6ธ.ค.62-นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในสื่อและโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย จากกรณีที่ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อในเฟชบุ๊กว่า “Laphatrada Waka” ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นลูกสาวของทหารระดับผู้การ ได้โพสต์ภาพของทหารเกณฑ์ทำงานที่บ้านของตนในค่ายทหาร ทั้งล้างรถ ซ่อมบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ปลอกทุเรียนให้รับประทาน ฯลฯ พร้อมโพสต์ข้อความในเชิงดูหมิ่นศักดิ์ศรี ทั้งยังอวดเบ่งความใหญ่โตของพ่อตนเองที่อยากให้เธอเป็นทหารด้วยนั้น
พฤติการณ์และการถูกกระทำของหญิงสาวลูกนายทหารดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สังคมไทยไม่อาจนิ่งเฉยหรือปล่อยให้เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในหน่วยงานหรือกองทัพตามอำเภอใจได้ เพราะประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวพันต่อหลักสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.4 ให้การรับรองและคุ้มครองไว้ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับพลทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ ที่มีเป้าประสงค์ในการผ่านการคัดเลือกและ/หรือสมัครเข้าไปเพื่อรับใช้ชาติอย่างแท้จริง ตามมาตรา 50 (5) แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบพระราชบัญญัติรับราชการทหาร 2497 แต่กลับต้องมาถูกผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจเกินไปกว่าที่กฎหมายหรือระเบียบบัญญัติ สั่งการหรือไหว้วานให้ไปทำงานนอกค่าย หรือทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของพลทหาร หรือเป็นการทำงานในลักษณะเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนของผู้บังคับบัญชา ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา ผู้บังคับบัญชาจะปฏิเสธความรับผิดชอบมิได้
ด้วยเหตุดังกล่าว วันนี้หลังจากยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้สอบอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติในเวลา 10.30 น.แล้ว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ รมว.กลาโหม (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล (ตึก กพร.เดิม) ในเวลา 12.00 น. เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ดังนี้ 1)สั่งการให้มีการตรวจสอบและลงโทษทั้งทางวินัยและอาญากับนายทหารและหรือผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการสั่งให้พลทหารประจำการไปทำงานที่บ้านของผู้บังคับบัญชา ทั้งล้างรถ ซ่อมบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ปลอกทุเรียนให้รับประทาน ฯลฯ หรือการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการนำพลทหารไปทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ผิดประเภท โดยพลัน 2)ออกคำสั่งหรือออกระเบียบ ไม่ให้นำพลทหารประจำการไปทำงานเป็นทาสรับใช้นายทหารในทุกชั้นยศ โดยเด็ดขาด หากมีนายทหารคนใดฝ่าฝืนให้มีบทลงโทษขั้นร้ายแรง โดยการไล่ออกหรือปลดออกจากนายทหารทันที
ซึ่งถ้าปัญหานี้ รมว.กลาโหมแก้ไม่ได้ ก็สมควรแล้วที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคจะรณรงค์เสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร