“ศ.ดร.มิ่งสรรพ์” บอร์ดอิตาเลียนไทยสุดทน “เจ้าสัว” ประกาศไขก๊อกพ้นเก้าอี้ รับไม่ได้ฆ่าเสือดำ   “ศศิน” พลิกหันชม “บิ๊กปู” ทำคดีเปรมชัยเร็วปานกามนิตหนุ่ม ศรีวราห์โอ่มั่นใจสำนวน 99% ลั่นเสือดำไม่ตายฟรีแน่ พร้อมสั่งคุ้ยเต็มสูบกรณี “ปืนโบราณ”  

เมื่อวันศุกร์ที่ 16 มี.ค. มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 
โดยนายวรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการ ฝ่ายบริการองค์กร บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ได้ส่งหนังสือที่ CSD 014/2561 แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ว่า บอร์ดมีมติรับทราบการลาออกของ ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ เนื่องจากกรณีปัญหาทุ่งใหญ่นเรศวร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.2561 เป็นต้นไป ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะดำเนินการแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อมาดำรงตำแหน่งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงต่อไป
        สำหรับ ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ปัจจุบันเป็นประธานมูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ เป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ โดยเอกสารในหอประวัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หอศิลป์ปิ่นมาลา) ระบุว่า ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ และปริญญาเอกปรัชญา (เศรษฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์สังกัดวิชาเศรษฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2521 โดยได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2546
ศ.ดร.มิ่งสรรพ์มีผลงานวิชาการและงานวิจัยด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากมาย รวมทั้งยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติต่างๆ อาทิ รางวัลอาจารย์และนักวิจัยยอดเยี่ยม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “ช้างทองคำ” พ.ศ.2550 และรางวัลนักวิจัยที่มีผลงานดีเด่น พ.ศ.2548 เป็นต้น
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์ เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวรารห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อติดตามความคืบหน้าและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งรัดการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยจนสรุปสำนวนส่งฟ้อง 9 ข้อหาต่ออัยการจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งเร็วกว่าที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ คาดไว้
    นายศศินกล่าวว่า วัตถุประสงค์แรกที่เข้าพบเพื่อขอความมั่นใจในการทำสำนวนรอบคอบรัดกุม และที่สำคัญภาษาชาวบ้านว่าขอให้คุณเปรมชัยไม่หลุดจากคดีเจตนาล่าสัตว์ป่า แต่ระหว่างรอส่งหนังสือมาขอเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ปรากฏว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้ส่งสำนวนฟ้องในวันที่ 13 มี.ค. เร็วกว่าที่คาดหมาย 10 วัน แม้ยังไม่เห็นสำนวนคดี แต่เมื่อดูคำแถลงของตำรวจ นายเปรมชัยอยู่ในข้อหาร่วมกันกระทำผิดล่าสัตว์ป่า จึงต้องเปลี่ยนเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทำงานเร็ว 
    “การทำคดีของคณะ พล .ต.อ.ศรีวราห์ มีความชัดเจน 2 เรื่อง 1.เร็ว 2.นายเปรมชัยอยู่ในข้อหาเจตนาฆ่าสัตว์ป่าด้วย” นายศศินกล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังได้ตอบคำถามนักศึกษา มธ.ให้ทบทวนคำสั่งภาคทัณฑ์ร้อยเวรเจ้าของคดีรับเรื่องร้องทุกข์ทารุณกรรมสัตว์ว่า คนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย จะอ้างไม่ทราบกฎหมายไม่ได้ พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ยังไม่มีบัญญัติบัญชีสัตว์ไว้ ฉะนั้นเท่ากับว่าไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ในกรณีนี้พนักงานสอบสวนไปรับคำร้องทุกข์ทั้งที่มีกฎหมายบัญญัติ ซึ่งตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจอุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการและต้องไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ จะบอกว่าไม่รู้กฎหมายออกมาใหม่ คือประมาทเลินเล่อแล้วผิดกฎหมายตำรวจ มาตรา 78 (1) และ (9) จึงได้พิจารณาทัณฑ์ชั้นเบาที่สุดให้ภาคทัณฑ์ ถ้าร้องให้ทบทวนคือมีแต่เพิ่มโทษ ทุกอย่างทำไปตามกฎหมายและระเบียบ
     พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีนายเปรมชัยในเรื่องอาวุธปืน โดยเฉพาะปืนคาบศิลา ว่าได้เชิญกรมศิลปากรมาดูแล้ว ยืนยันว่าเป็นโบราณวัตถุ แต่ไม่อยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศของกรมศิลปากร จึงไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่ตัวปืนเองเป็นโบราณสถาน ถ้าไม่สามารถหาที่มาได้ต้องตกเป็นของแผ่นดิน และจากการดูลวดลายของปืนแล้ว เป็นปืนที่มาจากประเทศอังกฤษ ต้องตรวจสอบกับศุลกากรมีหลักฐานการนำเข้าหรือไม่ ซึ่งกรมศิลปากรระบุว่าเป็นปืนทหารสมัยโบราณ จึงต้องทำหนังสือไปถามปลัดกระทรวงกลาโหมว่าปืนนี้ใช้ในราชการหรือไม่ เพราะถ้าเป็นปืนของหลวง จะเป็นเรื่องลักทรัพย์และรับของโจร
“ยืนยันว่าสำนวนทำดีที่สุด ไม่กล้าทำอะไรที่หละหลวมให้เขากลับมาฟ้อง มั่นใจในสำนวนการสอบสวน 99% มีพยานหลักฐานครบถ้วน เอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคล อายุปูนนี้ทำสำนวนมาพอสมควร คิดว่าอัยการฟ้องครบทุกข้อหาแน่ แต่ศาลจะตัดสินอย่างใดไปก้าวล่วงไม่ได้ ยืนยันว่าเสือดำไม่ตายฟรี ส่วน 3 ข้อหาหลังคือ ครอบครองงาช้าง, พ.ร.บ.อาวุธปืน และพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว.