"บิ๊กตู่" ปลุกคนไทยต้านคอร์รัปชัน เริ่มที่ตัวเองก่อนไม่โกงทุกรูปแบบ ก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ ประธาน ป.ป.ช.ชูสร้างสังคมไม่ทนทุจริต-กล้าเปิดโปง ดันค่า CPI สูงกว่า 50% "กองทัพบก" ได้คะแนนโปร่งใสสูงสุด
ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ถือเป็นตัวอย่างที่ดี จึงขอให้มีการขยายและนำร่องทำต่อไปให้มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้รัฐบาลร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันขึ้น เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนร่วมกันของคนไทยในการต่อต้านการทุจริต และตระหนักถึงภัยร้ายแรงของปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลเสียหายต่อประเทศ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้เกิดผลจริงจัง ไม่ใช่พูดแล้วก็จบไม่ทำต่อ ดังนั้นต้องสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สิ่งที่ดีกว่าในทุกมิติ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต ที่เป็นภัยร้ายแรงส่งผลเสียต่อประเทศและทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปได้ช้า ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องใหญ่ๆ เท่านั้น แต่การทุจริตมีทั้งการทุจริตเวลาราชการและไม่เคารพกฎหมายในเรื่องต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การเรียกรับผลประโยชน์ความขัดแย้งและเรื่องอื่นๆ หากมีการทำผิดกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ โดยได้ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้ครอบคลุม และเป็นเรื่องที่ต้องแทรกอยู่ในการปฏิรูปทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ ส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมปราศจากการแทรกแซงของนักการเมืองและผู้มีอิทธิพล ตลอดจนการกำหนดให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดกรณีทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างจริงจังและรวดเร็ว
โดยรัฐบาลนี้รวมถึงรัฐบาลต่อไปต้องวางรากฐานทางความคิดของประชาชน ขณะเดียวกันคนไทยจะต้องก้าวข้ามค่านิยมอุปถัมภ์และความเพิกเฉยต่อการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ต้องได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากประชาชนว่าสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติ นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ.2560-2564 ที่มีเป้าหมายให้ "ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต" โดยมุ่งหวังให้ระยะ 5 ปีข้างหน้าจะเป็นการปฏิรูปกระบวนการทำงานจากเดิม ไปสู่กระบวนการทำงานแบบบูรณาการทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยดีขึ้นหลายมิติ แต่ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อเนื่อง
ไม่โกงเริ่มที่ตัวเองก่อน
นายกฯ กล่าวว่า คนทุจริตคือคนไม่ดีที่เก่งหาช่องโหว่กฎหมายจนได้ ดังนั้นทุกคนต้องมีจิตใจเริ่มจากตัวเองก่อน อย่าทำอะไรที่เป็นการทุจริต หากทำได้จะลดความขัดแย้งได้มาก และกฎหมายก็จะได้รับความเชื่อถือ ดังนั้นผู้ที่ทุจริตจะถูกต่อต้านและถูกลงโทษทั้งจากกฎหมายและสังคม ทั้งนี้เรามีหลักสูตรด้านการต่อต้านทุจริต ที่กำหนดเป้าหมายให้สถานศึกษาทุกแห่งนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้คนในชาติคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม มีจิตสาธารณะ และละอายต่อการทำทุจริตทุกรูปแบบ
"ทุกคนต้องรู้จักคิดและนำมาปฏิบัติ มีจริยธรรม รู้ว่าชาติคืออะไร ประเทศคืออะไร เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ นายกฯ ทำคนเดียวไม่ได้ วันนี้ผมทำงานเหมือนเดิมและหนักกว่าที่ผ่านมา 5 ปีด้วยซ้ำ มีหลายคนเรียกร้องใช้มาตรการเด็ดขาด แต่ตอนนี้ไม่มีแบบเดิม ไม่มีมาตรา 44 แล้ว ทุกคนต้องเรียนรู้และปรับตัว ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ส่วนการประเมินรัฐบาลจะขึ้นหรือจะลง ผมไม่สนใจ คิดแต่ทำอย่างไร วันนี้ต้องสร้างหลักคิดทำงานร่วมกัน จับมือเดินไปด้วยกัน และต้องไม่ใช้ความรู้สึกแก้ปัญหาและสร้างความขัดแย้ง ขณะเดียวกันทุกคนคาดหวังผม ผมเข้าใจและยอมรับ และผมจะทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใจผมทำงานเกินร้อยและทุกคนทำงานหนักทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันคิดและช่วยกันทำด้วย ใครทำแล้วก็ให้ทำยิ่งขึ้น ขอทุกคนช่วยทำความดี ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
จากนั้นนายกฯ นำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ว่า "ข้าพเจ้าขอประกาศเจตนารมณ์ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการทุจริต จะยึดมั่นในความยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จักปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยจิตอาสา พร้อมทำความดี ด้วยหัวใจ ตลอดไป"
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.ประยุทธ์ได้พบปะกับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการศูนย์ครอบครัวพอเพียง ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมต่อต้านการทุจริต โดยนายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพและเขียนลายเซ็นให้นักเรียนอย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกฯ เป็นประธานเปิดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ได้มอบรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ที่มีผลคะแนนสูงสุดในแต่ละประเภท รวม 34 หน่วยงาน ประกอบด้วย ประเภทองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หน่วยงานที่ได้คะแนนสูงสุดคือ อบจ.แพร่ ประเภทเทศบาลตำบล (ทต.) ประกอบด้วย ทต.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน, ทต.ป่าสัก จ.ลำพูน, ทต.ดอนศิลา จ.เชียงราย, ทต.เวียง จ.เชียงราย, ทต.ริมปิง จ.ลำพูน, ทต.เวียงเทิง จ.เชียงราย, ทต.บะหว้า จ.สกลนคร และ ทต.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ประเภทองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ประกอบด้วย อบต.งิ้วราย จ.สิงห์บุรี, อบต.ห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่, อบต.วังเย็น จ.นครปฐม, อบต.เขารวก จ.ลพบุรี, อบจ.ห้วยหิน จ.ลพบุรี, อบต.โพธิ์เก้าต้น จ.ลพบุรี, อบต.คำโตนด จ.ปราจีนบุรี, อบต.อ้อมเกร็ด จ.นนทบุรี, อบต.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี, อบต.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และ อบต.เขาแหลม จ.ลพบุรี
กองทัพบกโปร่งใสสูงสุด
ประเภทจังหวัดได้คะแนนสูงสุดคือ จ.นครพนม ประเภทองค์กรศาลได้คะแนนสูงสุดคือ ศาลยุติธรรม ประเภทกรมหรือเทียบเท่า ประกอบด้วย กองทัพบก, กรมที่ดิน และสำนักงานกิจการยุติธรรม ประเภทรัฐวิสาหกิจ ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์, การกีฬาแห่งประเทศไทย, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ประเภทองค์การมหาชน ประกอบด้วย สำนักพัฒนาการวิจัยการเกษตร และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า การจัดงานวันนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.ประกาศเจตจำนงของผู้นำประเทศและผู้นำทุกภาคส่วน ในการป้องกันแก้ไขและปราบปรามการทุจริต 2.ผสานพลังคนไทยและทุกภาคส่วนให้ตื่นรู้ พร้อมต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ เพื่อให้สังคมไทยมีวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และ 3.ให้คนไทยและนานาชาติรับรู้ถึงความมุ่งมั่นและการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการทุจริตในประเทศไทย เพื่อผลักดันการยกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (ค่า CPI) ให้สูงกว่าร้อยละ 50 ตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสังคมไทยเริ่มตื่นตัวตื่นรู้เกี่ยวกับภัยร้ายแรงของการทุจริต ประชาชนเริ่มไม่ทนต่อการทุจริต กล้าที่จะเปิดโปงการทุจริตมากขึ้น จะเห็นได้จากกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การเปิดโปงกรณีอาหารกลางวัน อาหารเสริมนมของนักเรียน เป็นต้น
นอกจากนี้ นายฌูเลียน การ์ซานี ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (UNODC) ได้อ่านสารเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลตอนหนึ่งว่า การทุจริตขัดขวางความพยายามของพวกเราในการสร้างโลกให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่เราก้าวเข้าสู่ทศวรรษแห่งความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามที่ได้กำหนดไว้ จึงต้องเพิ่มความพยายามในการขจัดการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาล
ขณะที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้จัดกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ภายใต้แนวคิด "Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต"
ส่วนความคืบหน้าในการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.อีก 2 ตำแหน่งที่ว่างลงนั้น พล.ต.อ.วัชรพลเปิดเผยว่า ขณะนี้ปิดรับสมัครตามขั้นตอนของการสรรหาแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติจากคณะกรรมการสรรหา จากนั้นจะอยู่ในที่ประชุมวุฒิสภารับรองเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะสรรหา ป.ป.ช.อีก 2 คนได้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ แต่ระหว่างนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เหลือทั้ง 7 คนยังดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนข้อร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง และพร้อมจะมีมติในคดีที่สำคัญๆ โดยไม่ต้องรอให้กรรมการครบทั้ง 9 คน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |