โพสต์ประจาน ชายอ้างเป็นตำรวจอยู่ในอาการมึนเมา ตบหน้าอาสากู้ภัย เหตุเพราะรถเบนซ์ป้ายแดงที่นั่งมาเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์ของคู่กรณีและอีกฝ่ายก็บาดเจ็บ รองโฆษก ตร.รับตรวจสอบแล้วเป็นตำรวจจริง รอเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่ผู้บังคับบัญชาก็เตรียมตั้งกรรมการสอบวินัย
    เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปภาพชายขับเบนซ์ป้ายแดง อ้างเป็นตำรวจ มีอาการคล้ายเมาสุรา ขับรถเฉี่ยวชนคู่กรณีบาดเจ็บ อีกทั้งยังด่าและตบหน้าอาสากู้ภัยไตรคุณธรรม เหตุเกิดบนถนนในพื้นที่บ้านบึงกระโดน หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
    ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เสม็ด เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.62 มีเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับความเสียหาย บริเวณซอยโรงเรียนบูรพาฝั่งมุ่งหน้าหมู่บ้านกระโดน หมู่ที่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมีผู้โดยสารรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กง 7229 ตาก ผู้โดยสารชื่อนางสุภาพ มูลหลวง ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงประสานนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคู่กรณีคือรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ส 6420 กรุงเทพฯ ผู้ขับขี่คือนายสมชาติ นิพัทธ์วรนันท์ 
    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ นางสุภาพนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันเกิดเหตุ ทันใดนั้นได้มีคู่กรณีคือนายสมชาติ ขับรถยนต์เก๋งตามหลังมาได้พยายามขับแซงขึ้นด้านหน้า จึงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับความเสียหาย นางสุภาพผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนจึงได้ถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุ นำรถคู่กรณีที่เกิดเหตุไปเก็บรักษาและได้ทำการเรียกผู้ขับขี่ดังกล่าวมาลงบันทึกประจำวัน และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ต่อมาได้มีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวพร้อมคลิปในบางช่วงว่า มีชายสวมเสื้อสีขาว อ้างตัวเป็นตำรวจอยู่ในลักษณะมึนเมา มีการโวยวายและตบศีรษะเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบชายดังกล่าว พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง โดยขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวได้นั่งมากับนายสมชาติด้วย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยรายดังกล่าว เพื่อมาสอบปากคำและสืบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะทำการประสานทั้งนายสมชาติ ผู้ขับขี่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว มาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หากตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทางอาญา และมีการรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปยังต้นสังกัด เพื่อให้ดำเนินการในทางวินัยต่อไป.