มากับมฤตยู


เพิ่มเพื่อน    

                          ดวงเมืองรัตนโกสินทร์

มฤตยูจรเดินเข้าราศีเมษครั้งที่สามระหว่าง6มีนาคม2559-8กรกฏาคม 2565

ขณะวางเสาหลักเมืองรัตนโกสินทร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325เวลา06.54.นั้น มฤตยูเจ้าของภัยอาเพศ การปฏิวัติ ผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด ล้มสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่กว่า ฯลฯที่ภาษาโหรเรียกมฤตยูดวงเดิมสถิตราศีมิถุน

หลังจากวินาทีนั้น มฤตยูก็จรเคลื่อนทวนเข็มนาฬิกามาเรื่อย และขณะนี้ได้เดินมาทับลัคนาดวงเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษเป็นรอบที่สามที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2559 อันบ่งบอกถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเมือง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสำคัญที่เป็นเป้าหมายหลักของมฤตยูจรทุกรอบที่ทับลัคนาเมืองคือพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง(๑)ที่กุมลัคนาเมืองอยู่ด้วย

ความหมายของพระอาทิตย์คือการเมือง-นักการเมือง-พรรคการเมืองและบุคลสำคัญ -ผู้นำองค์กรต่างๆในเมือง

อาการนี้ปรากฎชัดตั้งแต่วันที่2มีนาคม 2561 เป็นต้นมาที่คสช.ผ่อนผันให้แจ้งจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ลีลาของมฤตยูที่จะส่งให้การจะมีการเขย่า-เปลี่ยนแปลงใหญ่เริ่มออกอาการ เพราะมีแนวโน้มการเกิดของพรรคการเมืองใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทภายใต้กฎกติกาใหม่อย่างล้นหลาม

ทั้งนี้รวมทั้งการเข้ามาในวงการของนักการเมืองหน้าใหม่ที่แนวทางไปกระทบค่านิยมเดิมของสังคมในส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันหลักของชาติ จนหลายฝ่ายไม่สบายใจแล้วตั้งคำถามเอากับผู้เขียนว่า สุดท้ายแล้วผลของมฤตยูที่เคยบอกไว้ตลอดว่าหลังวันที่ 8กรกฎาคม 2565เมื่อมฤตยูยกจากราศีเมษยุติการทับลัคนาเมืองไปแล้ว หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระบรมมหาราชวังเราจะถามตัวเองว่าเมืองผ่านมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร นั้นพอจะบอกอะไรมากกว่านี้ได้หรือไม่

ในฐานะโหรสมัครเล่นไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายพอจะให้คำตอบชัดๆลงไปได้แต่ผู้เขียนขอตกผลึกผลของมฤตยูจรต่อลัคนา-พระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองรอบนี้เทียบเคียงการมาสองรอบในอดีตที่เคยเขียนไว้ในหนังสือ รับมือมฤตยูผู้อาเพศ (สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ-วางขายเมษายน 2559)คือ

1.การมาทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองของมฤตยูรอบแรกระหว่าง24มิถุนายน 2392-25มิถุนายน 2399 ระยะเจ็ดปีที่นั้น เริ่มด้วยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์พร้อมกับทรงสถาปนาพระอนุชาให้มีพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สองคือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มนำประเทศสู่ความทันสมัย-ความเป็นตะวันตกเตรียมพร้อมไว้ให้รับมือกับการล่าเมืองขึ้น ไม่นับรวมด้านศาสนาที่ทรงสถาปนาพระสงฆ์ธรรมยุติขึ้นและอื่นๆอีกมากมาย

สรุปง่ายๆคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้นำสยามโต้คลื่นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของมฤตยูสู่ความทัน-ล้ำสมัยกว่าเดิมอันเป็นหนึ่งในความหมายของมฤตยูนั่นเอง

2.การมาทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองรอบที่สองระหว่าง1มีนาคม 2475-1มีนาคม2482 ที่เป็นไปพร้อมกับเกณฑ์ร้ายอื่นในชะตาเมืองจึงเกิดเหตุกระทบกระเทือนสถาบันหลักของชาติอย่างหนักคือเหตุการณ์ปฏิวัติสยาม24 มิถุนายน 2475 ตามด้วยการเมืองแบบใหม่ที่คนไทยสมัยนั้นไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน อันเป็นผลจากนักเรียนนอกที่ไปศึกษาต่างประเทศ

เมื่อนำเหตุการณ์ในอดีตเทียบเคียงเหตุการณ์ในบ้านเมืองที่ผ่านมาตั้งแต่ 6เมษายน 2559ที่มฤตยูจรมาทับลัคนาเมืองรอบที่สามก็สกัดออกมาได้คือ

1.มฤตยูจรยังจะอยู่ที่เมษไปถึงประมาณกลางปี2565บ่งบอกว่าเมือง-การเมืองยังจะเปลี่ยนแปลงมากมายในระดับที่เรื่องสำคัญๆควรจะต้องใช้วิธีการเหนือกว่าปฏิรูปขึ้นไป

2.ความใหม่-ก้าวหน้า-คนใหม่-แนวความคิดใหม่จะปรากฏมาท้าทายในเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนที่กำลังเกิดในวงการเมืองขณะนี้เพราะมฤตยูคือความล้ำยุค-ก้าวหน้า ชนิดที่อาจถูกมองว่าวิตถาร จนเกิดการปะทะกันอย่างน้อยก็ความคิด หากจัดการไม่ดีก็อาจจะปะทะกันจริงเหมือนการมารอบที่สองของมฤตยู

วิธีการรับมือคือทุกคนทุกฝ่ายต้องเปลี่ยนแปลง-ปรับตัวขนานใหญ่เหมือนที่ผู้เขียนแนะมาตลอด หากไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยน หรือไม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

3.จับอาการแล้วการมาของมฤตยูรอบนี้น่าจะใกล้เคียงกับรอบแรก เพราะหากมาแบบรอบที่สองก็ต้องมีเกณฑ์สำคัญทางโหรมากกว่านี้ร่วมด้วย ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วคือเช่นการได้สมเด็จพระสังฆราชที่เป็นสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายพระป่า-ถอนหมุด-ย้อนอดีตหาความเป็นไทยฯลฯ

4.ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์นั้นพระอาทิตย์(๑)เป็นดาวจิตใจ(ตนุเศษ) ไพร่ฟ้าส่วนใหญ่จึงผูกพันกับสถาบันหลักของชาติซึ่งเป็นพระราชสายโลหิตของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชอย่างแน่นแฟ้น แต่เป็นเพราะพระอาทิตย์เป็นความใจกว้าง-ใจดีอะไรที่มากระทบให้หงุดหงิดก็จะทน แต่หากเหลือทนก็จะออกมาต่อสู้ปกป้องสิ่งที่รักและผูกพัน

5.เป็นเพราะมฤตยูเป็นเจ้าบ้านโชคลาภและความสำเร็จของดวงเมือง และในดวงเดิมดวงเมืองวางอยู่ที่ราศีมิถุน-โยคหน้าลัคนาซึ่งเป็นมุมให้คุณกับชะตาเมือง จึงไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงพลิกผันเพียงใดในที่สุดจะให้คุณดวงเมืองให้มากกว่าให้โทษแต่เพราะเป็นบาปเคราะห์กว่าจะให้คุณต้องแสดงอาการร้ายแล้วดี-ดีแล้วร้าย          

สำคัญคือถ้าอยากให้ดีกับเมืองผู้นำต้องชูธงนำการเปลี่ยนแปลง-ปฏิรูปถูกโฉลกที่สุดคือถ้าเป็นไปได้ให้ถึงกับปฏิวัติไปเลย

ส่วนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรนั้น โหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติเคยเปรยกับผู้เขียนว่า ไม่แน่ใจสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและทีมงานทำอยู่นี้จะเพียงพอต่อการรับมือมฤตยูหรือไม่???


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"