4 ธ.ค.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวีระ สมความคิด อายุ 62 ปี ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน (คปต.) พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำสั่งว่าศาลจะรับคำฟ้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่  ในคดีหมายเลขดำ อ.3199/2562  ที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มอบอำนาจให้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ยื่นฟ้อง นายวีระ สมความคิด เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท , หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากกรณีให้สัมภาษณ์ประเด็นเกี่ยวกับตรวจสอบการรุกที่ดินพื้นที่ จ.ราชบุรี

ซึ่งเดิมศาลได้กำหนดนัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 3 ก.พ. 2563 เวลา 09.00 น. แต่ภายหลังศาลได้ตรวจสำนวนคำฟ้องแล้ว จึงนัดให้นายวีระมาฟังคำสั่งในวันนี้

โดยเมื่อมาถึงศาลอาญา นายวีระและทนายความ ได้ไปรอพบเจ้าหน้าที่ศาล กลุ่มงานรับฟ้องคดี เพื่อรับฟังคำสั่งดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ภายหลัง นายวีระจึงให้สัมภาษณ์ว่า ศาลอาญาไม่รับฟ้องคดีที่ น.ส.ปารีณา ฟ้องหมิ่นประมาท คือศาลยกฟ้องคดีนี้ไปเลย โดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้อง ตนจึงไม่ต้องมีคดีความใดๆ ทั้งนี้ ศาลไม่ได้ให้เหตุผลว่ายกฟ้องเพราะเหตุผลใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับคดีหมิ่นประมาทนี้ที่ศาลยกฟ้อง หรือไม่รับฟ้องไว้ไต่สวนมูลฟ้อง นายวีระ กล่าวว่า ก็คงเป็นเรื่องข้อกฎหมาย และคงมีรายละเอียดอยู่ในคำฟ้องของโจทก์ ซึ่งตนก็ไม่ทราบรายละเอียด ขั้นตอนในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลเพียงแต่เอาคำสั่งมาแจ้งให้ทราบแค่นั้นเอง แต่อาจจะเป็นเพราะข้อมูลที่ น.ส.ปารีณา นำมาฟ้องไม่เพียงพอหรือไม่ 

ส่วนสำนวนที่ น.ส.ปารีณา ฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อีกสำนวนในความผิดฐานแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้นตนเองไม่ทราบ เพราะว่าแยกฟ้องคนละสำนวนคดี และผลของคำสั่งนี้ก็ไม่ได้ผูกพันกัน ดังนั้นตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคำสั่งศาลเกี่ยวกับคดีนายอัจฉริยะจะเป็นอย่างไร อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนคำสั่งคดีนี้ก็ได้

เมื่อถามว่า ยังมีกำลังใจในการทำงานตรวจสอบประเด็นสาธารณะต่อไปหรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง แต่เพราะอยากเห็นความเป็นธรรม อยากเห็นความยุติธรรม และอยากเห็นกฎหมายยังมีความศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถทำให้คนเกรงกลัวความผิด ว่าถ้าทำแบบนี้อาจจะมีความผิดหรือได้รับโทษตามกฎหมาย โดยไม่จำเป็นว่าคนที่จะได้รับโทษจะต้องเป็นคนจนเท่านั้น จะได้ช่วยกันรักษาป่าไม้ ก็เป็นผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ ซึ่งยืนยันว่าจะทำงานตรงไปตรงมา และตรวจสอบทุกฝ่าย ก็ขอให้ดูการทำงานของตนเองต่อไป

ด้านทนายความของนายวีระ กล่าวว่า มีทนายความกว่า 10 คน ที่พร้อมจะมาช่วยทำคดีนี้ให้ ในฐานะที่นายวีระทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ตามมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราจะต้องปกป้องรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติ ฉะนั้นวันนี้ที่ผู้พิพากษามีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา โดยไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง แสดงว่าท่านคงพิจารณาแล้วว่า คำฟ้องนี้ไม่เป็นสาระ