กบง.วาดฝันไทยฮับแอลเอ็นจีทำเงินสะพัด 1.6 แสนล้าน


เพิ่มเพื่อน    

5 ธ.ค. 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่าที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขาย ก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ของภูมิภาค (ฮับ แอลเอ็นจี) ซึ่งเป็นผลศึกษาที่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานให้ศึกษาความเป็นไปได้

  ทั้งนี้ผลจากการศึกษาพบว่าหากไทยเป็นศูนย์กลางกลางการประกอบธุรกิจซื้อ-ขายแอลเอ็นจีภายในภูมิภาค จะทำให้ประเทศเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการแอลเอ็นจี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานได้ รวมถึงจะเกิดผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของไทยโดยรวมประมาณ 165,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปี (ปี 2563-2573) และมีผลต่ออัตราการจ้างงานเฉลี่ยในประเทศเพิ่มขึ้นเท่ากับ 16,000 คนต่อปี อีกทั้งยังช่วยลดภาระการส่งผ่านอัตราค่าบริการไปยังค่าไฟฟ้าด้วย

"ไทยมีศักยภาพเพียงพอทั้งด้านความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่อยู่ระดับสูงโดยเฉลี่ยปี 2562 นำเข้าประมาณ 5 ล้านตันต่อปี ศักยภาพด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ตำแหน่งเป็นศูนย์กลางของประเทศที่มีความต้องการแอลเอ็นจี ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย พม่า กัมพูชา เวียดนาม ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขายของภูมิภาคได้ คิดเป็นประมาณ 60% ของการซื้อ-ขาย ในโลก แต่ไทยต้องมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับการให้บริการอย่างหลากหลาย"นายสนธิรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มทดสอบกิจกรรมการให้บริการต่างๆ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เช่น ระบบบริการขนถ่าย การให้บริการเติมแก่เรือที่ใช้แอลเอ็นจีเป็นเชื้อเพลิง และทำการตลาดเพื่อสื่อสารให้กับผู้ค้าเข้ามาใช้บริการ โดยช่วงไตรมาสที่ 2 - 3 ของปี 2563 จะเริ่มทดลองค้าขายเชิงพาณิชย์ และจะมีการทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเต็มรูปแบบประมาณปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 เป็นต้นไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"