ประธานรัฐสภานำสมาชิกวางพานพุ่มถวายราชสักการะ "ร.7" เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ "จุรินทร์" เสียงแข็งต้องสะเดาะมาตรา 256 ย้ำจุดยืนก่อนร่วมรัฐบาล ส่ง "บัญญัติ" นำทีมถกญัตติตั้ง กมธ. พท.อ้างเรื่องสำคัญขออภิปราย 12 ชั่วโมง "วิษณุ" แจงหวั่นครหาส่ง "18 มงกุฎ" แทนหนุมาน "ปิยบุตร" เดินสายปลุกฉีก รธน.

    ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา องค์กรอิสระ และผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ นำพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมพระรูปต้นแบบพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 ถือเป็นการจัดงานครั้งแรก หลังจากย้ายเข้ามาใช้พื้นที่ในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 
    จากนั้นมีพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมถวายเครื่องไทยธรรมและภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 
    นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคว่า พรรคมีจุดยืนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเข้าร่วมรัฐบาลมีเงื่อนไขหนึ่งคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมไปถึงพรรคพลังประชารัฐ ก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ตั้งแต่ต้น 
    "เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาและกระบวนการไปอย่างไรและได้ข้อสรุปอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ชัดแล้วว่าจะแก้ไขมาตราอะไร ลงลึกขนาดนั้นแล้ว ศึกษามาครบแล้ว อย่างน้อยที่สุดหมวดว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไข เพราะถ้าไม่แก้ไขหมวดนี้ก่อน สุดท้ายรัฐธรรมนูญแก้ไขไม่ได้เลย ต้องสะเดาะกุญแจดอกนี้ออกก่อน ประตูประชาธิปไตยถึงจะเปิดได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงจะเริ่มต้นได้ ประชาธิปัตย์ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ชัดตั้งแต่ก่อนตัดสินใจร่วมรัฐบาล" นายจุรินทร์ระบุ
    เมื่อถามว่า การศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ควรจบลงแค่การทำรายงานและส่งรัฐบาลเท่านั้นใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องนำไปสู่ภาคปฏิบัติต่อไป นี่ก็ชัดเจนแล้ว
    นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ส.ส. ว่าที่ประชุมได้วางตัวบุคคลที่จะอภิปรายในญัตติที่ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นำทีมอภิปรายร่วมกับ ส.ส.อีกหลายคน ทั้งนี้ พรรคมีความชัดเจนในการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ง่ายขึ้น เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ส่วนตำแหน่งประธาน กมธ.นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวที่จะต้องไปเลือกกันตามข้อบังคับการประชุมฯ
    นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะผู้เสนอญัตติคนหนึ่ง จะเป็นผู้อภิปรายต่อจากการอภิปรายของนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้เสนอญัตติที่ 1 ที่จะอภิปรายเป็นคนแรก โดยจะนำเสนอใน 3 ประเด็นคือ จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ทำไมต้องมีเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการเข้าร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ และทำไมพรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขมาตรา 256 เพียงมาตราเดียว  
    ส่วนตำแหน่งประธาน กมธ.ชุดนี้ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ และจะต้องจับตาดูว่าส่งใครมาเป็นประธาน กมธ. ซึ่งการกำหนดตัวบุคคลในตำแหน่งนี้ เป็นการบ่งบอกถึงเจตนาของพรรคพลังประชารัฐ ว่ามีความจริงใจในการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ต้องการให้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อ 12 สำเร็จหรือไม่
ส่ง 18 มงกุฎแทนหนุมาน
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่าหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้ง กมธ.เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งโดยหลักแล้วเมื่อมีการตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมา ไม่ว่าชุดไหนก็ตาม คำว่าวิสามัญบอกอยู่แล้วว่าเป็นเฉพาะกิจ มีวันสิ้นสุด ซึ่งสภาจะต้องบอกตั้งแต่ตอนตั้งว่ามีกำหนดเวลาเท่าไร และเมื่อครบกำหนดยังสามารถขยายเวลาต่อได้    
    ส่วนที่มีการมองกันว่ารัฐบาลไม่จริงใจ เพราะไม่ส่งคนระดับบิ๊กๆ เข้าไปนั่งเป็น กมธ.นั้น นายวิษณุกล่าวว่า "ถ้าส่งคนแบบบิ๊กๆ ไป คุณก็จะไปมองอีกแบบหนึ่ง ส่งคนพวกนี้ไปก็อาจจะมองว่าส่งคนไปห้ำหั่นโรมรันพันตู สมมติส่งผม ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อย่างนี้บิ๊กหรือไม่ แล้วคุณว่าเสียงวิจารณ์จะออกมาอย่างไร เริ่มต้นเขาก็ตีกันก่อนแล้วว่า ไม่เอานายมีชัย นายบวรศักดิ์ นายวิษณุ ฉะนั้นก็ไม่ส่งระดับหนุมาน แต่ส่งระดับ 18 มงกุฎไป"
    เมื่อถามว่า ทำไมจึงเรียกคนที่ไปเป็น กมธ.ว่าอยู่ในระดับ 18 มงกฎ รองนายกฯ กล่าวว่า “อ้าวลูกน้องของหนุมานเขาเรียก 18 มงกุฎ พวกคุณไม่รู้เหรอ” เมื่อถามย้ำว่า 18 มงกุฎในความเข้าใจของคนทั่วไปคือไม่จริงจัง เหมือนโจร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ ในรามเกียรติ์ ถ้าในระดับบิ๊กคือหนุมาน พาลี สุครีพ ชมพูนท แต่ถ้าระดับอื่นเขาเรียกว่าเป็น 18 มงกุฎ เป็นลิง 18 ตัวสวมมงกุฎ
    ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมวิปพรรคและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า ญัตติดังกล่าวเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลจะได้มีการอภิปราย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องศึกษากระบวนการและวิธีการในการนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่ขาดประสิทธิภาพ ไปจนถึงเรื่องของการที่รัฐธรรมนูญถูกตั้งคำถามว่าตั้งใจสืบทอดอำนาจ ซึ่งวันที่ 11 ธ.ค.นี้ น่าจะได้เวลาอภิปรายแค่ 3 ชั่วโมง ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะขอ 9 ชั่วโมง รวมระยะเวลาที่ต้องการใช้ในการอภิปรายน่าจะอยู่ที่ 12 ชั่วโมง
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันสร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง เพราะเอื้อทุนผูกขาดประเทศ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม-เศรษฐกิจสูงมาก เรื่องตลกร้ายคือแม้แต่ฝ่ายสืบทอดอำนาจที่ประกาศว่ารัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา ก็ยังปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงกลายเป็นบ่วงพันธนาการความก้าวหน้าของประเทศ ดังนั้นทีมเพื่อไทยจึงขอชวนคนไทยมาร่วมกันเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศไปด้วยกัน จะต้องเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับที่เขียนด้วยเนติบริกรหน้าซ้ำ นักปฏิรูปหน้าเดิม ที่มีเป้าหมายเพื่อเน้นสืบทอดอำนาจ 
    นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง อยู่ที่คนเป็นสำคัญ หาใช่รัฐธรรมนูญไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใดๆ จะดีขนาดไหน แต่ถ้าคนยังเลวและเป็นคนชั่ว ก็ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญเหมือนกับธรรมะ แม้จะดีเลิศประเสริฐศรีเพียงใด ก็ยังมีคนชั่วคนเลวอยู่เต็มแผ่นดิน บ้านเมืองจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่คนดีหรือคนเลวเป็นสำคัญ ก่อนที่จะสำรวจตรวจสอบศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ลองส่องกระจกแล้วตรวจสอบศึกษาตัวเองก่อนดีไหม เมื่อพบข้อบกพร่องหรือจุดไม่ดีอยู่ที่ตรงไหน อย่างไรก็จะได้แก้ไขตัวเองก่อน เผื่อบางทีดวงตาจะได้เห็นธรรมขึ้นมาบ้าง
ปลุกฉีก รธน.ฉบับแก้แค้น
    ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นำนักศึกษาร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันรัฐธรรมนูญประจำปี 2562 ด้วยการเขียนข้อความลงในกระดาษและหมวกกระดาษ ในหัวข้อ “ยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน เพื่อ?” และ “ ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. เพราะ?” โดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมถึงแกนนำนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ นายจตุรภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ทั้งนี้ นายปิยบุตรได้เขียนข้อความว่า "ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเพื่ออนาคตประเทศไทย และยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช. เพราะเป็นมรดกบาปของ คสช." 
    จากนั้นนายปิยบุตรได้กล่าวบนเวทีที่ห้องประชุมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในหัวข้อ “รัฐธรรมนูญ กับปัญหาสิทธิมนุษยชน” ว่าทุกคนรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของใครและใครทำ ร่างขึ้นเพื่อการแก้แค้น เป็นภาพสะท้อนได้ดีที่สุดว่าอำนาจของฝ่ายที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งยังคงมีมากกว่าฝ่ายที่มาจากการเลือกตั้ง อำนาจของประชาชนมีน้อยกว่าอำนาจจากหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ดังนั้นวันนี้เราต้องหาทางออกจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้ได้ เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้กับประเทศได้ และที่สำคัญคือการไม่สามารถนำมาซึ่งความปรองดองและสมานฉันท์ได้ ไม่สามารถนำมาปฏิรูปประเทศได้ 
    อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ยอมรับว่าแก้ยากมาก แต่เราต้องเริ่มรณรงค์ที่จะแก้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งวันนี้กระแสสังคม พรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งนักการเมืองจากหลากหลายพรรคก็มีการรณรงค์ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้นั้นมีปัญหา และต้องหาทางแก้ให้ได้ โดยต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญจากการแก้แค้นและเอาคืน มาเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชามติของคนไทย ยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 นั้นมีความชัดเจนในเรื่องการให้ทหารกลับ กรมกอง เราได้รัฐบาลที่มีศักยภาพภายใต้การตรวจสอบ แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 60 นั้นคือการที่ทำให้ทหารนั้นบรรลุผล.