"เลขาฯ ป.ป.ช." ชี้ "ปารีณา" ยื่นขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินได้ แต่ต้องดูเจตนา บอร์ดชุดใหญ่เตรียมถกผลสอบฟาร์มปศุสัตว์ที่ จ.ราชบุรีสัปดาห์หน้า "วราวุธ" เชื่อมือ "อธิบดีป่าไม้" ทำคดีตรงไปตรงมา "พปชร." ยันไม่ลอยแพ "เอ๋" บอกยึดตามข้อเท็จจริง "ทวี" ดิ้นท้าเดิมพันชีวิตถ้าผิดจริง "วีระ" ขึ้นศาลขอรับหมายโดนฟ้องหมิ่นฯ "ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบ 10 ส.ส. 5 พรรคฮุบที่ดิน
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ลงพื้นที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตรวจสอบฟาร์มปศุสัตว์ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้รายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยวาจาให้ทราบเรียบร้อยแล้ว เรื่องการลงไปตรวจสอบฟาร์มไก่ ฟาร์มวัว และที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของ น.ส.ปารีณา พร้อมสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน น.ส.ปารีณาตรงกับที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไว้หรือไม่
"ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และคงไม่จำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมอีก เพราะเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานครบถ้วนพอสมควรแล้ว ขณะนี้กำลังสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อรายงานอย่างเป็นทางการต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะรวมถึงเรื่องกรณีการปกปิดและแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช.ด้วย โดย ป.ป.ช.จะดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จภายใน 180 วัน" นายวรวิทย์กล่าว
ถามกรณีที่ น.ส.ปารีณาจะขอแก้ไขรายการทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช.ในส่วนที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่มีการแจ้งจำนวนการครอบครองที่ดินเกินจริง เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าวว่า ในหลักการแล้วผู้ยื่นสามารถยื่นขอแก้ไขได้ แต่ ป.ป.ช.จะต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าเป็นการคลาดเคลื่อนโดยจงใจ มีเจตนาปกปิด หรือไม่มีเจตนาใด
ซักว่า น.ส.ปารีณาระบุในบัญชีทรัพย์สินว่ามีที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 1,700 ไร่ แต่ตอนหลังระบุมีที่ดิน ภ.บ.ท.เพียง 600 ไร่ เพราะเข้าใจคลาดเคลื่อน ดูแล้วมีเจตนาอย่างไร เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าวว่า เป็นรายละเอียดในสำนวน ขอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาตรวจสอบก่อน
ถามอีกว่า การที่ น.ส.ปารีณาครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.มาตั้งแต่ปี 2553 แต่เพิ่งมายื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.แจ้งการครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.เมื่อปี 2562 จะเข้าข่ายยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จหรือไม่ นายวรวิทย์กล่าวว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่สรุปข้อเท็จจริงอยู่ ยังตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วที่ดินที่ต้องยื่นแสดงทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ได้แก่ ที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ เช่น โฉนด น.ส.3 แต่กรณี ภ.บ.ท.5 เป็นประเด็นข้อกฎหมาย เพราะอาจไปเชื่อมโยงเกี่ยวกับรายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น ป.ป.ช.จะต้องไปพิจารณาดูรายละเอียดอีกครั้ง
"ในส่วน ส.ส.อื่นๆ อีก 10 คนที่ครอบครอง ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก. ทาง ป.ป.ช.จะขยายผลไปตรวจสอบด้วยเช่นกัน โดยป.ป.ช.อาจจะต้องประสานเรื่องข้อมูลกับกรมป่าไม้ในการตรวจสอบด้วย" เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าว
พปชร.ยันไม่ลอยแพ'เอ๋'
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีกรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณาข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าว่า ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำเอกสารให้รอบคอบ จึงใช้ระยะเวลารวบรวมข้อมูล ก่อนจะไปแจ้งความเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้สังคมให้ความสนใจ ไม่ว่าจะทำอะไร รวมถึงเรื่องเอกสาร ก็ต้องทำอย่างรัดกุม ไม่ให้มีผลหรือให้ใครมาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ได้
"กรณีนี้ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะมีกฎหมายกำหนดพื้นที่ไว้ชัดเจนว่าใครมีหน้าที่ดูแลตรงไหนอย่างไร เมื่อแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ก็เป็นหน้าที่เจ้าพนักงานสอบสวนที่จะต้องทำการสอบสวนต่อไป โดยกรมป่าไม้จะให้ข้อมูลทั้งหมดเท่าที่มี" นายวราวุธกล่าว
ถามว่ามีการเสนอให้ใช้แผนที่เดียวกันเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับทุกหน่วยงาน และเห็นตรงกันแล้วว่าจะใช้แผนที่วันแมป หรืออัตรา 1 : 4,000 แต่ก่อนที่จะนำมาใช้ต้องดูขั้นตอนตามกฎหมายให้ชัดเจนก่อน โดยกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คงจะต้องมาหารือร่วมกันและออกเป็นกฎหมาย เพื่อใช้แผนที่เหมือนกันทุกหน่วยงาน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่า คดีของ น.ส.ปารีณาทุกอย่างว่าไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องกังวลใจ พรรคก็ทำหน้าที่ของพรรคในการดูแลของพรรค ส่วนเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง อยากให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน ตนคิดว่าทุกอย่างมีขั้นตอนในการดำเนินการ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำพรรค พปชร. ก็ยืนยันพรรคไม่ได้โดดเดี่ยว น.ส.ปารีณา แต่เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายในทุกๆ ด้าน ทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะปกป้องคนทำปิดกฎหมาย เราใช้มาตรฐานเดียวกัน
ที่รัฐสภา นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา เดินทางเข้าขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนประจำรัฐสภา หลังจากสื่อหลายสำนักพาดหัวข่าวสร้างความเสียหายให้กับตนเอง โดยยืนยันว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีพฤติกรรมแย่งไมโครโฟนจากมือของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ที่อยู่ระหว่างแถลงรายละเอียดการบุกรุกที่ป่าของ น.ส.ปารีณา แต่เป็นเพียงการซักถามในประเด็นรายละเอียดของที่ดินที่แถลงเท่านั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนที่ตนไปร่วมเวทีแถลงดังกล่าว เพราะมีสื่อมวลชนร้องขอให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริง
"ตั้งแต่เป็น ส.ส.ถึงรัฐมนตรี ยืนยันว่าผมไม่ใช่กุ๊ย ไม่ใช่คนกักขฬะ และไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่เป็นคนนอบน้อมถ่อมตน ซึ่งคดีนี้หากตรวจสอบว่าผมผิดและต้องติดคุก พร้อมจะฆ่าตัวตาย เพราะผมรักศักดิ์ศรี และเรื่องนี้พร้อมต่อสู้คดี จะไม่หนีคดีเหมือนอย่างนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะอยู่ตามคำตัดสิน แต่จะฆ่าตัวเอง การกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายที่สุดในชีวิต ผมเป็นคนรักษาชื่อเสียงยิ่งกว่าชีวิต ไม่เสียดายชีวิตถ้าสิ่งนั้นทำให้เสียชื่อเสียง" นายทวีกล่าว
ถามว่า ที่ระบุจะฆ่าตัวตายหากคำพิพากษาปรากฏว่าผิด ถือว่ากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายทวีกล่าวขึ้นว่า “งั้น ผมขอยกเลิกที่พูดไปว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ผมยืนยันว่ารักศักดิ์ศรีของผม”
ซักว่าในประเด็นที่เกี่ยวกับที่มาและการถือครองที่ดิน นายทวี กล่าวว่า ซื้อมาจากนายทหารคนหนึ่ง แต่นายทหารคนนั้นจะได้มาอย่างไรไม่ทราบ ซึ่งเขาเล่าว่าที่ดินที่ขายนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากบิดา ซึ่งปู่ให้มา และใช้เป็นที่ทำการเกษตร
เมื่อถามอีกว่า ในเอกสารที่จะต่อสู้คดีมีชื่อระบุชัดเจนหรือไม่ว่าใครถือครองที่ดิน นายทวีกล่าวว่า แน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ น.ส.ปารีณาไม่รู้ ตนเป็นคนถือครองอยู่
พอถามว่าแล้วทำไม น.ส.ปารีณาถึงนำที่ดินในพื้นที่ไปแจ้งเป็นทรัพย์สินรายงานต่อ ป.ป.ช. นายทวีปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ระบุเพียงว่า เดี๋ยวความจริงจะปรากฏ
ร้องสอบ10ส.ส.ฮุบที่ดิน
ต่อมา นายทวีเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พนักงานสอบสวน บก.ปทส. หลังมีข่าวถูกหมายจับในคดีบุกรุกป่ากว่า 46 ไร่ อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.เอกศิษฎ์ โตอดิเทพย์ รอง.ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปทส. ระบุว่า เบื้องต้นตรวจสอบยังไม่พบว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายทวี คงต้องรอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง แต่ได้ลงบันทึกวันไว้เป็นหลักฐานตามประสงค์ของนายทวีไว้ก่อน
วันเดียวกัน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อขอรับสำเนาคำฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.3199/2562 ที่น.ส.ปารีณาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวีระเป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท จากการให้สัมภาษณ์กรณีตรวจสอบการรุกที่ดินของ น.ส.ปารีณา นายวีระกล่าวหลังเข้าพบศาลว่า ทางศาลจะขอปรึกษาอธิบดีก่อน โดยนัดให้มาฟังคำสั่งวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 14.00 น. และให้มารอรับหมายเลย ซึ่งตนก็จะเดินทางมาด้วยตัวเอง
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันที่ 4 ธ.ค. เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน สอบสวนเอาผิด ส.ส.จำนวน 10 คน จาก 5 พรรคการเมือง ประกอบด้วย ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ 2 คน, พรรคพลังประชารัฐ 2 คน, พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน, พรรคภูมิใจไทย 2 คน และพรรคเพื่อไทย 1 คน ซึ่ง ส.ส.เหล่านี้ได้ยื่นแบบแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้ยึดถือครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท.5 และหรือ ส.ป.ก.กันเป็นจำนวนมาก โดยที่น่าจะขาดคุณสมบัติของการมีสิทธิครอบครองและทำประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ ส.ส.ทั้ง 10 คนได้ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ปรากฏโดยชัดแจ้งว่ามีทรัพย์สินและรายได้ต่อปีเป็นจำนวนมาก จึงเป็นการขัดต่อ พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกร พ.ศ.2535 และมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2555 ได้กำหนดอัตรารายได้ของผู้ยากจนไว้ คือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อคนต่อปีเท่านั้น
"ส.ส.ทั้ง 10 คนย่อมรู้ว่าตนเองเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติของการได้สิทธิในการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. หรือ ภ.บ.ท.5 ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น แต่กลับไม่ยอมสละที่ดินดังกล่าวคืนให้รัฐเพื่อนำไปจัดสรรให้กับผู้ยากไร้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เท่ากับว่าอาจมีเจตนาที่จะทุจริตต่อหน้าที่และฝ่าฝืนกฎหมาย อันเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรงในข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 9 และยังเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลักในข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 17 และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมทั่วไปในข้อ 21 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 บัญญัติอีกด้วย" นายศรีสุวรรณกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |