลมีการเฉลิมฉลองหรือสนุกกันได้ แต่ควรอย่าเลยเถิดจนมีเรื่องทำร้ายร่างกายกัน และขอให้เคารพสถานที่ โดยเฉพาะโรงพยาบาล ต้องลองคิดดูให้ดีว่าเครื่องมือแพทย์บางชิ้นนั้น ที่อยู่ในห้องฉุกเฉินมีมูลค่า 40-50 ล้านบาทก็มี แล้วถ้าไปก่อเหตุทำให้เครื่องมือเสียหายตามหน้าที่แล้วอัยการก็จะต้องเรียกค่าเสียหายผู้กระทำเพื่อให้ชดใช้ คราวนี้เรื่องก็จะลามไปเป็นภาระแก่ผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่น ทรัพย์สินที่มีไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่นาที่อยู่อาศัย ก็อาจจะถูกยึดมาใช้หนี้ตนจึงอยากฝากด้วยความห่วงใย ว่าไม่มีเรื่อง ไม่ตีกัน ดีที่สุด 

"คดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่าง ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่มีการเผยแพร่ข่าวที่เป็นบทเรียนแก่สังคม เพื่อที่ผู้ที่จะก่อเหตุก็จะได้รู้และเปลี่ยนใจไม่กระทำความผิด เพราะคุณก็จะได้รู้ผลคดี ไม่ใช่รู้แต่ว่ามีเรื่อง ว่ามีเหตุแล้วเงียบหาย วัยรุ่นและผู้ปกครองก็จะได้ตระหนักรู้ระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้น ทุกคนจะได้มีสติ หมอหรือพยาบาลนั้นเวลาที่จะต้องมีการกู้ชีพคนไข้ในห้องฉุกเฉินเขาจะไม่ระวังตัว เพราะว่าจะต้องจดจ่ออยู่กับการกู้ชีพชีวิตคน ถ้ามีคนบุกเข้าไปและพยายามจะทำร้ายคนไข้ แล้วหมอหันหลังอยู่ก็ลองคิดดูว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นได้"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"