9 ธ.ค. 2562 นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ได้เห็นชอบในหลักการ เพิ่มทุนให้เอ็กซิมแบงก์อีก 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีทุนเพิ่มจาก 20,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการปล่อยกู้ตามยุทธศาสตร์ธนาคารอีก 10 ปีข้างหน้า รวมถึงใช้ดูแลผู้ส่งออกไทยให้สามารถแข่งขัน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในปีหน้า รวมถึงการเกิดสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ
“ที่ผ่านมาได้นำเรื่องการเพิ่มทุนหารือกับรมว.การคลัง แล้ว ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็เห็นด้วยว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคการส่งออกกำลังมีปัญหา และธนาคารพาณิชย์ทั่วไปเข้มงวดการปล่อยกู้ เอ็กซิมแบงก์จะต้องมีบทบาทมากขึ้น ในการเข้าไปช่วยดูแลให้ผู้ประกอบการยืนหยัดทำการค้าขายต่อได้ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ธนาคารจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อนำแผนงานการเพิ่มทุนเสนอให้พิจารณา เพื่อดูรูปแบบความเหมาะสมในการเพิ่มทุน” นายพิศิษฐ์ กล่าว
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้เพิ่มทุน จะนำมาจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งมีเงินอยู่เพียงพอ แต่แนวทางการเพิ่มทุนยังต้องพิจารณาว่าจะเพิ่มทุนครั้งเดียวทั้งหมด 15,000 ล้านบาท หรือแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ระยะ เช่น ครั้งแรก 8,000 ล้านบาท ครั้งที่สอง 7,000 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพิจารณา และน่าจะได้ข้อสรุป สามารถเพิ่มทุนได้สำเร็จได้ภายในกลางปีหน้า
ขณะเดียวกันธนาคารก็มีแผนขยายสำนักงานผู้แทนเพิ่มอีก 1 แห่งที่ประเทศเวียดนาม จากปัจจุบันที่จัดตั้งสำนักงานผู้แทนแล้ว 3 แห่ง เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา
ทั้งนี้เมื่อเพิ่มทุนสำเร็จจะช่วยให้เอ็กซิมแบงก์ สามารถปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในต่างประเทศไทยได้ เช่น ในกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) ซึ่งยังมีความต้องการพัฒนาถนน โรงไฟฟ้า เขื่อนเพิ่มเติม และยังมีการลงทุนขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งหากใช้เงินทุนปัจจุบันของเอ็กซิมแบงก์ก็จะปล่อยกู้เองไม่ได้ ต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์อื่นในการปล่อยกู้ร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนดไว้ว่า การปล่อยกู้ต่อหนึ่งโครงการจะทำได้สูงสุดไม่เกิน 25% ของเงินทุนธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีทุนจดทะเบียน20,000 ล้านบาท จะปล่อยกู้สูงสุดต่อโครงการได้แค่ 5,000 ล้านบาท แต่หากเพิ่มทุนเป็น 35,000 ล้านบาทสำเร็จ จะทำให้ธนาคารปล่อยกู้ได้โครงการมากถึง 8,000-9,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอทำให้ธนาคารเป็นผู้นำในการปล่อยกู้แต่โครงการได้
อย่างไรก็ดี เมื่อเพิ่มทุนสำเร็จจะช่วยให้ธนาคารเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายสินเชื่อและสนับสนุนนโยบายของรัฐในการขยายลงทุนไปกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งช่วยให้รัฐบาลขยายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ และยังช่วยแก้ปัญหาธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ไม่ยอมปล่อยกู้ไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านในโครงการที่มีความเสี่ยงสูง หรือหากปล่อยก็คิดดอกเบี้ยแพงได้ด้วย โดยปัจจุบันเอ็กซิมแบงก์สามารถปล่อยกู้ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มซีแอลเอ็มวีเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขยายตัวเฉลี่ยถึง 10%
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |