3 ธ.ค.62- นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าซูเปอร์โพล VS เนติวิทย์โพล

เมื่อวานนี้ ซูเปอร์โพล ได้เผยผลสำรวจยืนยันว่า ประชาชนมากกว่าครึ่งเห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารต่อไป ยังไม่เห็นระบบไหนดีกว่า

โพลนี้อ้างว่าสำรวจโดยถามคนในโลกออนไลน์และ"เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม" ก็ไม่รู้ว่าออนไลน์นี่ที่ไหน และเสียงดั้งเดิมที่ว่านี้ หมายถึง ประชาชนในที่ไหน จากค่ายทหารหรือเปล่า?

ผลที่ออกมาย้อนแย้งอย่างสิ้นเชิงกับ ผลสำรวจในโลกออนไลน์ผ่านเพจต่างๆในรอบสองสามปีนี้ที่คนไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ทหารแทบจะท่วมท้น

นอกจากนี้
2ปีก่อน ถ้ายังมีใครจำได้ผมใส่นาฬิกาหลายเรือนไปผ่อนผันทหาร ในตอนนั้นผมและเพื่อนๆทำแบบสำรวจถาม บรรดาเพื่อนๆที่จะไปเกณฑ์ทหาร จับใบดำใบแดง และพ่อแม่พี่น้องของเขา ผลปรากฎออกมา ผลค่อนข้างตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับซูเปอร์โพล ผมยังเดินทางไปโคราชต่อจากนั้นและไปถามแบบเดียวกันที่คัดเลือกทหารในเดอะมอล โคราช ปรากฎว่า 80% ขึ้นไปเหมือนกันบอกตรงกันว่า ไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ทหาร

มันยังย้อนแย้งกับปรากฎการณ์ที่การทุจริตของทหารถูกเปิดเผยในสื่อมากขึ้น ความรุนแรงของค่ายทหารที่ปรากฎออกมา โพลอ้างว่า คนจำภาพน้ำท่วมที่ทหารมาช่วยได้ดี แต่เอาให้จริงคนทั่วไปน่าจะจำภาพ น้องเมยถูกซ่อมจนตายได้ดีเสียกว่า ดังเห็นได้จากจำนวนผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารลดลงมาก

ดังนั้นโดยสรุป ผมกังขาความถูกต้องของผล ซูเปอร์โพลถามใคร รวมถึงตั้งคำถามด้วยว่าเขาถามใคร IO หรือถามประชาชนทั่วไป แต่ผมแน่ใจอย่างหนึ่งแน่ๆว่า โพลนี้ บักตู่ บักป้อม บักแดง คงเอามาใช้อ้างความชอบธรรมแน่ๆ

แต่การอ้างของพวกเขาจากใช้โพลนี้ก็มีแต่จะสร้างข้อกังขาให้แก่ประชาชนไม่สิ้นสุด ผมไม่เรียกร้องให้ โลกออนไลน์ทำโพลมาแข่งกับเขาหรอกนะครับ ผมคิดว่า ตอนนี้พวกเราควรผลักดันให้เกณฑ์ทหารเป็นประชามติของชาติถามประชาชนเลยว่าเอาไหม เหมือนที่ออสเตรเลียเคยทำ

2 ปีก่อนผมยังให้สัมภาษณ์ท้าทายรัฐบาล วันนี้ผมก็ยังขอท้า รวมถึงท้าฝ่ายค้านให้มาผลักดันการทำประชามติด้วย ไม่ต้องมาโต้แย้งทำโพลไปมา แน่จริงก็มาคุยเรื่องนี้แบบแฟร์ๆเลย รณรงค์เห็นด้วยคัดค้านกันให้ประชาชนรู้ข้อมูลอย่างรอบด้านและตัดสินใจ

“ผลสำรวจแสดงว่าการเกณฑ์ทหารควรเปลี่ยนแปลง สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน คนที่จะไปเป็นทหารก็ต้องการสิทธิมนุษยชนเช่นกัน ยืนยันว่าการบังคับเกณฑ์ทหารล้าสมัยแล้ว ถ้ารัฐบาลแน่จริงทำประชามติเรื่องนี้เลย”

ทั้งนี้การทำประชามติต้องใช้งบประมาณหลักพันล้านบาท ล่าสุดการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใช้งบประมาณไปถึง 3 พันล้านบาท