เล่นเอาไม่ได้กิน ไม่ได้นอน (ไม่ทำงานด้วยหรือเปล่า...ไม่รู้555) ตำรวจระดับ "นายพัน" ที่กำลังรอคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ลงมาถึง สารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2560  เพราะแม้ตามเดดไลน์มติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน นั่งหัวโต๊ะอาทิตย์ก่อน ขยายเวลาการแต่งตั้งให้ถึงวันที่ 15 มี.ค.2561 แต่จนถึงตอนนี้คำสั่งแต่งตั้ง"นายพันสีกากี" ก็ยังประกาศออกมาไม่หมด จน เดอะแจ๊ค-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมาบอก คำสั่งอยู่ระหว่างรอกระบวนการทางธุรการ และตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนักงานกำลังพล แต่จะมีผลพร้อมกันในวันที่ 15 มี.ค. และทางสำนักงานกำลังพลจะมีคำสั่งให้ไปรายงานตัวภายในวันที่ 19 มี.ค.2561 ๐

                แม้สำนักงานกำลังพลจะขยับวันรายงานตัว "ตำรวจ" ที่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งพวก "สมหวัง" และ"โดนเด้ง" ให้ไปรายงานตัววันที่ 19 มี.ค. จากเดิมต้องไปรายงานตัววันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้ แต่สงสัย บิ๊กหมู-พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) จะกันไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด กลัวคำสั่งเล็กคำสั่งลอดออกมาเกินเส้นที่ขีดเอาไว้ เลยแจ้งเวียนให้ลูกน้องรายงานตัว พร้อมรับฟังนโยบายการปฎิบัติงานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันเสาร์ที่ 24 มี.ค.2561 หรือเกือบ 1 อาทิตย์จากวันที่สำนักงานกำลังพลแจ้งไว้...แบบนี้ต้องเรียก"กันเหนียว" (อิอิ) ๐

                เล่นเอาโซเชียลรุมถล่ม "กรมปทุมวัน" แทบแตก หลังประกาศคำสั่งแต่งตั้งโนยกย้ายระดับ รองผบก.-สว. มีชื่อ พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผกก.สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกย้ายไปเป็น ผกก.ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ผกก.ฝอ.สง.ก.ต.ช.) เพราะนอกจากเจ้าตัวจะออกมาตัดพ้อถึงเรื่องไร้เส้น ไร้สาย ไร้นาย จนถูกเตะเข้ากรุจากฝ่ายปฎิบัติไปอยู่สายงานอำนวยการ รวมทั้งผลงานยังเป็นที่ประจักษ์ ได้รับรางวัลมากมาย ทั้ง รางวัล CEO Thailand Award 2018 สาขาผู้บริหารแห่งปี 2561 รางวัลสิงห์ทอง นักปกครองท้องถิ่นดีเด่นแห่งปี รางวัล CEO Global Awards 2018 สาขาข้าราชการทหารตำรวจ และยังมีกำหนดที่จะได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและรางวัลคนไทยตัวอย่างในเดือนเมษายน ตามข้อมูลที่ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เขียนบทความบอกเอาไว้ จน "ผบ.แป๊ะ"ก้นร้อน ต้องออกคำสั่งใหม่ ถอนคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.กันตพงษ์ ที่ย้ายไปเป็น ผกก.ฝอ.สง.ก.ต.ช. ให้มานั่งที่บางบาลตามเดิม ๐

                ในคำสั่ง "ผบ.แป๊ะ" ที่ 85/2561 เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ  ที่มีการถอนคำสั่งแต่งตั้งของ พ.ต.อ.กันตพงษ์ คืนเก้าอี้ ผกก.สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว ยังมี "ผกก."อีก 5 ราย ที่โดนถอนถอนชื่อออกจากคำสั่ง คือ พ.ต.อ.พีรพล ไชยพงศ์ ผกก.สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น ผกก.กลุ่มงานพิจารณา 1 กองมาตรฐานวินัย  พ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะ ผกก.สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ไปเป็น ผกก.สภ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.หญิงวรรญ์ลัดดา พิรุณสารโยธิน ผกก.ฝ่ายวิชาการสรรหา กองสวัสดิการ เป็น ผกก.ฝอ.บก.สกส.บช.ปส. พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี ยะปาละ ผกก.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็น ผกก.ฝ่ายปกครองและการฝึก ศรภ.5  พ.ต.อ.สุรวุฒิ เจริญจิตร ผกก.กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมพิเศษ กองแผนงานอาชญากรรม  เป็น ผกก.สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ล้วนต้องกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมเช่นกัน ๐

                "โผทหาร" กลางปี260 ตำแหน่งคลอดมาแบบเงียบๆ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปตามคาดเมื่อ "บิ๊กอาร์ท" พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช  แม่ทัพภาคที่ 4 ยังคงอยู่ที่เดิม นั่งทำงานในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภาคใต้ยันเกษียณอายุราชการ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ที่คงมาเอ่ยได้ตอนประกาศแล้ว คือ เป็นการปรับย้ายในส่วนของตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.)  ที่ขยับ  "บิ๊กบี้" พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้  จาก ผบ.พล.1 รอ.ไปเป็น  รองแม่ทัพภาคที่ 1 โดยดัน  "บิ๊กอู๋" พล.ต.วุฒิชัย  นาควานิช  รองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องชาย  "บิ๊กหมู" พล.อ.ธีรชัย นาควานิช  องคมนตรี ไปครองยศพลโทไว้ก่อน  และมีชื่อ "บิ๊กอ๊อฟ" พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี  ผบ.พล.ร.11 เข้ามาเป็น ผบ.พล.1 รอ.แทน

                ปลายปีนี้จึงน่าลุ้นกันตัวโก่งสำหรับการโยกย้ายในกองทัพภาคที่ 1 เพราะมีหลายคนต่างมีโอกาสได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1  เมื่อ "ตู่เล็ก" พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา  แม่ทัพภาคที่ 1 คนปัจจุบันต้องขยับขึ้นพลโทตามที่จังหวะเวลา  หนึ่งในนั้น คือคนที่เป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่ต้น คือ "บิ๊กหนุ่ย" พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1  น้องรักของ "บิ๊กหมู" ตามมาด้วยเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรรุ่น 22 ของ พล.ท.ธรรมนูญ คือ  "บิ๊กติ่ง" พล.ต.สันติพงศ์  ธรรมปิยะ  รองแม่ทัพภาคที่ 1  ที่มีแรงดันจากตึกไทยฯ และที่น่าจับตามองคือการขยับไปครองอัตราพลโทของ "บิ๊กอู๋" ที่พร้อมจะกลับมาเป็นตาอยู่ หากสมการจัดทัพไม่ลงตัว  แต่ในที่สุดจะ "ปิดจ็อบ" ที่การเข้ามาอยู่ชื่อ ของ พล.ต.ณรงค์พันธ์  ที่ใครๆ ก็รู้ดีว่าพลังภายในนั้นแรงแค่ไหน

                ในขณะที่การเคลื่อนตัวของ เตรียมทหารรุ่น 20 (ตท.20)  ในโผกลางปี แม้จะมีไม่มากเหมือนการปรับใหญ่ปลายปี60  แต่ในกองทัพภาคที่ 4 ก็ได้ขยับ "บิ๊กเดฟ"พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4  ขึ้นอัตราพลโท ในตำแหน่ง แม่ทัพน้อยที่ 4  เพื่อเข้าฮอร์สขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 4 ปลายปี เช่นเดียวกับ พล.ต.ผดุงเกียรติ โปร่งจิตต์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ที่ขยับมาเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 นอกจากแสดงให้เห็นพลังของ  ตท.20 ภายใต้การนำของ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ที่เตรียมก้าวย่างช้าขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก "บิ๊กเจี้ยบ"  พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ที่กำลังเกษียณอายุราชการแล้ว  ยังทำให้เห็นว่า "โผทหาร"ในยุคนี้ "บิ๊กแดง" มีบทบาทสูงแค่ไหน ๐

                แน่นอนว่าการวางไลน์เพื่อส่งไม้ในช่วง "บูรพาพยัคฆ์" อัสดง  เนื่องจาก "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กำลังเจอศึกหนักในศึกเขย่าเก้าอี้ "สนามไชย1" การสร้างทายาทในสายเพื่อรับไม้ต่อนับจาก พล.อ.ธีรชัย  เป็นต้นมา จึงขาดตอน-ขาดช่วง  เนื่องเพราะการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจใหม่จน"สายวงศ์เทวัญ" ย้ายสลับที่ไปอยู่อีกระนาบหนึ่ง  นอกจากสูตรการจัดทัพแบบแบ่งขั้วแล้ว การจับมือของรุ่นเพื่อสกัดการขยายตัวของแผงอำนาจ ตท.20 จึงเกิดขึ้นตามธรรมชาติ  สูตรจับมือ  ตท.18-21 เพื่อถ่วงดุลจึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ  แต่เมื่อเห็น "บิ๊กอ้อม" พล.อ.วีรชัย  อินทุโสภน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ( ตท.18) แล้ว กับ "บิ๊กนัย" พล.ท.สุนัย  ประภูชเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.)  จับคู่สนทนาในงานอย่างออกรสออกชาดเมื่อไหร่ อย่าไปถามไถ่เรื่อง "ประสานมือ"  ๐

                จัดงานครบรอบวันสถาปนากองบัญชาการกองทัพไทย 58 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปีนี้ "บิ๊กต็อก" พล.อ.ธารไชยยันต์  ศรีสุวรรณ  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เชิญอดีต ผบ.ทสส. และ อดีตผู้บังคับบัญชาหลายคนในอดีตมาร่วมงานได้หลายคน   แม้จะถูกมองว่าเป็น "ยักษ์ไร้กระบอง" เพราะไม่ได้คุมขุมกำลังปฏิวัติเหมือน เหล่าทัพ แต่บทบาทของกองทัพไทยในยุคหลังเกี่ยวกับการฝึกร่วมผสม การฑูตทางทหาร ถือว่าโดดเด่น  คนที่มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทสส. จึงต้องได้รับการยอมรับพอสมควร  ที่ผ่านมามองว่า "เจี้ยบใหญ่" พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร  วางทายาทไว้ถึง 3- 4 รุ่น  จนถึง "บิ๊กกบ" พล.อ.พรพิพัฒน์  เบญญศรี เสนาธิการทหาร ที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทสส.ในปลายปีนี้ ซึ่งยังไม่มีใครล้วงเข้ามาได้   ถึงแม้ "บิ๊กกบ"จะถูกวางตัวมาตั้งแต่ยุค "เจี้ยบใหญ่" แต่ก็ถือเป็นลูกน้องเก่าของ "บิ๊กต๋อย"พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์  ที่เติบโตมาตามลำดับชั้น จนขึ้นแท่นอาวุโส "เต็งหนึ่ง" ที่ยังไม่มีข่าวเบียดแทรกมาจากทางใด ในขณะนี้๐