เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 8 ธ.ค. 2562  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพงศกร อรรณนพพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคอีสาน นำ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ในหลายจังหวัดของภาคอีสาน อาทิ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ,น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ,นายไพจิต ศรีวรขาน, น.ส.จิราพร สินธุไพร น.ส.ชนก จันทาทอง ,นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ,นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ,นายการุณ โหสกุล ,นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ และนายอดิศร เพียงเกษ โฆษกพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายธนิก มาศรีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ต่อเนื่องในเขตพื้นที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่ย

โดยพรรคเพื่อไทยได้เปิดเวทีปราศรัย ที่ ต.บ้านเม็ง พร้อมทั้งพบปะประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งพบว่าชาวหนองเรือต่างบอกเล่าถึงความรู้สึกและยินดีที่ได้พบปะไดมีโอกาสสะท้อนปัญหาต่างๆ และหวังว่าในอนาคตหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ขึ้นบนเวทีปราศรัย ด้วยการสอบถามความทุกข์ยาก ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตร สถานภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งทราบว่ายากจนกันถ้วนหน้า ซึ่งในช่วงดังกล่าว คุณหญิงสุดารัตน์ ได้พูดด้วยเสียงสั่นเครือและว่า ร้องไห้ หลั่งน้ำตา เพราะเห็นใจประชาชน ชาวนา และเกษตรกร บางคนเจอทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม  ข้าวในนาท้องตาย ไม่มีข้าวจะกิน ซ้ำยังไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาล

“กฎกติกาที่บิดเบี้ยว กลไกต่างๆที่ทำให้พรรคซึ่งได้เสียงอันดับ 1 ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ และเมื่อเสียงในสภาไม่พอ ก็ต้องคอยมาฉกงู เพาะฟาร์มงูเห่า แต่อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องมั่นใจว่านายธนิกเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนจะไม่เป็นงูเห่าแน่นอน”

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่ออีกว่า เสียงของนายธนิกจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล เพราะวันนี้เสียงของฝ่ายค้านและรัฐบาลใกล้เคียงกัน หาก เลือกเบอร์อื่น เลือกคนอื่น ก็ไปอยู่พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งหากพ่อใหญ่ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป  รัฐบาลก็จะซื้อเรือดำน้ำ แต่ถ้าเลือก นายธนิกจะเข้าไปยกเลิกซื้อเรือดำน้ำ และจะเข้าไปเรียกร้องให้พี่น้องได้ค่าชดเชยภัยแล้งและอุทกภัยต่างๆที่เกิดขึ้น