2 ธ.ค. 62 - นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการทบทวนแก้ข้อบังคับการประชุมสภาฯข้อ85ว่า เป็นเรื่องที่ดี ข้อบังคับดังกล่าวเมื่อใช้ไป เราก็เห็นข้อบกพร่อง ซึ่งต่อไปควรจะให้นิยามให้ชัดเจน การจะนับคะแนนใหม่หรือการขอลงคะแนนใหม่ ซึ่งการจะขอนับคะแนนใหม่ ต้องมาจากเรื่องอะไร ต้องเขียนให้ชัด ไม่เช่นนั้นเมื่อมีการโหวตแล้วแพ้ ก็จะมีการขอให้นับคะแนนใหม่ 

ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลอาจยืนยัน ให้ลงคะแนนใหม่นั้น เรื่องนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนำไปหารือในวันประชุมสภาฯ 4 ธ.ค. แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น ยังยืนยันในจุดยืนเดิม จะไม่ลงคะแนนใหม่ ถ้ารัฐบาลยังมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ เขาหมดปัญญาแล้วจริงๆ ตามความเห็นส่วนตัว อาจจะช่วยสักครั้ง ลงชื่อเพื่อให้องค์ประชุมครบ แต่จะไม่โหวตใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน 

นายสุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตามถ้าการประชุมยังล่มอีก คงจะเป็นปัญหาต่อเรื่องอื่นๆ ถ้าการประชุมล่มเป็นครั้งที่3 รัฐบาลจะถูกมองว่า หมดสภาพแล้ว เดินต่อไปไม่ได้แล้ว สำหรับกรณีประธานวิปรัฐบาล ระบุจะไม่ถอนมตินั้น ถ้าไม่ถอน เป็นสิทธิของทางรัฐบาลที่เขาอาจมั่นใจ องค์ประชุมครบ แต่เราก็ยืนยันตามจุดยืนเดิม ปัญหาเรื่ององค์ประชุมไม่ครบ เรื่องการประชุมล่ม ไม่ได้เกิดจากฝ่ายค้าน เราไม่ได้เล่นเกมการเมือง และคิดว่าสังคมก็เข้าใจ

ถามอีกว่าหากยังมีปัญหาระหว่างรัฐบาลฝ่ายค้าน คิดว่าจะกระทบไปถึงการพิจารณาพรบ.งบประมาณในวาระ2-3หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ตอนนี้ก็มีสัญญาณที่น่าสนใจ รัฐบาลเองก็คงคิดหนัก ที่ผ่านมาที่รัฐบาลนับคะแนนชนะฝ่ายค้าน ถ้าฝ่ายค้านคิดนับใหม่ เราอาจจะเห็นอะไรดีๆ เช่น โหวตบางเรื่องเขาชนะจริงหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ หรือเรื่องอื่น เพราะเมื่อขอให้นับองค์ประชุมใหม่ก็ล่มทั้งหมด จึงมีคนตั้งข้อสังเกตุว่า การโหวตนั้นมีการกดบัตรแทนกันหรือไม่

นายสุทินกล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลนัดทานอาหารกันในวันที่3ธ.ค.เพื่อเคลียร์ใจกันนั้น ยังไม่แน่ใจว่า เคลียร์ใจกันได้หรือไม่ เพราะต้องไปดูว่าแผลที่เคยเกิดขึ้นเป็นแผลเล็กหรือแผลใหญ่ ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านก็ขอเอาใจช่วย อยากให้เขาเคลียร์กันได้ จะได้มีเสถียรภาพ

ถามว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นช่วงต้นปี2563 นายสุทินกล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะตอนนี้เรามีข้อมูลใหม่เข้ามา รวมทั้งได้ทราบถึงการนับสมัยประชุม ที่จะไปสิ้นสุดในเดือนก.พ.2563 ประกอบกับในเดือนธันวาคม ที่เคยคิดว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีเรื่องต่างๆประเดประดังเข้ามาทั้งเรื่องเลือกตั้งซ่อม  ซึ่งในช่วงปลายเดือนธันวาคม2562 คงจะยังไม่ยื่นญัตติขอภิปราย เพราะเกรงว่า รัฐบาลอาจจะบรรจุให้การอภิปรายเกิดในช่วงต้นเดือนมกราคม2563 ที่เพิ่งผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน อาจทำให้ข้อมูลที่ได้มา เสียของ หากมีการอภิปรายในช่วงปลายเดือนมกราคม2563 ถือว่าเหมาะ เรามีข้อมูลเราพร้อมเพรียง ขอยืนยันว่า ที่ยังไม่ยื่นอภิปราย ไม่ใช่ฝ่ายค้านไม่มีข้อมูล หรือต้องการประวิงเวลาแต่อย่างใด