ฝ่ายแกนนำรัฐบาล-วิปรัฐบาลเชื่อมั่นว่า หลังจากนี้การประสานงานของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะดีขึ้น หลังเกิดกรณี ส.ส.รัฐบาลแพ้โหวตฝ่ายค้านในการโหวตตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ที่เสนอโดย ปิยบุตร แสงกนกกุล จากพรรคอนาคตใหม่ และตามด้วยสภาล่มในวันรุ่งขึ้น
อันเป็นสองเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้เห็นชัดว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีปัญหากับการขับเคลื่อนงานในสภา
จนสุดท้ายแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต้องมีการพูดคุย ถกแถลงกันอย่างหนัก ทั้งในการประชุมวิปรัฐบาลเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ซึ่งรัฐมนตรีจากหลายพรรคการเมืองต่างพร้อมใจคุยกันนอกรอบ ถึงกรณีปัญหาเสียง ส.ส.รัฐบาลในห้องประชุมมีปัญหา จนรัฐมนตรีบางคนเสนอในวงหารือว่าอาจต้องมี กฎเหล็ก ในการคุมเสียง ส.ส.รัฐบาลที่ขาดประชุมโดยไม่มีเหตุผล รวมถึงพวก ส.ส.รัฐบาลที่โหวตสวนมติวิปรัฐบาล
ข่าวบอกว่าในวงประชุม ครม.ที่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องทางการเมือง การทำงานในสภา ที่รัฐบาลแพ้โหวตฝ่ายค้านและสภาล่ม บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยมีรายงานว่ามีอยู่ช่วงหนึ่ง พลเอกประยุทธ์-นายกฯ ระบุกลางที่ประชุม...
"เมื่อเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันแล้วไม่ใช่อยู่ดีๆ คิดจะทำอะไรก็ทำ ถ้าผมอยู่ไม่ได้พวกคุณก็อยู่ไม่ได้"!!!
ขณะที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอก "เสียงฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำอยู่แล้ว เราต้องล็อกเสียงไว้เลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ประชาธิปัตย์มาโหวตสวนได้อย่างไร ทำไมไม่โนโหวต"
อีกทั้งมีข่าวอีกว่าช่วงพักเบรกของที่ประชุม ครม. นายกฯ ถือโอกาสประชุมวงเล็กที่ประกอบด้วย พลเอกประยุทธ์ - อุตตม สาวนายน รมว.การคลัง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ - จุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากประชาธิปัตย์ โดยมีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวต่อ
โดยนายกฯ กล่าวว่า...
"ถ้าการประชุมสภาพรุ่งนี้ล่มอีก อย่างเบาก็ปรับ ครม. อย่างหนักคือยุบสภา"
สาเหตุที่แกนนำรัฐบาลโดยเฉพาะฝ่ายพลังประชารัฐค่อนข้างซีเรียสกับการประชุมสภาพุธที่ 4 ธ.ค. ก็เพราะต้องการให้ภาพของ ส.ส.รัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เสียงในสภาแน่นปึ้ก เรียกได้ว่าต่อให้เป็นเสียงปริ่มน้ำ แต่ถึงเวลาโหวตวัดผล ชนะ-แพ้ กันในห้องประชุม ในแมตช์สำคัญๆ ฝ่ายรัฐบาลจะพลาดไม่ได้ ต้องชนะสถานเดียว
ยิ่งญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาประกาศ-คำสั่ง คสช. ที่ฝ่ายแกนนำรัฐบาลอย่าง พลเอกประยุทธ์-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ-พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา “3 ป.-อดีตแกนนำ คสช.” ไม่ประสงค์อย่างยิ่งที่จะให้มีการตั้ง กมธ.ชุดดังกล่าว เพราะจะทำให้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ใช้ กมธ.ชุดดังกล่าวมาเป็นเสี้ยนหนาม กวนใจ ขุดคุ้ยการใช้อำนาจ คสช. เพราะลำพังแค่ กมธ.ป.ป.ช.ชุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ชุดเดียว ก็ทำทั้งบิ๊กตู่-บิ๊กป้อมหงุดหงิดพออยู่แล้วกับการทำหนังสือเรียกไปชี้แจงหลายรอบ หากมาเจอการตั้ง กมธ.ชุดนี้ ที่ปิยบุตรขอจองเก้าอี้ประธานอีก จะยิ่งสร้างความหงุดหงิดมากขึ้นอีก
ท่าทีของสามแกนนำรัฐบาล ตู่-ป้อม-ป๊อก จึงต้องการให้เสียง ส.ส.รัฐบาลตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการทำแท้ง กมธ.ชุดนี้ผ่านการนับคะแนนใหม่อีกรอบ หลังก่อนหน้านี้เคยแพ้โหวตไป แต่การเสนอให้นับคะแนนใหม่เรื่องยังค้างอยู่ ซึ่งทั้งหมดต้องวัดกันที่เสียงในห้องประชุมสภาพุธที่ 4 ธ.ค. ว่าฝ่ายรัฐบาลจะโหวตพรึ่บแบบชนะฝ่ายค้านม้วนเดียวจบหรือไม่
ขณะที่งานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 3 ธ.ค. ที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมพูดคุยกินข้าวกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะสามแกนนำรัฐบาล ตู่-ป้อม-ป๊อก รวมถึงแกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็มาปรากฏตัวโดยพร้อมเพรียง แม้แต่สองเสียงที่เคยประกาศขอเป็นฝ่ายค้านอิสระอย่าง มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ และ พิเชษฐ สถิรชวาล จากพรรคประชาธรรมไทย
บนการจับตามองว่า สุดท้ายแล้วแกนนำพรรค ปชป.ทั้ง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และ เฉลิมชัย ศรีอ่อน จะไปเคลียร์กับ 6 ส.ส.ของ ปชป.ที่โหวตสวนมติวิปรัฐบาลที่ให้ล้มการตั้ง กมธ.ศึกษาคำสั่ง คสช.ฯ ได้สำเร็จหรือไม่ หลังก่อนร่วมวงดินเนอร์ที่ราชพฤกษ์ก็พบว่า 6 ส.ส.ปชป.ดังกล่าว บางคนยังคงยืนกรานจะโหวตแบบเดิม แต่พรรคเสนอให้พบกันครึ่งทางคืองดออกเสียง
ต้องดูกันว่าหลังแกนนำรัฐบาล เปิดอก-เปิดใจคุยกันหลายรอบ ทั้งในห้องประชุม ครม.-โต๊ะดินเนอร์ราชพฤกษ์แล้ว ปัญหารัฐบาลพลาดท่า แพ้ฝ่ายค้านในสภา จะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นหรือไม่?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |