อนค.รับชะตาขาด! ‘ปิยบุตร’เชื่อใบสั่งผู้มีอำนาจ/‘กกต.’ปัด


เพิ่มเพื่อน    

 กกต.โต้ "อนาคตใหม่" กล่าวหามีธงคดีเงินกู้ ยันทำตามระเบียบ อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องฯ ไม่มีการชี้นำหรือเร่งรัด ระทึก! ที่ประชุม กกต. 11 ธ.ค.นี้จะฟัน "ธนาธร-อนค." ปมทำนิติกรรมอำพรางบริจาคเงิน 191 ล้านเลยหรือไม่ หลังพบพิรุธชำระหนี้ 26.8 ล้านบาทเป็นเงินสดทั้งหมด  "ปิยบุตร" ขู่หนังม้วนเก่า ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุก ระวังจะจบไม่เหมือนเดิม "นายพลส้มหวาน" แซะ! คดี อนค.ไม่น่าสงสัยเท่า ทบ.ปล่อยกู้บริษัท RTA  ทบ.แจงเอกสารเกณฑ์ทหารธนาธรถูกต้อง 

    เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กกต.พิจารณาการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่เป็นไปโดยมีธงทางการเมืองหรือมีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีเอกสารความเห็นของบุคคลระดับสูงของสำนักงาน กกต.ได้ชี้นำในสำนวนไว้แล้วว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทำความความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยความเห็นนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2562 แต่ กกต.มาเรียกพยานหลักฐานในเดือน ต.ค.2562 นั้น ว่าการแถลงข่าวข้างต้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีขั้นตอนการพิจารณาตามกฎหมายมาเป็นลำดับ ดังนี้ 
    1.ตามระเบียบคณะกรรมการการว่าด้วยการสืบสวนการไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2562 เลขาธิการ กกต.ต้องมีความเห็นในสำนวนการสืบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต. ซึ่งกรณีนี้เลขาธิการ กกต.ได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 โดยการเสนอความเห็นในสำนวนเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบ มิใช่การชี้นำในสำนวนการสืบสวนแต่อย่างใด 
    2.เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2562 เลขาธิการ กกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่ากรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินอยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งเพื่อพิจารณา และมีความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตามระเบียบต่อไป
    3.ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 11 ต.ค.62 และวันที่ 23  ต.ค.2562 ประธาน กกต.ได้ให้ข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบและมิได้มีการเร่งรัดแต่อย่างใด โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้ขอเอกสารจากพรรคอนาคตใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารตามที่ขอ คณะอนุกรรมการฯ จึงได้รวบรวมพยาน
    มีรายงานว่า ในการประชุม กกต.วันที่ 11 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีวาระการพิจารณาคดีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นคำร้อง โดยกกต.ได้ตั้งประเด็นตามคำร้อง 2 ประเด็น คือ 1.การกู้เงินดังกล่าว ถือเป็นการบริจาคของบุคคลเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ 2.การกู้เงินดังกล่าว ถือว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากเอกสารหลักฐานชี้แจงที่พรรค อนค.ส่งมาส่วนหนึ่งนั้น ระบุว่าสัญญาเงินกู้ฉบับแรก เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2562 ที่พรรคทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธร จำนวน 161,200,000 บาท และตามสัญญาระบุว่าพรรคจะมีการชำระเงินภายใน 3 ปี โดยในปีแรกจะชำระเงินกู้จำนวน 80 ล้านบาท, ปีที่สอง 40 ล้านบาท และปีที่สาม 41 ล้านบาท 
    "ซึ่งพรรคได้มีการรายงานมาว่าปัจจุบันเงินกู้ดังกล่าวมีการชำระแล้ว 26.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 งวด แต่ละงวดชำระห่างกัน 10 วัน ชำระเป็นเงินสดทั้งหมด ยังมีข้อน่าสงสัยว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินของใคร เบิกถอนมาจากไหน เอาเข้าบัญชีใคร ถ้านำเงินที่เป็นรายได้ของพรรคตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 62 มาชำระยิ่งจะถือว่าผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายมาตราดังกล่าวกำหนดเรื่องที่มารายได้ของพรรคไว้ 7 ประการ และไม่ให้นำรายได้เหล่านี้ไปใช้เพื่อการอื่น"
ลุ้น กกต.ฟันทำนิติกรรมอำพราง
    นอกจากการดำเนินกิจการของพรรค หากนำรายได้ของพรรคไปจ่ายหนี้เงินกู้จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา กรรมการบริหารพรรคต้องติดคุก ขณะเดียวกันจะต้องพิจารณาถึงรายรับรายจ่ายของพรรคว่ามีการลงบัญชีเงินจำนวนนี้ไว้ในหมวดใด การรับบริจาคที่หากนำเงินบริจาคไปชำระคืนกระทบต่อยอดเงินบริจาคหรือไม่ และความสามารถของพรรคในการชำระหนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ เพราะจากรายงานงบการเงินของพรรคอนาคตใหม่ในรอบปี 2561 ที่มีการรายงานต่อ กกต.เมื่อ เม.ย.2562
    "ดังนั้น การให้พรรคกู้เงินจึงอาจเข้าข่ายการเป็นนิติกรรมอำพราง เป็นการได้เงินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายตามมาตรา 72 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 92 (3) เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคได้ เป็นที่น่าจับตาว่าการประชุมครั้งนี้ กกต.จะมีมติชี้ขาดเลยหรือไม่" รายงานข่าวระบุ
    ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวที่จังหวัดขอนแก่นว่า หนังม้วนเก่ากำลังจะกลับมาฉายซ้ำ แต่ หนังม้วนเก่าในครั้งนี้นั้นจะจบไม่เหมือนเดิม ตนยอมรับว่ามีความพยายามที่จะให้ระบบแบบนี้กลับมาอีกจนเราสู้ไม่ได้ คือการยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุก มันก็วนมาแบบนี้ ซึ่งขอถามว่าจะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าแก้ไขไม่ได้ ถ้าจะเอาแบบนี้กลับมาอีกก็แก้ปัญหาไม่ได้ 
    "จึงขอเรียนไปยังผู้มีอำนาจว่าให้มองพวกผม มองพรรคอนาคตใหม่ มองทุกคนของพรรค ที่พวกเราทุกคนนั้นมีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองไม่แพ้พรรคการเมืองใด ดังนั้นควรเปิดโอกาสให้มาพูดคุยกันหาทางออกร่วมกัน เดินหน้าไปสู่อนาคตของประเทศรูปแบบใหม่ร่วมกันจะดีกว่า เพราะการใช้การแก้ปัญหาแบบเดิมๆนั้นไม่ได้ผล เพราะหนังม้วนเก่าจะมาฉายซ้ำต้องระวัง เพราะจะจบไม่เหมือนเดิมก็ได้" นายปิยบุตรกล่าว
    พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การกู้เงินของพรรค อนค.กับนายธนาธร เรามีหลักฐานการกู้เงินชัดเจน กู้แล้วต้องใช้คืน พรรคใช้หนี้ตามสัญญาที่ระบุเอาไว้ ส่วนความผิดตามมาตรา 62 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเกี่ยวกับรายได้ของพรรคการเมือง ไม่มีการระบุข้อห้ามไม่ให้พรรคการเมืองกู้เงิน ตามหลักกฎหมายถ้าไม่มีข้อห้ามถือว่าทำได้ ถือว่าชัดเจนและมีหลักฐานครบสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรน่าวิตก ผิดกับกรณีที่กองทัพบกได้อนุมัติปล่อยเงินกู้ 1,200 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยให้แก่บริษัท RTA Entertainment จำกัด ที่กองทัพบกถือหุ้นอยู่ 50% และอีก 50% ถือหุ้นโดยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่บริษัทนี้มีทุนจดจัดตั้งเพียง 10 ล้านบาท ตรงนี้น่าสงสัยและน่าตรวจสอบกว่ากรณีของเราเยอะ
ขู่ กกต.โดน ม.157
    "ตอนนี้ยังดูหลักฐานในคดีนี้ไม่ครบ และยังไม่ได้สืบพยานเลย แต่กลับมีเอกสารและข่าวหลุดออกมาแล้ว แบบนี้ทำให้คนสงสัยว่ากกต.มีธงในการตัดสินคดีหรือไม่ ที่ผ่านมา กกต.เรียกหลักฐานมาหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับคดีการกู้เงินเลย ขอแนะนำให้กกต.ดำเนินการตามขั้นตอนแบบตรงไปตรงมา หากทำอะไรโดยที่ไม่สนใจขั้นตอนหลักฐานและการสืบพยาน ใช้แต่อำนาจที่มี ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่จะฟ้อง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" พล.ท.พงศกรกล่าว 
     ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า นายธนาธรปลอม สด.9 เกณฑ์ทหาร ว่า  ไม่ปลอมครับ ผมเดินไปจับใบดำใบแดงด้วยตัวเอง เอกสารทุกอย่างก็จริงหมด พอกันทีกับข่าวปลอมแบบนี้ ไหนๆ แล้ว ขอชวนคิดต่อเลยว่ามันมีการปลอม สด.9-ยัดเงินกันจริงใช่ไหม? ใครได้ประโยชน์จากระบบโสมมแบบนี้บ้าง? ปีนึงมี "เงินนอกงบประมาณ" เท่าไหร่? ทำไมพวกเขาจึงหวง ไม่ยอมยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร???
    ขณะที่พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวข้องกับการเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการของนายธนาธร และอ้างว่ามีการหลีกเลี่ยงการตรวจเลือกทหารนั้น ได้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว พบว่านายธนาธรได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารตามกระบวนการของทางราชการอย่างครบถ้วน โดยเมื่อ 2543 ได้เคยใช้สิทธิ์ขอผ่อนผันเนื่องจากไปศึกษาต่อต่างประเทศ ต่อมาเมื่อเมษายน 2544 ได้แจ้งสละสิทธิ์การผ่อนผันและได้เข้ารับการตรวจเลือกทหารที่เขตประเวศ กทม. ผลการตรวจเลือกคือ “ปล่อยเพราะมีการร้องขอเต็มจำนวน” และได้รับเอกสารใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) เป็นที่เรียบร้อย ถือว่าเป็นบุคคลที่ได้ผ่านการตรวจเลือกทหารตามขั้นตอนของทางราชการอย่างครบถ้วน
    สำหรับกรณีเอกสารแบบ สด.9 ที่ถูกนำเสนอด้วยนั้น เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงหลักฐานในการขึ้นทะเบียนทหารกองเกินเท่านั้นไม่เกี่ยวกับการผ่านหรือไม่ผ่านตรวจเลือกทหาร การตรวจเลือกทหารต้องยึดถือเอกสารใบ สด.43 เป็นหลัก ขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีดำเนินการเรื่องดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝงหวังให้เกิดความไม่ไว้วางใจหรือมุ่งสร้างให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในทางการเมือง และทำให้สังคมสับสน ขออย่าได้นำข่าวปลอมนี้ไปเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์ของกองทัพกับฝ่ายการเมือง เพราะไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกัน ขอให้สังคมได้ใช้วิจารณญาณในการรับทราบข้อมูลในเรื่องนี้ให้รอบด้านด้วย และกองทัพบกไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
    พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า นายธนาธรเข้ารับการตรวจเลือกฯ ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทุกอย่างกองทัพบกไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับนักการเมือง ที่มีข่าวออกมานั้นเรายืนยันได้เลยว่าข่าวนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนายธนาธร เขาผ่านขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน
    นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรียนคุณธนาธร อะไรที่ถูกต้องผมก็สนับสนุนในการเรียกร้องของคุณเสมอ แต่ในหลายๆ ครั้ง คุณมักขาดความรอบคอบในการแสดงความคิดเห็น แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ เช่น กรณีเกณฑ์ทหาร หากเกิดมาเป็นชายแท้ๆ ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครไปยัดเงินเพื่อปลอมใบ สด.9 หรอก เพราะแค่เดินไปขึ้นทะเบียนคุณก็ได้รับใบนั้นกลับบ้านแล้ว เหตุใดคุณถึงพูดเรื่องการจับใบดำใบแดงของตนเอง และกล่าวถึงการวิ่งเต้นใบ สด.9 ทั้งที่มันควรจะเป็นใบ สด.43?
    "คนอยากจะเป็นนายกฯ แค่มีเพียงวิสัยทัศน์อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีองค์ความรู้ มีสติอยู่เสมอไม่ว่าจะทำอะไร หากยุ่งมากหรือไม่มีเวลา ก็ควรให้ 'กูรู' ในพรรคช่วยหาข้อมูล ป.ล.จะแก้รัฐธรรมนูญ จะปฏิรูปกองทัพ ซึ่งซับซ้อนกว่านี้หลายเท่าได้อย่างไร เพราะแค่กฎหมาย/กฎเกณฑ์ง่ายๆ คุณยังไม่เข้าใจเลย" นายธันวาระบุ 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"