10 ธ.ค.62-  นายสุทิน​ วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวต่างประเทษโพสต์เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn ว่าอากาศเย็นเชียร์ซีเกมส์ให้สบายใจการเมืองไทยยังไปได้

อากาศเย็นๆอย่างนี้นั่งเชียร์นอนเชียร์ซีเกมส์ให้สบายใจ อย่างได้หวั่นไหวไปกับกระแสข่าวที่หวือหวาอือฮา ว่ากำลังเปลี่ยนครั้งใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้ามองจากความเป็นจริงและธรรมชาติการเมืองไทย ยืนยันฟันธงได้ว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆในระยะเวลาสี่-ห้าเดือนนี้

ความชุลมุลวุ่นวายในพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ทุกพรรคมีปัญหาภายใน พรรคเพื่อไทยมีปัญหาเรื่องงูเง่าเรื่องความขัดแย้งภายในระหว่างหัวหน้าพรรคกับที่ปรึกษายุทธศาสตร์ไม่รู้ใครใหญ่ใครมีอำนาจเหนือใคร ปรองดองกันไม่ต้องให้นายใหญ่จากแดนไกลแก้ปัญหาเป็นครั้งเป็นคราไป

พรรคอนาคตใหม่ มีปัญหาทางกฏหมายและแตกแยกภายในและคิดว่าต้องกลายเป็นอนาคตไหม้ไม่เกินต้นปี ๒๕๖๓

พรรคพลังประชารัฐศูนย์รวมของ ส.ส. แปรพักต์มาจาก ปชป เพื่อไทย ชาติไทย และอื่นๆอีกหลายพรรค แต่ภาพรวมแกนนำและส.ส. พปชรกับแกนนำและส.ส พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่มาจากรากเง่าเดียวกัน

ในเวลาเดียวกันแกนนำและส.ส.กลุ่มหนึ่งของ พปชร มีรากเง่ามาจาก ปชป ที่เพิ่งแยกไปเป็นกลุ่ม กปปส ดังนั้นแกนนำพรรครัฐบาลมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเพื่อไทยและเป็นไปได้ว่าสมคมกับ ส.ส.ปชป ที่มีใจอยู่กับกลุ่ม กปปส และแกนนำ พปชร ที่มาจากเพื่อไทย ก็อาจสมคบกับ ส.ส. บางส่วนของเพื่อไทยเล่นเกมส์การเมืองสภา

ปชป ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเลือดไม่หยุดใหลไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะนั้นเป็นรอยแยก มาตั้งแต่อดีต ส.ส. ไปตั้งกลุ่มการเมืองใหม่เพื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่อ อดีต ส.ส. ปชป ทั้งไปตั้งพรรคขึ้นมาเองและบางส่วนไปเป็นแกนนำ พปชร

แต่เมื่อผลการเลือกตั้ง ๒๔ ไม่เป็นไปตามคาดหมายพรรคตั้งขึ้นเองได้ ส.ส เขตกับบัญชีรายชื่ิอได้เพียง ๔ ที่นั่ง

ดังนั้นเกมส์ดึง ส.ส. จากพรรคเก่าให้ไปอยู่ในเครือข่ายของ กปปส จึงเข้มขึ้นตลอดมา มีความพยายามยึดพรรคสองครั้งสองคราแต่โนมินีที่ส่งเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พ่ายแพ้ทั้งสองคราจนมีวาทกรรมว่า "ผู้มีอิทธิพลในพรรคแทรกแซงการเลือกตั้ง หัวหน้าพรรค แหละแล้วก็ถูกคมมีดโกนกรีดว่า "มีการแซกแทรงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคจากภายนอก"

ข้อครหาว่ามีการแทรกแซงจากภายนอกในปฏิบัติการยึดพรรคครั้งนั้น ว่ากันว่านอกจากกำกับการแสดงโดยอดีต ส.ส.ของพรรคแล้วยังมีอิทธิพลของผู้มีอำนาจร่วมแทรกแซงที่ทั้งเงินและเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ด้วยความมั่นคงและทันเกมส์ของผู้ใหญ่ใน ปชป ทำให้ภารกิจยึดพรรคล้มเหลว

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ปฏิบัติการยึดพรรคล้มเหลวการแทรกแซงจากภายนอกก็สร้างความปั่นป่วนใน ปชป ตลอดมา เช่นเดียวความปั่นป่วนใน พปชรและงูเง่าในเพื่อไทย

สรุปว่าความปั่นป่วนใน ปชป และเพื่อไทย สาเหตุใหญ่มาจาก ส.ส.ที่แยกจากเดิมไปอาศัยบารมีพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ความพยายามดึง ส.ส. จากพรรคเก่าไปเป็นพวก เพื่อสร้างความสำคัญให้ตัวเองและก็ได้ผลระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับเปลี่ยนโครงสร้างพรรครัฐบาลได้

อาจมีคำถามว่าเมื่อเป็น ส.ส อยู่ฝ่ายหนึ่งแต่ใจอยู่อีกฝ่ายหนึ่งทำไมไม่ย้ายฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไป มันเป็นธรรมชาติของนักการเมืองบางคน ที่ใจจริงอยากไปอยู่กับอีกฝ่ายแต่รอจนกว่าจะได้รับข้อเสนอที่พอใจ ที่สำคัญความกลัวสอบตกทำให้เกาะอยู่กับพรรคเก่าต่อไปแต่ก็ปันใจให้อีกฝ่ายและยกมือให้เป็นครั้งคราว

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าคนดังของ ปชป ส่วนใหญ่ตีจากพรรคไปเมื่ิอมั่นใจว่าได้รับขอเสนอให้ตำแหน่งสำคัญจากอีกฝ่าย

อดีต ส.ส. คนดังของ ปชป ที่เคยแปรพักตร์ไปอยู่อีกฝ่ายเคยร้ายกาจถึงขนาดจะจับกุมหัวหน้าพรรคเก่า ใส่ร้ายคู่แข่งทางการเมืองในพรรคเก่าว่าเป็นคอมิวนิสต์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตามล่าตัว บางคนเคยอภิปรายโจมตีด่าว่าหัวพรรคตัวในสภา

ดังนั้น ส.ส ปชป บางคนแหกมติพรรคจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะ ส.ส. พวกนั้นอยู่ไม่นานก็ไปแต่ถึงอย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็ยืดหยัดอยู่ได้นานเท่านาน.