ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เยือนอัฟกานิสถานเป็นครั้งแรกโดยไม่ประกาศล่วงหน้าเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อร่วมรับประทานอาหารวันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับทหาร เชื่อตอลิบันยอมรับการหยุดยิงและรื้อฟื้นการพูดคุยสันติภาพกับสหรัฐ ด้านโฆษกตอลิบันบอกพร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยต่อทหารที่ฐานทัพอากาศบากรัมในอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 / AFP
รายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562 กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางไปเยี่ยมทหารอเมริกันที่ฐานทัพอากาศบากรัมของสหรัฐในอัฟกานิสถานเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งตรงกับวันขอบคุณพระเจ้าของชาวอเมริกัน โดยเป็นการเดินทางมาเยือนอัฟกานิสถานเป็นครั้งแรกของทรัมป์ ที่นี่ทรัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ของอัฟกานิสถาน
การมาเยือนของทรัมป์ครั้งนี้เกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากตอลิบันตกลงกับรัฐบาลสหรัฐและอัฟกัน ยอมแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอเมริกันและออสเตรเลียที่ถูกจับตัวไว้นาน 3 ปี กับสมาชิกระดับสูงของตอลิบัน 3 ราย เพิ่มความหวังว่าการทำความตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามยาวนาน 18 ปีจะเป็นความจริง
"ตอลิบันต้องการทำความตกลง และเรากำลังพบกับพวกเขา" ทรัมป์บอกกับนักข่าวภายหลังเดินทางถึงอัฟกานิสถาน "เราเคยบอกว่าต้องมีการหยุดยิง แต่พวกเขาไม่อยากหยุดยิง ผมเชื่อว่าตอนนี้พวกเขาอยากจะหยุดยิงแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นไปในทิศทางนั้น"
เมื่อเดือนกันยายน ดูเหมือนว่าสหรัฐและตอลิบันใกล้จะลงนามความตกลงกันได้ แต่ภายหลังตอลิบันวางระเบิดโจมตีในกรุงคาบูลทำให้มีคนเสียชีวิต 12 คน รวมถึงทหารอเมริกัน 1 นายในเดือนเดียวกันนั้น ทรัมป์ก็ประกาศทันทีว่ากระบวนการเจรจายาวนาน 1 ปีนั้น "ตายแล้ว" และยกเลิกคำเชิญแกนนำตอลิบันมาพบที่สหรัฐ
รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของแกนนำตอลิบันหลายคนภายหลังทรัมป์มาเยือนอัฟกานิสถานว่า พวกเขากำลังประชุมเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐที่กรุงโดฮาของกาตาร์มาตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว และพวกเขาน่าจะรื้อฟื้นการพูดคุยสันติภาพอย่างเป็นทางการกันในไม่ช้า
"เราหวังว่าการมาเยือนอัฟกานิสถานของทรัมป์จะพิสูจน์ว่าเขาจริงจังกับการเริ่มต้นพูดคุยกันอีกครั้ง เราไม่คิดว่าเขามีทางเลือกมากนัก" แกนนำอาวุโสของตอลิบันกล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตน
ซาบีฮุลลาห์ มูจาฮิด โฆษกของตอลิบัน กล่าวเมื่อวันศุกร์ด้วยว่า ตอลิบัน "พร้อมรื้อฟื้นการพูดคุย" ที่ระงับไป จุดยืนของตอลิบันยังคงเหมือนเดิม ถ้าเริ่มพูดคุยสันติภาพกันใหม่ ก็จะต้องรื้อฟื้นจากจุดที่ยุติการพูดคุยกัน
ร่างข้อตกลงที่เห็นพ้องกันเมื่อเดือนกันยายนระบุว่า สหรัฐจะเริ่มถอนทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถาน แลกเปลี่ยนกับการรับประกันความมั่นคงว่าอัฟกานิสถานจะไม่ถูกใช้เป็นฐานที่พวกนักรบใช้โจมตีสหรัฐและชาติพันธมิตรของสหรัฐ
แม้สงครามรุกรานอัฟกานิสถานโดยกองทัพสหรัฐและพันธมิตรภายหลังอัลกออิดะห์ก่อวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อ 11 กันยายน 2544 จะผ่านพ้นมานาน 18 ปีแล้ว แต่ปัจจุบันสหรัฐยังคงมีกำลังพลในอัฟกานิสถานประมาณ 13,000 นาย และยังมีทหารอีกนับหมื่นนายจากกองกำลังนาโต สงครามที่ยืดเยื้อนี้คร่าชีวิตทหารอเมริกันไปแล้วราว 2,400 นาย
ทรัมป์กล่าวไว้ว่า เขามีแผนจะลดจำนวนทหารลงให้เหลือประมาณ 8,600 นาย แต่ต่อมาเขาเสริมว่าสหรัฐอาจทิ้งทหารไว้ที่นี่มากกว่านั้น โดยเขาไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐย้ำว่าสงครามในอัฟกานิสถานไม่สามารถตัดสินกันบนสนามรบ และสุดท้ายแล้วจะต้องมีการหาทางออกทางการเมืองโดยประชาชนในภูมิภาคนี้เป็นผู้ตัดสิน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |