16 มี.ค.61- ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจาก ประชาชนชาวสุรินทร์จำนวนมาก ว่า กำลังได้รับความเดือนร้อนจากการ ผุดตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร เป็นดอกเห็ด ในพื้นที่ อ.เมืองสุรินทร์ โดยมีการนำป้ายแจ้งเตือนการตั้งด่าน และรายชื่อผู้ควบคุมด่าน มาวางกลางท้องถนน มีการวางกรวยสีส้มบังคับการจราจรให้แคบลง และมีการกระจายกำลัง ห่างจากด่านจริงกว่า 200 เมตร ไปแอบซุ่มอยู่ตามมุมต่างๆ โดยไม่มีการวางกรวยสีส้มแจ้งเตือนว่า ข้างมีด่านจราจร โดยเฉพาะสี่แยก ทสปช. ต.ในเมือง อ.เมือง มีการตั้งด่านใกล้ๆกับ สี่แยกไฟแดง ห่างไม่ถึง 100 เมตร เป็นจุดบอด จุดอับ สุ่มเสี่ยงเกิดอันตราย ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและลูกหลานเด็กนักเรียน วอนสื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บริเวณ สี่แยก ทสปช. ต.ในเมือง พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สภ.เมืองสุรินทร์ กำลังจับและยึดรถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีนายอนุสรณ์ แสงงาม อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 ม.2 ต.คอโค อ.เมือง โดยได้ออกเอกสารเพียงใบเดียว ระบุว่าเป็น บันทึกการตรวจยึดรถ/จับกุม(ตามคำสั่ง คสช.) สถานที่บันทึก สภ.เมืองสุรินทร์ 16 มี.ค.61 สถานที่ยึดและจับกุม แยก ทสปช. ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ์ วงศ์สุเมธ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์,พ.ต.อ.ยศวัฒน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ,พ.ต.ทงบุญส่งวิทยุ ห้องแซง รอก ผกก.จร.สภ.เมืองสุรินทร์,ร.ต.อ.อรรถพร พลยางนอก สว.จร.สภ.เมืองสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย ส.ต.ท.ธีรภัทร์ สมเป็น (637)
โดยกล่าวอ้าง พฤติการณ์ในการตรวจยึด/จับกุม ตามวันเวลา ที่เกิดเหตุขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและแก้ปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ พบผู้ขับขี่ดังกล่าว เข้ามาในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้สัญญาณรถหยุด โดยมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีไว้เป็นความผิด ได้มาโดยกระทำผิด หรือได้ใช้ในการกระทำผิด และได้ตรวจยึดรถนำรถมาเพื่อตรวจสอบ และเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ โดยอาศัยอำนาจ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22 /2558 ลงวันที่ 22 ก.ค.58 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2558 ลง 30 ธ.ค.58
พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหากับ นายอนุสรณ์ แสงงาม อายุ 14 ปี ผู้ขับขี่ โดยกล่าวหาว่า (1)ขับขี่รถไม่มีสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือทะเบียนรถ (2)ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ (3)ใช้รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน (4)ไม่จัดทำ พรบ./ไม่เสียภาษีประจำปี (5)ใช้รถเสียงดังเกินกฎหมายกำหนด (6)ใช้รถที่มีส่วนควบหรืออุปกรณ์ไม่ครบ และ(7)ดัดแปลงสภาพรถ (เสียงดัง) พร้อมกับใช้ดินสอเขียนบนเอกสารฉบับดังกล่าวว่า “ปรับ 1,000 บาท” โดย ส.ต.ท.ธีรภัทร์ สมเป็น (รหัสเมือง 637) ผู้ตรวจยึด
ผู้สื่อข่าวจึงพา นายอนุสรณ์ แสงงาม เดินทางมาที่ สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมโทรศัพท์ประสานแจ้ง นางสุนิศา สุดอุดม อายุ43 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาด มีรายได้เพียงวันละ 300 บาท ทั้งนี้ เมื่อประสาน ร.ต.อ.นิธิศ พะเรรัมย์ สารวัตร จราจร สภ.เมืองสุรินทร์ ได้แจ้งว่า หากปรับตามกฎหมายจะตกข้อหาละ 1,000 บาท จึงได้ลงลายมือชื่อ ปรับ 400 บาท ตามใบเสร็จรับเงินค่าปรับ สภ.เมืองสุรินทร์ เล่มที่ 50308 เลขที่ 100 ลงวันที่ 16 มี.ค.61 ได้รับเงินจาก นายอนุสรณ์ แสงงาม ต้องหาว่า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ตามคดีเปรียบเทียบปรับที่ 8300/61 ลง 16 มี.ค.61 และจากการตรวจสอบการนำส่งเงินเข้าคลังท้องถิ่นในพื้นที่ ที่มีการตั้งด่าน พบว่า ปีงบประมาณ 2559 สภ.เมืองสุรินทร์นำส่งเงินเข้าคลังเทศบาลเมืองสุรินทร์ เป็นเงิน 267,940บาท และในปีงบประมาณ 2560 สภ.เมืองสุรินทร์ นำส่งเงินเข้าคลังเทศบาลเมืองสุรินทร์ เป็นเงิน 532,000 บาท
นางสุนิศา ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า แค่ลูกสาวโทรศัพท์ไปบอกว่า รถน้องชายโดนจับ พ่อแม่รู้เลยว่า ต้องเตรียมเงินมาเลย 10,000 บาท เพราะอายุน้อย ไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง พ่อแม่ได้ส่งเสริมเรื่องการแต่งรถ ยอมรับว่ารู้เราผิด แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ส่งเสริม มันเป็นช่วงวัยรุ่น ถามว่าตำรวจจับลูกโกรธมัย ก็โกรธบ้าง ก็ยอมรับผิดที่ปล่อยปละละเลยลูก เป็นแบบนี้ รถเป็นสภาพแบบนี้ แต่ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า พ่อแม่ทุกคนไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตนทำงานรับจ้างทำความสะอาด มีรายได้วันละ 300 บาท เสียค่าปรับ 400 บาท หากนำไปซื้อกับข้าว และให้ลูกสามคนไปโรงเรียนคนละ 50 บาท ไหนจะค่าน้ำมันรถ บางวันเงิน 400 บาทก็เกือบจะหมด มาจ่ายค่าปรับ 400 บาทก็หมดแล้ว
“สำหรับโครงการสุภาพบุรุษจราจร ตอนแรกก็คิดว่าดีนะ เพราะชีวิตประจำวันต้องขี่รถจักรยานยนต์ ต้องระวังตำรวจจับ อยากวิงวอนผ่านสื่อถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากให้มีอะลุ่มอล่วย กับประชาชนตาดำๆบ้าง”นางนิสา กล่าว
จากการสอบถาม ร.ต.อ.นิธิศ พะเรรัมย์ สารวัตร จราจร สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า เงินค่าปรับก็จะเข้าคลังเทศบาลเมืองสุรินทร์ ต้องไปถามเทศบาลเมืองสุรินทร์ว่าเงินเข้ากี่เปอร์เซ็นต์ ตนตอบไม่ได้ ส่วนเงินรางวัลนำจับ ตนไม่เคยได้รับ สื่อสามารถตรวจสอบได้เลย เพราะไม่เคยจับ พ.ร.บ.จราจร แบ่ง 50/50 ถ้าเป็นภาษีหรือ พ.ร.บ.ขนส่ง ผู้จับก็จะได้รางวัลนำจับเยอะกว่า พ.ร.บ.จราจรทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันจะพบว่า มีการตั้งด่าน จุดตรวจ จุดสกัด ผุดยิ่งกว่าดอกเห็ด แทบทุกพื้นที่ ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน สุดเอื้อมระอา ภาพลักษณ์ตำรวจ เสียหายในทางลบ เพจดังจวกยับ พฤติกรรมการตั้งด่านลอย การจับกวดขันวินัย จราจร เพื่อหวังเพียง รางวัลนำจับ แม้ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผบตร. ผุดโครงการสุภาพบุรุษจราจร ทำความดีด้วยหัวใจ “เปลี่ยนใบสั่ง ให้ความรู้ ” ได้มีการดำเนินการระยะที่ 1 ตั้งแต่ วันที่ 1-7 ธ.ค.ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนรับทราบ ระยะที่ 2 ตั้งแต่ วันที่ 8 – 20 ธ.ค. “ห่วงใย ให้ความรู้ ว่ากล่าวตักเตือน” เฉพาะข้อหาที่สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น ระยะที่ 3 ตั้งแต่ วันที่ 5 ม.ค. – 30 ก.ย.61 กิจกรรมทางเลือก “เปลี่ยนใบสั่ง ให้ความรู้” เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ที่ไม่ต้องการชำระค่าปรับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |