หนาวตายอีกราย สาวใหญ่ดวดเหล้าแล้วนอนไม่ห่มผ้า ซ้ำยังเปิดพัดลม ถึงเช้าตัวแข็ง น่านยังประกาศเขตภัยพิบัติไม่ได้ เปิดรับบริจาคช่วยประชาชน อุตุฯ เผยอุณหภูมิขยับขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังหนาวจัดในภาคเหนือและอีสาน
เช้าวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 266 บ้านกุดเหม่ง หมู่ที่ 2 ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบ น.ส.กุสน อ้อนชัยภูมิ อายุ 57 ปี นอนตัวแข็ง สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้น ภายในห้องนอนยังพบพัดลมเปิดอยู่
นางแพร อ้อนชัยภูมิ อายุ 70 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตได้ดื่มสุราแล้วกินข้าว ก่อนเข้านอนเร็วกว่าทุกวัน เพราะไม่ได้ดูทีวี จนกระทั่งเช้าตนไม่เห็นน้องสาวตื่นขึ้นมาหุงข้าวจึงมาปลุก เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนดึงขาเพื่อปลุกให้ตื่น แต่ต้องตกใจเมื่อพบว่าน้องสาวเสียชีวิตไปนานแล้ว โดยที่ไม่ห่มผ้า อีกทั้งยังเปิดพัดลมอีกด้วย จึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านใกล้เคียง และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
มีรายงานว่า ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูหนาวปีนี้ จังหวัดชัยภูมิมีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวมาแล้ว 4 ราย ล่าสุด น.ส.กุสน เป็นรายที่ 5 ซึ่งเป็นสถิติการเสียชีวิตสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา และสาเหตุส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมดื่มสุราแก้หนาวแล้วเข้านอนโดยไม่ห่มผ้า รวมทั้งเปิดพัดลมนอนในช่วงที่มีอากาศหนาวจัด ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนเกิดอาการชาเกร็งแข็งไปทั้งตัวก่อนช็อกเสียชีวิตฉับพลัน
เชียงใหม่ ยังคงเกิดเหมยขาบหรือน้ำค้างแข็งขาวโพลนปกคลุมบนดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังอุณหภูมิต่ำสุดที่กิ่วแม่ปานวัดได้ 0 องศาเซลเซียส ส่วนที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์วัดได้ 4 องศาเซลเซียส และที่บริเวณยอดดอยอินททนท์วัดได้ 6 องศา นักท่องเที่ยวต่างพากันไปสัมผัสอากาศหนาวคับคั่ง
ลำปาง นางสาวโซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร ให้เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิและสัตวแพทย์ที่ดูแลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง ช่วยกันนำสแลนล้อมรอบโรงเรือนเลี้ยงช้างป้องกันลม และก่อไฟบริเวณภายนอกโรงเรือนเลี้ยงช้างรวม 9 จุด นอกจากนี้ยังใช้ผ้าห่มห่มให้ช้างเล็กเพื่อเพิ่มความอบอุ่นด้วย เนื่องจากอากาศหนาวเป็นลำดับ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนและดึก อุณหภูมิจะลดลงเหลือประมาณ 7-8 องศา ประกอบกับบริเวณโรงเรือนเลี้ยงช้างอยู่กลางแจ้ง ทำให้ลมพัดตลอดเวลา ซึ่งหากปล่อยไว้ตามธรรมชาติ อากาศที่หนาวเหน็บอาจจะส่งผลให้ช้างใหญ่ปอดบวม ส่วนช้างเล็กจะตายได้ง่าย เพราะช้างเป็นสัตว์เลือดอุ่นเหมือนคน หากหนาวมากๆ แล้วไม่ได้รับความอบอุ่นจะมีอาการสั่นมากถึงขั้นเกร็ง และล้มได้ในที่สุด
น่าน แพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผอ.รพ.น่าน และชมรมจริยธรรม รพ.น่าน ได้จัดทำโครงการ “ไม่เอาอะไรนอกจากผ้าห่ม” เพื่อขอรับบริจาคผ้าห่มกันหนาว นำไปมอบให้กับผู้ป่วยและญาติที่มานอนเฝ้าไข้ ที่ต้องประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดและมีผ้าห่มกันหนาวไม่เพียงพอ โดยมีประชาชน หน่วยงานและภาคีเครือข่าย ร่วมกันนำผ้าห่มมาบริจาคที่โรงพยาบาลน่าน
ขณะที่ นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผวจ.น่าน พร้อมด้วยนางเบ็ญจวรรณ ศรีทิพากร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน และหัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ร่วมกันส่งมอบผ้าห่มกันหนาวเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นแก่ผู้ขาดแคลน โดยเฉพาะประชาชนบนพื้นที่สูง
นายวรกิตติกล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขาดแคลนผ้าห่มกันหนาวทั้ง 15 อำเภอ โดยยังไม่สามารถประกาศภัยหนาวได้ เนื่องจากสภาพอากาศยังไม่เข้าตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรม “คลายหนาว ช่วยชาวน่านให้นอนอุ่น” รับบริจาคผ้าห่มและเครื่องกันหนาว เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความหนาวเย็นของประชาชนที่ยังขาดแคลน ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เวลา 15.00 น. ณ ลานข่วงเมืองน่าน ผู้ใจบุญสามารถนำผ้าห่ม เสื้อกันหนาว เครื่องกันหนาว เช่น ถุงมือ ถุงเท้า นำมาร่วมบริจาคได้ หรือร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อจัดซื้อผ้าห่มและสิ่งของจำเป็น ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาน่าน ชื่อบัญชี คลายหนาว ช่วยชาวน่านให้นอนอุ่น เลขที่บัญชี 507 3237 528
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค.62 ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในบริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค.62 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 10-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค.62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระมัดระวังในเรื่องอัคคีภัยเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่หมอกหนาไว้ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |