3 ธ.ค.62- นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Sutin Wannabovorn” ว่า กรรมาธิการศึกษาผลกระทบ ม.๔๔ มีแต่เปลืองน้ำลายไม่ได้ประโยชน์ใดๆ
ผู้ได้รับกระทบจากมาตรา ๔๔ เท่าที่เห็นก็มีนายธาริต เพ็งดิษ นักการเมืองและข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล บุกรุกป่าสงวนที่ถูกยึดคืนมาประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ ไร่ นายบ่อนการพนัน เจ้าของซ่อง ขบวนการค้ามนุษ กลุ่มนิติราษฎร์ กลุ่มชังชาติพยาบาทสถาบัน ครือข่ายต่อต้านมาตรา ๑๑๒ คิวรถตู้ ขบวนการค้ายาเสพติด และอื่นๆที่ละเมิดกฏหมาย
ชาวบ้านธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ผู้มีสัมมาชีพสุจริตไม่เคยมีใครได้รับผลกระทบใดๆต่อการบังคับใช้มาตรา ๔๔ ดังนั้นการตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบต่อมาตรา ๔๔ ไม่ต่างจากการศึกษาผลกระทบต่อทุจริตชน
ถ้าจะศึกษาผลกระทบจากคำสั่งที่ออกโดยคณะปฎิวัติต้องศึกษาไปถึงปี ๒๔๗๕ ที่คณะราษฯออกกฏหมายอาญาพิเศษขึ้นมาเพื่อฆ่าและจำคุกฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกอบกู้ชาติ (ขบถ) กับพระองค์เจ้าวรเดช หรือไม่ตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากมาตรา ๑๗ ที่บังคับใช้ในสมัยจอมพลผ้าขาวม้าแเดง ซึ่งพ่อค้าฝิ่นและผู้มีอิทธิพลอันธพาลได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
หรือไม่ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาผลกระทบบังคัยใช้กฏอัยการศึก การบังคับใช้เคอร์ฟิวในสมัยรัฐบาลหอย กฏหมายคำสั่งต่างๆที่ออกโดย คมช หลังจากยึดอำนาจปี ๔๙ และยังมีอื่นอีกร้อยแปดพันเก้า ถ้าตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาผลกระจากยึดอำนาจและคำสั่งที่ออกโดยองค์รัฐาธิปัตย์ ต้องตั้งกรรมาธิการขึ้นมา ๑๘ คณะ ใช้เวลาศึกษาอย่างน้อย ๘๕ ปี ถึงจะครบถ้วนกระบวนความทั้งหมด
แต่ถ้าคิดศึกษาผลกระทบเฉพาะคำสั่งที่ออกโดย คสช ก็เท่ากับหาเรื่องพูดให้เปลืองน้ำลายไม่เกิดประโยชน์โพชผลใดๆเพราะกว่าจะได้ตั้งกรรมาธิการทำนายว่าพรรคอนาคตไหม้ตายไปแล้วเกิดใหม่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |