ยื้อฟัน'ปารีณา'ถกกฤษฎีกา ขวางขอสงวนสิทธิ์ที่ดินคืน


เพิ่มเพื่อน    

     "วราวุธ" ยันกรมป่าไม้ดำเนินคดี "ปารีณา" รุกป่าแน่ แต่ต้องทำอย่างรอบคอบหวั่นโดนฟ้องกลับ "ธรรมนัส" ย้ำปารีณาหมดสิทธิ์ครอบครองที่ ส.ป.ก. เดินหน้าขอข้อมูล ป.ป.ช.ฟันนักการเมืองฮุบที่หลวง ป่าไม้จ่อแปลภาพถ่ายทางอากาศที่ 682 ไร่อีกครั้งหลัง ส.ป.ก.ไม่ฟันอาญา "ศรีสุวรณ" ร่อนหนังสือถึงเลขาฯ ส.ป.ก.ค้านคำขอสงวนสิทธิ์รับแจกที่ดินคืน แนะหากประสงค์ได้ที่ดินต้องลาออกจาก ส.ส.เป็นเกษตรกรเต็มตัว 

     เมื่อวันจันทร์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ  ในข้อหาบุกรุกที่ป่าไม้ 682 ไร่ว่า การดำเนินคดีในพื้นที่เกือบ 700 ไร่นั้นต้องใช้ความรอบคอบ ไม่อยากทำอะไรลวกๆ การมาจี้ให้กระทรวงทรัพยากรฯ ดำเนินคดีนั้น อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่าเราดำเนินคดีแน่นอน และในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานคือกรมป่าไม้ ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาฟ้องร้องกันในภายหลังได้ ตนต้องให้ความสำคัญกับสถานะทางกฎหมายของตัวส่วนราชการเองด้วย 
    "การจะยึดเอาผิดเลยในทันทีเรียกว่าทำแบบถูกใจ แต่ถึงที่สุดแล้วหลายฝ่ายที่ออกมาแสดงความเป็นห่วง ท่านไม่ได้เป็นคนโดนฟ้องกลับ กลายเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นคนโดนฟ้องร้องกลับ ดังนั้นในการทำงานผมจึงได้ให้นโยบายกับทางส่วนราชการว่าให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ซึ่งการดำเนินการแบบถูกต้องกับถูกใจนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะไม่ทันใจคนบางกลุ่มบางท่านก็ต้องขออภัย แต่ผมยึดเอาความถูกต้องและความรอบคอบเป็นหลัก" นายวราวุธกล่าวและว่า เรื่องของ น.ส.ปารีณาเป็นเรื่องของกระบวนการที่ส่วนราชการมีระเบียบในการดำเนินการอยู่แล้ว ฉะนั้นทุกฝ่ายไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง 
    ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณาว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ทีมกฎหมายสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งดำเนินการตามกรอบกฎหมายอย่างเต็มที่ ซึ่งจากการตรวจสอบคุณสมบัติของ น.ส.ปารีณา พบว่าไม่มีคุณสมบัติที่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการจัดสรรที่ดินจาก พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. เนื่องจากมีอาชีพเป็น ส.ส.ชัดเจน ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานด้านการเมือง ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม จึงขาดเงื่อนไขความเป็นเกษตรกรที่จะได้รับการจัดสรรที่ดินอย่างเด็ดขาด จากการตรวจสอบเอกสารที่ขอส่งมอบคืนพบว่ามีเงื่อนไขในการคืนที่ดินมาด้วย จึงให้ฝ่ายกฎหมาย ส.ป.ก.ประสาน ไปยัง น.ส.ปารีณาเพื่อทำหนังสือส่งมอบมาใหม่อีกครั้ง เพื่อป้องกันการเรียกร้องสิทธิ์ภายหลัง ยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกรอบของกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีการละเว้นแน่นอน
    "เรื่องการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้เป็นส่วนของป่าไม้รับผิดชอบ เราในฐานะกำกับดูแลเรื่องการจัดสรรและให้สิทธิแก่เกษตรกร ต้องดูว่าขอบเขต ส.ป.ก.ทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำนอกกรอบกฎหมาย ส.ป.ก.ไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นศรย้อนกลับมาหาตัวเอง ส่วนจะดำเนินคดีร่วมกันอย่างไรผมมอบนโยบายชัดเจนให้ประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะเป็นคนดำเนินการทั้งหมด ต้องไปดูรายละเอียดให้ชัดเจน"
    รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบุคคลอื่นที่มีการครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก. โดยขาดคุณสมบัติความเป็นเกษตรกร โดยเฉพาะนักการเมืองนั้นยืนยันไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อเป็นพื้นที่ของหลวง ถ้าไม่มีคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรตามกรอบกฎหมาย ส.ป.ก.ต้องคืนพื้นที่ให้กับ ส.ป.ก.ทุกคน  เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ทุกคนที่ได้ที่ดิน ส.ป.ก.มาโดยมิชอบต้องคืนพื้นที่กลับมาเป็นของ ส.ป.ก.  จากนี้ไปตนมอบให้ฝ่ายกฎหมาย ส.ป.ก.ไปดำเนินการยึดคืนทั้งหมด โดยจะเริ่มมาตรการจากเบาไปหาหนักตามขั้นตอน เริ่มจากการเจรจาดีๆ โดยไม่ต้องใช้บังคับตาม ม.44 หากไม่คืนจะต้องใช้ ม.44 ทั้งหมด ขณะนี้กำลังประสานงานไปยัง ป.ป.ช.เพื่อขอข้อมูลทั้งหมด จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบทุกแปลง ก่อนยึดคืนเพื่อนำไปจัดสรรให้เกษตรกรผู้ยากไร้ต่อไป
    วันเดียวกัน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนางนันทนา บุญยานันต์  โฆษกกรมป่าไม้, นายจุมพฏ ชอบธรรม ผอ.สำนักกฎหมายกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมหารือข้อกฎหมายในการดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ หลังจากที่ ส.ป.ก.เปิดเผยว่าไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดในการบุกรุกพื้นที่จำนวน 682 ไร่ได้ แต่ต้องส่งคืนพื้นที่ให้ ส.ป.ก.
    โดยนางนันทนาเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมในประเด็นข้อกฎหมายเพื่อพิจารณาว่ากรมป่าไม้มีอำนาจหน้าที่ในการเอาผิด น.ส.ปารีณาหรือไม่ เนื่องจากกรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก.ไปแล้วเมื่อปี 2536 ส่วนพื้นที่ที่ น.ส.ปารีณาครอบครองมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาปฏิรูปที่ดินเมื่อปี 2554 โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาและ ส.ป.ก.อีกครั้ง
    ด้านนายจุมพฏ ผอ.สำนักกฎหมายกรมป่าไม้ ระบุว่า หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบและแปลภาพถ่ายทางอากาศเพื่อสำรวจพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง แต่ยังไม่ชี้ชัดว่ามีจำนวน 682 ไร่ตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งกรมป่าไม้และ ส.ป.ก.จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่โดยหลักแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ ส.ป.ก.บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือจะใช้อำนาจตามคำสั่งของ  คสช.ที่ 36/2559 เนื่องจากกรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้ ส.ป.ก.ไปแล้ว คดีนี้มีกฎหมายหลายฉบับเข้ามาเกี่ยวข้องรวมถึง พ.ร.บ.ป่าไม้ ซึ่งกรมป่าไม้เป็นคนรับผิดชอบ จึงต้องประชุมหารือถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่และดำเนินการด้วยความรอบคอบ 
     นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.ปารีณาได้มีหนังสือถึงเลขาธิการ ส.ป.ก.เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 โดยอ้างว่าได้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณหมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และได้ยื่นชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) จำนวน 29  แปลง ซึ่งที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยประสงค์ขอส่งคืนพื้นที่ตาม ภ.บ.ท.5  เพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดย  น.ส.ปารีณาและ/หรือบุคคลในครอบครอง ขอสงวนการใช้สิทธิเป็นอันดับแรกตามที่กฎหมายกำหนดนั้น
     การขอสงวนสิทธิเป็นผู้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ดังกล่าวกลับคืนไปให้ น.ส.ปารีณาเป็นอันดับแรกนั้น เลขาฯ ส.ป.ก.ไม่สามารถใช้อำนาจใดๆ ตามคำร้องขอดังกล่าวได้ เนื่องจาก น.ส.ปารีณาไม่มีคุณสมบัติที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2518 ประกอบกับ พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกร 2535 ไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่จะได้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ได้จะต้องเป็นเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักเท่านั้น หากประสงค์จะได้ที่ดิน ส.ป.ก.อีกต้องลาออกจาก ส.ส.มาเป็นเกษตรกรเต็มตัวเท่านั้น จึงได้ทำหนังสือส่งไปยังเลขาฯ ส.ป.ก.เพื่อคัดค้านการขอสงวนการใช้สิทธิเป็นอันดับแรกของ น.ส.ปารีณาดังกล่าวแล้ว และหากยังมีความพยายามที่จะฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อช่วยเหลือกันและกันโดยไม่ดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย คนที่จะถูกสมาคมฯ ยื่นฟ้องเอาผิดเป็นคนแรกคือเลขาฯ ส.ป.ก.นั่นเอง
    พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในส่วนของความคืบหน้าการตรวจสอบทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณา ยังไม่ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาของที่ประชุม ป.ป.ช.ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้หาข้อมูลอย่างรอบคอบที่สุด  และดำเนินการตรวจสอบไปตามกระบวนการ ซึ่งจะมีเวลา 180 วันในการตรวจสอบ แต่เชื่อว่า ป.ป.ช.จะสามารถสรุปสำนวนนี้เสร็จก่อนคดีอาญาที่ น.ส.ปารีณาถูกแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนข้อร้องเรียนที่ให้ตรวจสอบ 13 ส.ส.ของ  6 พรรคการเมือง ที่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินที่ดินและมีเอกสาร ภ.บ.ท.5 นั้น กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อมีผู้ยื่นเรื่องร้องมาก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนและไต่สวนให้เกิดความกระจ่าง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"