9 ธ.ค.62 - เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในวันต่อต้านคอร์รัปชัน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ถือเป็นตัวอย่างที่ดี จึงขอให้มีการขยายและนำร่องทำต่อไปให้มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้รัฐบาลร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนร่วมกันของคนไทยในการต่อต้านการทุจริต และตระหนักถึงภัยร้ายแรงของปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลเสียหายต่อประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามทุกคนทราบอยู่แล้วว่าเราจัดงานนี้เพื่ออะไร สิ่งสำคัญทำอย่างไรให้เกิดผลจริงจังไม่ใช่พูดแล้วก็จบไม่ทำต่อ ดังนั้นต้องสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สิ่งที่ดีกว่าในทุกมิติ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต ที่เป็นภัยร้ายแรงส่งผลเสียต่อประเทศและทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปได้ช้า ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องใหญ่ๆเท่านั้น แต่การทุจริตมีทั้งการทุจริตเวลาราชการและไม่เคารพกฎหมายในเรื่องต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การเรียกรับผลประโยชน์ความขัดแย้งและเรื่องอื่นๆ หากมีการทำผิดกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ โดยได้ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้ครอบคลุม และเป็นเรื่องที่ต้องแทรกอยู่ในการปฏิรูปทุกๆด้าน ทั้งในเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ ส่งเสริมให้กระบวนการยุติธรรมปราศจากการแทรกแซงของนักการเมืองและผู้มีอิทธิพล ตลอดจนการกำหนดให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดกรณีทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างจริงจังและรวดเร็ว ซึ่งทุกฝ่ายต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวังด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังไม่พอ เราต้องทำต่อไปและต้องเชื่อมั่นในกฎหมายและกระบวนการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนคิดได้แต่ทำไม่ได้ ดังนั้นต้องทำอย่างไรให้ช่วยกันแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ โดยรัฐบาลนี้รวมถึงรัฐบาลต่อไปต้องวางรากฐานทางความคิดของประชาชน วันนี้ความคิดแตกต่างกันซึ่งถือเป็นประชาธิปไตย ขณะเดียวกันคนไทยจะต้องก้าวข้ามค่านิยมอุปถัมภ์และความเพิกเฉยต่อการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ต้องได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากประชาชนว่าสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 พ.ศ. 2560 - 2564 ที่มีเป้าหมายให้"ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต” โดยมุ่งหวังให้ระยะ 5 ปีข้างหน้า จะเป็นการปฏิรูปกระบวนการทำงานจากเดิม ไปสู่กระบวนการทำงานแบบบูรณาการทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยดีขึ้นหลายมิติ แต่ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อเนื่อง สิ่งสำคัญเรื่องกฎหมายที่ต้องมีการแก้ไข ปรับปรุงให้ทันสมัยต่อสากล แต่คนทุจริตคือคนไม่ดีที่เก่งหาช่องโหว่กฎหมายจนได้ ดังนั้นทุกคนต้องมีจิตใจเริ่มจากตัวเองก่อน อย่าทำอะไรที่เป็นการทุจริต หากทำได้ลดความขัดแย้งได้มาก และกฎหมายก็จะได้รับความเชื่อถือ ดังนั้นผู้ที่ทุจริตจะถูกต่อต้านและถูกลงโทษทั้งจากกฎหมายและสังคม ทั้งนี้เรามีหลักสูตรด้านการต่อต้านทุจริตที่กำหนดเป้าหมายให้สถานศึกษาทุกแห่งนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้คนในชาติคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม มีจิตสาธารณะ และละอายต่อการทำทุจริตทุกรูปแบบ
"ทุกคนต้องรู้จักคิดและนำมาปฏิบัติ มีจริยธรรม รู้ว่าชาติคือะไร ประเทศคืออะไร เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ นายกฯ ทำคนเดียวไม่ได้ วันนี้ผมทำงานเหมือนเดิมและหนักกว่าที่ผ่านมา 5 ปีด้วยซ้ำ มีหลายคนเรียกร้องใช้มาตรการเด็ดขาด แต่ตอนนี้ไม่มีแบบเดิม ไม่มีมาตรา 44 แล้ว ทุกคนต้องเรียนรู้และปรับตัว ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ส่วนการปะเมินรัฐบาลจะขึ้นหรือจะลง ผมไม่สนใจ คิดแต่ทำอย่างไร วันนี้ต้องสร้างหลักคิดทำงานร่วมกัน จับมือเดินไปด้วยกัน และต้องไม่ใช้ความรู้สึกแก้ปัญหาและสร้างความขัดแย้ง ขณะเดียวกันทุกคนคาดหวังผม ผมเข้าใจและยอมรับ และผมจะทำให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ใจผมทำงานเกินร้อยและทุกคนทำงานหนักทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันคิดและช่วยกันทำด้วย ใครทำแล้วก็ให้ทำยิ่งขึ้น ขอทุกคนช่วยทำความดี ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปให้ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ นำกล่าวประกาศเจตนารมณ์ว่า “ข้าพเจ้าขอประกาศเจตนารมณ์ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการทุจริต จะยึดมั่นในความยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จักปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยจิตอาสา พร้อมทำความดี ด้วยหัวใจ ตลอดไป”
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี นายกฯได้พบปะกับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆที่เข้าร่วมโครงการศูนย์ครอบครัวพอเพียง ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมต่อต้านการทุจริต โดยนายกฯได้ร่วมถ่ายภาพและเขียนลายเซ็นให้กับนักเรียนอย่างเป็นกันเอง ก่อนเดินทางกลับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |