รูปดวงเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรที่ทำมุมกับดวงเมือง
มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษตลอดทั้งปี-มีเดินผิดปกติ
พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีธนูตั้งแต่ต้นปี 2563-ย้ายเข้ามังกร 1 มีนาคม 2563 (มีเดินผิดปกติ-ข้ามราศี)
พระพฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีธนูตั้งแต่ต้นปี 2563-ย้ายเข้าราศีมังกร 13 พฤศจิกายน 2563
(ก่อนหน้านั้น มีเดินผิดปกติเข้าราศีมังกรแล้วเดินถอยหลังกลับเข้าราศีธนูระหว่าง 17 มีนาคม-17 กรกฎาคม 2563)
พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีมิถุนตั้งแต่ต้นปี-ย้ายเข้าราศีพฤษภ 10 กันยายน 2563
ทักษาเดิม เกิดวันอาทิตย์-ทักษาจร ตั้งแต่ต้นปี-21เมษายน 2563 ตกภูมิอังคาร
ทักษาจร 21 เมษายน 2563-สิ้นปี 2563 ตกภูมิพุธ
สรุป เมือง-การเมือง-บุคคลสำคัญยังอยู่ในเกณฑ์ปฏิวัติใหญ่และล็อกถล่มต่อไป-ถูกโฉลกกับการขยายเมืองหลวง-รัฐบาลรับภาระหนักมากเถลือกไถลไปราวใกล้สิ้นปีก็จะออกอาการ-ขณะฝ่ายค้านก็มีเคราะห์-เลือกตั้งท้องถิ่นอั้นไม่ไหวตั้งแต่ต้นปี-อุบัติเหตุฟืนไฟควันระเบิดในเมืองแรงจัด-ลุ้นเทวดาจะให้โชคเมืองหรือไม่-ปลายปีระวังราหูค้นทรัพย์-บวกจันทร์ล่าราหูคือประชาชนสร้างหนี้อาจก่อปัญหา
โดยตลอดปี 2563 เรื่องสำคัญทั้งดี-ร้ายที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ คาดจะเป็นไปดังนี้
1.ตลอดทั้งปี 2563 เมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของการปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงใหญ่ทั้งเมือง-สภาพแวดล้อม ด้านต่างๆ ต่อไป บางครั้งเกิดแบบกะทันหัน เกินคาดคิด ล็อกถล่ม ซึ่งเป็นการเกิดต่อเนื่องมาจากประมาณมีนาคม 2559
คาดว่า ประมาณกลางปี 2565 หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะ จะคล้ายๆ กับเงาะถอดรูป หรือลอกคราบใหม่ประเทศไทยไปสู่สิ่งที่ล้ำสมัย ที่จะมีทั้งด้านดีและร้าย (เกิดจากมฤตยูจร 0 เจ้าของการปฏิวัติใหญ่ ภัยอาเพศ ล็อกถล่มเกินคาดคิดเดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาเมือง)
โดยปี 2563 นั้น มีเกณฑ์ทางโหรน่าสนใจคือ สถานะของเมืองรัตนโกสินทร์จะถูกทบทวน-ปรับแผน-แก้ไขอย่างคึกคัก ตั้งแต่ประมาณต้นกันยายน 2563 เป็นต้นไป-สิ้นปี 2563
ประเด็นนี้ชี้ไปที่หลังจากปฏิวัติใหญ่ในแผ่นดิน คือเปลี่ยนรัชกาล-ผลัดแผ่นดินเมื่อ 13 ตุลาคม 2559 มาแล้ว แต่มฤตยูจรก็ยังทับลัคนาเมืองต่อไป จึงให้จับตาการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในแผ่นดินระดับเดียวกันกับคราวผลัดแผ่นดินที่มีลาง-มีอาการนำมาแล้วสองทาง
ก.ย้ายหรือขยายเมืองหลวง นำเสนอโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สภาพัฒน์ศึกษาเมื่อ (เกิดขณะมฤตยูจรถอยหลังในราศีเมษ)
ข.แนวความคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 อันจะกระทบต่อราชอาณาจักร ที่นำเสนอโดย ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ ในงานเสวนาเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปัตตานี (เกิดขณะมฤตยูจรถอยหลังในราศีเมษ)
จึงคาดได้ว่าถ้าจะเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติใหญ่ในระดับใกล้เคียงกับวันที่ 13 ตุลาคม 2559 และถูกโฉลกกับดวงชะตาเดิมของเมืองที่ออกแบบมาใน แบบวุ่นวาย-ไม่เลิก แต่เข้มแข็งไม่ล้ม-หลังวิกฤติจะมีโอกาสตามมานั้น แผนการเริ่มศึกษา-วางแผนขยายเมืองหลวงออกไปดูจะถูกเข้ากับสถานการณ์มากกว่าการย้ายเมืองหลวง ที่เป็นการท้าทายอาถรรพ์ดวงเมืองมากเกินไป และมีโอกาสที่จะไม่สำเร็จ
2.การเมืองท้องถิ่น เริ่มปรากฏการณ์เลือกตั้งที่ปี่กลองจะเริ่มคึกคักมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2563 เป็นการเริ่มต้นปีใหม่สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ถูกแช่แข็งมานาน
ส่วนสนามสำคัญคือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น คาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นกลางเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ซึ่งการเลือกนี้ หากทำประมาณมีนาคม 2563-13กรกฎาคม 2563 ในทางโหรจะได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่ปลอดจากการได้คนเก่า
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การเลือกตั้งท้องถิ่นหลายแห่งก็ไม่วายจะสร้างความแปลกประหลาด แถมอาจมีล็อกถล่มหลายสนาม(มฤตยูจรยังทับลัคนาเมืองอยู่ตลอดทั้งปี)
3.การเมืองระดับประเทศ-เดินหน้าไปถึงปลายปีเริ่มเห็นแววยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงใหญ่-ตลอดทั้งปีวงการเมืองพร้อมจะมีเรื่องไม่คาดฝัน-ล็อกถล่มเกิดให้แปลกใจได้ตลอดเวลา
3.1 ตลอดทั้งปีการเมือง-นักการเมือง-พรรคการเมือง-องค์ประกอบต่างๆ ทางการเมืองจะยังถูกเขย่า-ปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไป ชนิดใครไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยนหรือไล่ล่า ถ้าฝืนกระแสการเปลี่ยนแปลงก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด แล้วการเปลี่ยนแปลงแต่ละคราวยังพร้อมจะล็อกถล่มสร้างความแปลกใจได้ทุกเมื่อ (มฤตยูจรที่ราศีเมษทับพระอาทิตย์ ๑ ดวงเดิมของเมืองที่หมายถึงการเมือง)
โดย ตัวการของการเปลี่ยนแปลงใหญ่นี้เกิดจากจิตใจของประชาชนที่พลิกผันและเปลี่ยนแปลงแบบทันสมัย-ล้ำสมัย-หรือหากจะรุ่นเก่าก็ย้อนยุคแบบแปลกประหลาด (มฤตยูจรทับพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑ ตัวแทนจิตใจคนไทยในดวงเมือง) โดยอาการคือ
3.2 ตั้งแต่ต้นปี 2563-1 มีนาคม 2563 เกิดการตรึงกำลังกันเต็มที่ในทางการเมือง (เป็นมาตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2662 แล้ว) ทั้งสองฝ่ายต่างปรับกลยุทธ์สู้รุก-ไล่กันชนิดไม่มีใครยอมใครเช่นที่เกิดในกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร-สารเคมีสามชนิด-สภาล่มเพราะขัดแย้งเรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้อำนาจ คสช. ฯลฯ
3.3 ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563-สิ้นปี ฝ่ายรัฐบาลรับภาระหนักมาก (พระเสาร์จรตัวแทนรัฐบาลเดินอยู่ในราศีมังกร-ภพที่สิบหมายถึงการแบกภาระบ้านเมืองหนักหน่วง) ขณะที่ฝ่ายค้านก็มีเคราะห์ (พระเสาร์จรที่ราศีมังกรเล็งใส่พระจันทร์ดวงเดิมดวงเมืองที่เป็นตัวแทนฝ่ายค้านที่สถิตอยู่ในราศีกรกฎ)
3.4 สำหรับปี 2563 นี้ การปรับ ครม.คาดว่าจะมีขึ้นประมาณวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ก่อนหน้า หรือหลังเจ็ดวัน(ปรากฏการณ์พระเสาร์จรเดินถอยหลังในราศีมังกร)
3.5 ครั้นตั้งแต่ 16 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ต้องระวังปรากฎการณ์ที่โดดเด่นขึ้นมาในดวงชะตาคือ อาจจะมีต่างประเทศเข้ามาแทรกแซง หรือแอบซ่อนชักใยกิจการภายในของประเทศ (พระอังคารจรดาวประจำชีพเมืองพักรหรือเดินถอยหลังจากเมษกลับเข้ามีน..อังคารพักรมีศึกต่างเมืองมา)
3.5 แม้ตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป สถานการณ์ความขัดแย้งดูจะลดลงชั่วคราว (พระอังคารกาลกิณีจรเดินถอยหลังอยู่ในภพวินาสน์) แต่ ตั้งแต่ 12 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป แรงกดดันทางการเมืองจะกลับเพิ่มมากขึ้น (พระอังคารจรเริ่มเดินหน้าในราศีมีนช่วยพระราหูจรที่พฤษภบีบดวงชะตาเมือง-การเมือง)
3.6 และแล้วตั้งแต่ประมาณกลางพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป จะมีอาการส่อให้เห็นแวว-อาการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ หากไม่ใช่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาลแบบแปลกประหลาด หรือไม่ก็อาจจะมีกิจกรรมใหญ่ในเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นโดดเด่นขึ้นมา (ปรากฏการณ์พฤหัสบดีจรร่วมธาตุกับพระราหูจร)
3.7 เมื่อสถานการณ์สุกงอม (ดาวอื่นมาผสมโรง) คาดว่าอาการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาลจะเกิดช่วงใดก็ได้ตั้งแต่ปลายธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ข้ามไปถึงปลายกุมภาพันธ์ปี 2564 หรือถ้าไม่ใช่ก็อาจจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
4.เรื่องตำรวจ-ทหารตั้งแต่เมษายน 2563 เป็นต้นไป เป็นระยะเหมาะที่จะทำอะไรดีให้กับวงการตำรวจ (พระราหูตัวแทนตำรวจเป็นศรีหรือสิริมงคลจร)
ส่วนทหารจะมีเรื่องไม่ค่อยเป็นมงคลเกิดขึ้นบ่อย (พระอังคารตัวแทนทหารเป็นกาลกิณีจร) ถ้าจะให้ถูกโฉลกตั้งแต่เมษายน 2563 เป็นต้นไป ทหารไม่ควรทำตัวโดดเด่นหรือล่อเป้า หรือใช้วิธีการตีกรรเชียงอยู่แบบไร้แสงหรือไร้พลัง หรือปิดทองหลังพระ
5.เกณฑ์โชคของเมือง
ปีใหม่นี้โชคของเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะๆ
5.1 เกณฑ์โชคใหญ่ในเมือง-เกิดปรากฏการณ์โชคเทวฤทธิ์ หรือเทวดาให้โชคระหว่าง 1 มีนาคม 2563-ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2563
ปรากฏการณ์ผู้เขียนจับตามานานว่า ก่อนหน้านี้เมืองน่าจะพบทรัพย์ในดินสินในน้ำมหึมา หรือทรัพย์สมบัติที่บรรพบุรุษฝังไว้แต่ก่อนหน้านี้ ปรากฏมีเพียงสมเสร็จปรากฏในป่าเมืองไทย-สัตว์ทะเลเช่นวาฬ หรือฉลามหูดำปรากฏโฉม (พฤหัสบดีศรีจรภพมรณะดวงเมือง)
แต่รอบนี้คาดว่าจะมีข่าวหรือปรากฏการณ์ใหญ่ให้สมใจ-เพราะมุมของดาวจรที่ทำกับดวงเดิมดวงเมืองเล่นนี้ในอดีตเมื่อปี 2516 เคยพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยแหล่งเอราวัณมาแล้ว แต่ไม่ว่าจะได้อะไร อาจจะมีประเด็นกระทบกับเขตแดน-อธิปไตยของประเทศด้วย (พระเสาร์จรเล็งพระจันทร์ดวงเดิม ๒ ตัวแทนเขตแดนของประเทศ)
5.2 การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะเป็นไปอย่างหนักหน่วง เพื่อที่จะได้ใช้อีกหลายปีตลอดระยะเวลายี่สิบปี (ของยุคที่ 13 หรือยุค 4.0 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มปรากฏขึ้นปลายขอบฟ้ามาตั้งแต่ประมาณต้นมีนาคม 2562) โดยจะเป็นทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งบนดิน อากาศ น้ำ เช่นจะได้เริ่มการเกิดของสนามบินแห่งใหม่ กิจการราง ฯลฯ
5.3 ส่วนด้านรถไฟนั้นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ จะถูกนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่
5.4 เป็นปีทองของการจัดระเบียบเรื่องที่ดิน-ต้นไม้ของภาครัฐ ส่วนภาคประชาชนจะได้เห็นการเริ่มสร้างสวนป่าส่วนบุคคล และปลูกต้นไม้ยืนต้นตามที่รัฐบาลนำร่องแก้กฎหมายป่าไม้ไว้แล้ว ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แผ่นดินโดยอัตโนมัติ
5.5 การลงทุนเพื่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมเกี่ยวกับผู้สูงอายุ (พระเสาร์จร 7 ถึงพระพุทธดวงเดิม ๔)
6.เกณฑ์เคราะห์ใหญ่ในเมืองจะเริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม 2563-ปลายปี (ยาวไปถึง 1 มีนาคม 2566) เกิดกับประชาชนและหญิงงาม
6.1 อาจจะมีบางช่วงที่เมืองมีเคราะห์จากคนมุสลิม หรือแขก ผสมโรงกับชาติตะวันตกแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่(เกณฑ์พระเสาร์จร 7 เดินอยู่ในราศีมังกรภพที่สิบดวงเมือง-ตามโฉลก….ให้เกรงไฟ ศัตรูใหญ่จะทำณรงค์…เกณฑ์นี้ในอดีตเคยเกิดสงครามอ่าวที่รบกันขนาดใหญ่มาแล้ว ไทยเลยเดือดร้อนเรื่องน้ำมัน-ก๊าซ)
อย่างไรก็ตาม เคราะห์นี้อาจจะยังไม่ปรากฏในปี 2563เพราะโอกาสที่จะเกิดยาวสองปีครึ่ง คือระหว่าง 1 มีนาคม 2563-1 มีนาคม 2566
6.2 เคราะห์จะเกิดกับประชาชนโดยตรง (พระเสาร์จร 7 เล็งพระจันทร์ ๒ ดวงเดิม) เช่น รัฐบาลอาจจะหาทางเพิ่มภาษี ฯลฯ
6.3 คนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของเคราะห์คือ หญิงสาวประเภทดาราหรือนางงาม หรือนักร้องหรือศิลปินคนเด่นดัง หรือสุภาพสตรีระดับนางพระยา-ข้าราชการหญิงตำแหน่งสูงๆ (พระเสาร์จร 7 ถึงพระศุกร์ ๖ ดวงเดิม)
คำแนะนำ สำหรับวิธีการแก้เคล็ด-เสริมดวงชะตาเมืองและตนเองของคนสองกลุ่มนี้ คือทำสวนป่าส่วนตัว หรือหากทำไม่ได้ต้องหาทางปลูกต้นไม้ใหญ่เสริมความยั่งยืนของชีวิต และเพื่อความเริ่มเย็นของแผ่นดิน
7.เกณฑ์ฟืนไฟ-อุบัติเหตุใหญ่เกี่ยวกับอากาศ หรือทางอากาศ-ก๊าซ-การทะเลาะเบาะแว้งในเมืองแบบทะเลาะกันบนท้องถนน-ไม่มีใครยอมใคร จะแรงและถี่มาก เริ่ม 1มีนาคม 2563-สิ้นปี
ปกติแล้ว ไฟไหม้-ควัน-อุบัติเหตุ ก็เกิดขึ้นตลอด แต่ปี 2563 ควรจะเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป เพราะเกณฑ์ร้ายทางโหรโดดเด่นมากกว่าปกติถึงสองเกณฑ์ (พระเสาร์จร 7 เป็นสิบมีโฉลกบอก…ให้เกรงไฟ..ร่วมกับเกณฑ์ พระอังคารดาวประจำชีพของเมืองและตัวแทนอุบัติเหตุ ผ่าตัด เลือด การทะเลาะเบาะแว้ง อาวุธ ฯลฯ เป็นกาลกิณีจร ตั้งแต่วันคล้ายวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563-สิ้นปี) จึงต้องระวังไฟไหม้-ควัน-อุบัติเหตุ-ระเบิดทั้งทางบกหรือดิน-น้ำ-อากาศ
เน้นเป็นพิเศษไปที่
7.1 ช่วง 22 มีนาคม-1 พฤษภาคม 2563 (อังคารกาลกิณีจรที่ราศีมังกรถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑ ที่สถิตราศีเมษตามโฉลก…อังคารคาดอาทิตย์ เกิด ภัยไฟพิษ ต้องด้วยศัตรูหมู่ทมิฬ จะต้องเขี้ยวงา เนื้อหนังพังภินท์ ต้องพิษมหิทธิ์หิน….)
และเนื่องจากสงกรานต์อยู่ในระยะนี้ ควรเตรียมการรับมือเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภากาชาดอาจต้องใช้เลือดมากเป็นพิเศษ (พระอังคารเป็นตัวแทนเลือด)
7.2 ช่วง 1 พฤษภาคม-16 มิถุนายน 2563 ระวังฟืน-ไฟ-ก๊าซ-ลม หรือแม้แต่พายุ และอาจมีภัยประหลาดๆ เช่น ไฟในน้ำ ไฟใกล้น้ำ (เกณฑ์พระอังคารจร 3 ถึงพระอังคารดวงเดิม ๓ตามโฉลก-ภุมโมภุมมะ ทันกันนั้นจะเกิดการกลีกลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา…)
7.3 ระหว่าง 28 ธันวาคม 2563-24 กุมภาพันธ์ 2564 (พระอังคารจร 3 ทับลัคนาดวงเมืองและพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑ อีกรอบ)
8.ด้านเศรษฐกิจอย่าประมาท-คะนองเรื่องก่อหนี้สิน-เก็งกำไร เพราะปลายปี 2563 มีเกณฑ์ชะตาเมืองแตกเพราะราหูค้นทรัพย์รออยู่
โดยลีลาของอาการจะปรากฏเป็นดังนี้
8.1 ตั้งแต่วันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563 เป็นต้นไปเป็นเวลา 1 ปี (ถึง 21 เมษายน 2564) พระราหูเจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความอยากได้ (ลาภะ-ดวงเมือง)-ความเสี่ยง-คิดแต่ทางได้ไม่คิดทางเสีย ฯลฯ เป็นศรีจรตามระบบทักษา จึงคาดว่าประชาชนจะเริ่มเก็ง-เสี่ยงกำไรมากผิดปกติ เพราะมองสถานการณ์ในแง่ดีเกินไป
8.2 ครั้นตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จะเกิดปรากฏการณ์เสี่ยงหรือสร้างหนี้ขนาดใหญ่ของประชาชนและรัฐบาล (ปรากฏการณ์ จันทร์ล่าราหู คือพระราหูจรเข้าไปเดินในราศีพฤษภโยคหลังพระจันทร์ดวงเดิมเป็นคู่คะนองหนี้-ประชาชนก่อหนี้ส่วนบุคคลและรัฐบาลก่อหนี้ของแผ่นดินซ้อนด้วย)
8.3 ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จะเกิดปรากฏการณ์ราหูค้นทรัพย์แผ่นดินเกิดขึ้นซ้อนเข้ามาอีก (พระราหูจร 8 เข้าไปเดินในราศีพฤษภภพที่สองดวงเมือง-ทำให้ดวงชะตาเมืองแตกเรื่องเงิน-เรียกราหูค้นทรัพย์)
8.4 แต่เป็นเพราะช่วงแรกคนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ตระหนักเพราะเหมือนมีม่านบังตา (พระราหูเจ้าของความลุ่มหลงมัวเมายังเป็นศรีจรอยู่-คล้ายๆ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว) แต่อาการนี้จะไปปรากฏให้ปวดหัวและต้องแก้ไขกันหนักตั้งแต่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นไป (เมื่อพระราหูหยุดเป็นศรีจร)-ยาวไป 29มีนาคม 2565 (พระราหูจรย้ายราศีเข้าไปเดินในเมษ)
สรุปคือ ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะดีร้ายแค่ไหน ปี 2563 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเริ่มต้นไตรมาสที่สองของปี เป็นต้นไป โปรดระวังการเก็งกำไรเกินขอบเขต-อย่าเป็นสิงห์คะนองหนี้ เพราะความอยากได้-คิดถึงแต่ทางได้ไม่คิดทางเสีย เพราะอาการราหูค้นทรัพย์ทั้งเมืองและประชาชนจะเกิดอย่างแฝงเร้น แล้วอาจจะเริ่มเกิดปัญหาหนักตั้งแต่หลังวันเกิดดวงเมืองปี 2564 เป็นต้นไป
9.เกณฑ์สำคัญอื่นๆ ที่จะเกิดในปี 2563
9.1 ตลอดทั้งปี 2563 ยังจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่เกี่ยวกับตัวบุคคล-สถานะ-งานภาระหน้าที่ของคนสำคัญ ผู้มียศศักดิ์ ผู้นำในองค์กรสำคัญต่างๆ ทั้งหญิง-ชายต่อไปบางครั้งเกิดแบบกะทันหัน เกินคาดคิด ล็อกถล่ม แถมเกิดได้หลายรอบอีกต่างหาก (มฤตยูจร (0) เจ้าของการปฏิวัติใหญ่ ภัยอาเพศ ล็อกถล่มเกินคาดคิดเดินอยู่ในราศีเมษทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง (๑) ที่สถิตราศีเมษซึ่งเป็นตัวแทนคนสำคัญ ในเมืองสามารถสร้างความแปลกใจเกินคาดคิดเกี่ยวกับบุคคลสำคัญทั้งชาย-หญิงได้ทั้งปีต่อไป)
9.2 ตลอดทั้งปีจิตใจของคนในเมืองยังถูกเขย่าเปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไป
ประเด็นนี้ต้องระมัดระวังและจัดการให้เหมาะสมในการต่อสู้กันทางความคิด-จิตใจ-ความเชื่อ-ศรัทธาระหว่างคนในเมืองที่สะสมพลังความขัดแย้งกลายเป็นปะทะกันในโลกความเป็นจริงที่อาจเกิดแบบไม่คาดฝันไม่คาดคิด (เกิดจากมฤตยูจร 0 เจ้าของการปฏิวัติใหญ่ ภัยอาเพศ ล็อกถล่มเกินคาดคิดเดินอยู่ในราศีเมษทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง ๑ ที่สถิตราศีเมษซึ่งเป็นตัวแทนจิตใจหรือตนุเศษของเมือง)
9.3 ตั้งแต่ต้นปี-ครบรอบวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2563 ยังมีปรากฏการณ์ตามตำราให้จับตาต่อไปคือ อาการจะเกิดกับคนสำคัญของเมืองคือ ..ติโรคังเคืองเข็ญ เป็นทั้งนอกในไซร้ ลุลาภได้ลูกเมีย ทรัพย์สูญเสียเงินทอง ศัตรูจองจัณฑ์โทษ ชายโสดสูงสองสี หญิงกาลีพิการ ทรัพย์สินท่านอย่าให้กู้ เป็นศัตรูสู่ภายหลัง…
อธิบายคือคนสำคัญบางคนอาจป่วย บางคนแต่งงาน ระวังศัตรูของเมืองประเภทชาย-โสด-สูง-ผิวสองดี หรือหญิงกาลี-พิการ และเมืองต้องระวังการปล่อยเงินในลักษณะให้กู้หรือสินเชื่อเพราะคนได้ไปอาจจะกลับมาเป็นศัตรูภายหลัง (ยังอยู่ในระยะเมืองอายุย่าง 237 ปี ทางทักษาจรตกภูมิอังคาร มีคำทำนายดังกล่าวข้างต้น)
9.4 ครั้นตั้งแต่ 21 เมษายน 2563 เป็นต้นไป-สิ้นปี เมืองอายุเต็ม 237 ย่าง 238 ปี (ตกภูมิพุธ) มีคำทำนายตามตำราทักษาพยากรณ์ว่า..อย่ากินเนื้อกินนก จะร้อนอกเจ็บนาภี แม้มีความเราชนะ ลาภสรรพะสการกล เกิดมงคลวุฒี..
อธิบายว่า ตั้งแต่วันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2562 เป็นต้นไป-สิ้นปี คนไทยควรระวังอาหารการกิน เพราะจะเกิดเจ็บท้องเจ็บอกได้ แต่ถ้ามีคดีความ หรือตกเป็นจำเลย หรือถูกกล่าวหา(เช่นกรณีจีเอสพี) เรามักจะชนะแถมได้ลาภ และเกิดมงคล
9.5 ผลิตภัณฑ์-ผลิตผลต่างๆ ของชาติ-น้ำ
ข้าวเกณฑ์ร้ายมากกว่าดี รัฐบาลควรวางแผนช่วยเหลือชาวนาไว้ล่วงหน้า
ผลไม้ส่วนใหญ่ที่แพงมากและเป็นปีทองมาของทุเรียน-มังคุด ฯลฯ ตั้งแต่เมษายน 2562 ครั้นตั้งแต่ต้นปี-ประมาณเมษายน 2563 เป็นต้นไปคงเป็นระดับกลางๆ
ตั้งแต่เมษายน 2563 เป็นต้นไป-สิ้นปีแนวโน้ม เรื่องที่จะออกมาดีมากกว่าร้าย เช่น บันเทิง-เหล้า-สลาก (หวย)-การเก็งกำไร-การบิน-ปุ๋ยหมัก-อาหารหมักดอง-รายการโทรทัศน์แบบประโลมโลก-เกมออกไลน์-ของปลอม เช่น ทองปลอมหรือผมปลอม ฯลฯ (พระราหูเป็นศรีหรือสิริมงคลจรตามระบบทักษา)
ตั้งแต่ประมาณเมษายน 2563 เป็นต้นไป เรื่องที่จะออกมาร้ายมากกว่าดีคือ กีฬา เคมี เหล็ก กาแฟ ยาสูบ (พระอังคารเป็นกาลกิณีจรตามหลักทักษา)
ส่วนน้ำช่วงฤดูฝนพอได้แบบกลางๆ จากร่องฝน พายุปีนี้มีเกณฑ์เข้าแบบแปลกๆ ไม่น่าจะต่ำกว่าสองลูก น้ำท่วมถ้าจะมีก็เป็นพื้นที่ๆ ไปตามการตกของฝน แต่เกณฑ์น้ำท่วมใหญ่จะยังไม่เกิด
ตลอดทั้งปีมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวแปลกประหลาด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |