2ธ.ค.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมสภาการศึกษา (กกส.) ที่ประชุมรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้สรุปประเด็นความคิดเห็นประเด็นหลักๆ จากที่มีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ก็จะเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่ได้รับฟังมา เช่น เสียงส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนการเรียก ผู้อำนวยการ ,รองผู้อำนวยการ เป็นครูใหญ่ และ ผู้ช่วยครูใหญ่ , ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เป็น ใบรับรองความเป็นครู เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการเสนอความเห็นประเด็นอื่นๆ เช่น การจัดทำร่าง พ.ร.บ. การศึกษา ต้องดำเนินการตามกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะให้ครบถ้วน ควรปรับลดโครงสร้างการบังคับบัญชาจากส่วนกลางถึงสถานศึกษาให้สั้นลง การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาควรแยกจากกัน ควรเพิ่มเนื้อหาสาระด้านระบบสวัสดิการ และการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เป็นต้น
“หลังจากนี้ผมจะขอตรวจดูในรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่ายังมีประเด็นใดที่เราควรคำนึงถึงแต่ยังไม่ได้รับฟังความคิดเห็นอีกหรือไม่ หากครบถ้วนแล้ว คาดว่าอีก 1 สัปดาห์ก็น่าจะเสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ ซึ่งจะเสนอภายในปี 2562แน่นอน”รมว.ศธ. กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีข้อคิดเห็นเรื่องโครงสร้างที่ยังมีความเห็นต่าง จะดำเนินการต่อไปอย่างไร นายณัฏฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถเข้าไปทักท้วงหรือเสนอแนะได้ ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็ได้ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. ซึ่งมีนายวราวิทย์ กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศธ. เป็นประธาน ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ซึ่งอาจได้ข้อสรุปในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนมั่นใจว่าทุกขั้นตอนมีเวลาเพียงพอที่จะรับฟังถึงความเหมาะสม