เหนือ อีสานอุณหภูมิลดต่อเนื่อง คนกรุงสัมผัสอากาศหนาวได้ตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ภาคใต้ย่ำแย่เผชิญฝนตกหนัก น้ำท่วม นราธิวาสอ่วม 11 อำเภอ โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก บ้านเรือนใน 23 ชุมชนถูกน้ำท่วม บางพื้นที่ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาประสบภัยแล้ว 15 แห่งต้องปิดเรียน
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-10 ธันวาคม 2562)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ในช่วงวันที่ 3-10 ธันวาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 8-10 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-9 องศาเซลเซียส บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีน ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ซึ่งจะทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น
นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ทำให้น้ำท่วมขัง 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก สุคิริน สุไหงปาดี ระแงะ ยี่งอ จะแนะ เมือง รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง และอำเภอตากใบ รวม 48 ตำบล 209 หมู่บ้าน 39 เทศบาล บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 16,051 ครัวเรือน 30,573 คน ถนน 8 สาย อพยพประชาชน 129 คน 30 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำสุไหงโก-ลก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสนับสนุนเรือท้องแบน เสื้อชูชีพ กระสอบทราย น้ำดื่ม พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันจันทร์ว่า บรรยากาศโดยทั่วไปท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส มีแสงแดดส่องจ้า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเริ่มทิ้งช่วงและตกประปรายในบางพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงของมวลน้ำในพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้ง ได้ไหลลงมาสมทบ เพื่อระบายสู่ทะเลอ่าวไทยด้าน อ.ตากใบ โดยแม่น้ำสุไหงโก-ลกมีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง 2.20 เมตร ส่งผลทำให้น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขยายเป็นวงกว้างเป็น 23 ชุมชน มีระดับน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 80 ถึง 200 เซนติเมตร โดยชุมชนหัวสะพานมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงสุด
จากการตระเวนสำรวจถนนหนทางที่ประชาชนสัญจรไปมาในพื้นที่ อ.แว้ง พบว่า ถนนสายบายพาสสุไหงโก-ลก จรดบูเก๊ะตา มีน้ำท่วมขังสูง จนยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และมีโรงเรียนบ้านไม้ฝาด หมู่ 8 ต.กายูคละ ถูกน้ำท่วมขังจนทางโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอน นอกจากนี้ โรงพยาบาลสุขเสริมสุขภาพ ต.กายูคละ ก็มีน้ำท่วมขังบ้านพักของเจ้าหน้าที่ จนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ชั่วคราวบนสำนักงาน
นายสุพจน์ มณีรัตนโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นราธิวาส เขต 2 กล่าวว่า สพป.นราธิวาส เขต 2 มีโรงเรียนประสบปัญหาน้ำท่วม 15 แห่ง ประกอบด้วย อ.สุไหงโก-ลก 4 แห่ง (โรงเรียนบ้านกวาลอซีรา โรงเรียนบ้านมูโน๊ะ โรงเรียนบ้านกูแยอีแก โรงเรียนบ้านตือระมิตรภาพที่ 172) อ.สุไหงปาดี 7 แห่ง (โรงเรียนบ้านบาโงฮูมอ โรงเรียนอิลามบำรุง โรงเรียนวัดประดิษฐ์บุปผา โรงเรียนบ้านสายะ โรงเรียนบ้านบือราแง โรงเรียนบ้านตะโล๊ะบูเก๊ะ โรงเรียนบ้านตาเซะใต้) อ.แว้ง 1 แห่ง (โรงเรียนบ้านยะหอ) และ อ.ตากใบ 3 แห่ง (โรงเรียนบ้านตาบา โรงเรียนวัดสิทธิสารประดิษฐ์ และโรงเรียนบ้านปลักปลา) ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะน้ำไหลบ่าเข้าอาคารเรียน สนามหน้าอาคารเรียน ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนได้เตรียมรับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วตามคำแจ้งเตือนของเขตพื้นที่
พัทลุง ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เช้าวันที่ 2 ธ.ค. น้ำป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดพัทลุงที่ไหลหลากลงมาตามน้ำตกหนานสูงและน้ำตกปากรางในท้องที่ ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา ได้หลากลงมายังพื้นที่ด้านล่างลุ่มน้ำคลองพญาโอ้งในท้องที่ ต.ชะรัด อ.กงหรา ก่อนหลากท่วมบ้านเรือนในหมู่ 2, 3 และ 8 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง รวมกว่า 80 ครอบครัว นอกจากนี้เส้นทางเข้าออกหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร บางจุด 50 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กสัญจรผ่านไปมาไม่ได้
ปัตตานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้หน่วยงานรัฐรีบเร่งในการสร้าง ขุดลอก และขยายคูระบายน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานีได้ประสบกับน้ำท่วมขัง จนถึงปัจจุบันหน่วยงานรัฐได้แก้ปัญหาเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่จะต้องแก้ปัญหาด้วยการขุดลอกน้ำและขยายคูน้ำต่อไป
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 13 อำเภอ 68 ตำบล 322 หมู่บ้าน 56 ชุมชน มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 18,451 ครัวเรือน 41,369 คน ถนน 14 สาย ซึ่งขณะนี้สัญจรไปมาได้แล้ว และฝนเริ่มหยุดตก หากไม่มีฝนเพิ่มคาดว่าระดับน้ำจะลดลง ระบายลงทะเล จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 7-10 วัน โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |