“ครูตั้น” ลั่นกำลังจะมีการปรับการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ ชี้หากยังช้า เราเองจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง


เพิ่มเพื่อน    

28พ.ย.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ "โครงการสัมมนาผู้นำทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562” ที่จัดโดยบริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านนวัตกรรมทางการศึกษาและออกแบบกระบวนการเรียนรู้ครบวงจร ร่วมกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนหนึ่งว่า ตนมาในฐานะตัวแทนของรัฐบาล เพื่อมาสื่อสารแนวทางที่ประเทศไทยกำลังจะเดินไปข้างหน้าในส่วนการปฏิรูปการศึกษา รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา และตนมายืนยันว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะปลดล็อกการศึกษาของประเทศไทย และต้องปฏิรูปการศึกษาให้ได้ตามความคาดหวังของสังคม ซึ่งเรามีความพยายามดำเนินการมาตลอด ขณะเดียวกันเราจะต้องนำปัญหาการศึกษามาวางให้เห็นภาพ และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมที่จะปลดล็อกทุกเรื่องที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาไม่มีความคล่องตัวให้การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน การเลือกครู การเลือกแบบเรียน และสิ่งที่จะมาเป็นตัวช่วยให้การบริหารงานของสถานศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่ยังอยู่ในแกนกลางของ ศธ. และเราต้องช่วยกันทำ เพื่อให้โรงเรียนมีอิสระภาพในการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารสถานศึกษาหลายคนคงเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่าการบริหารจัดการมีข้อจำกัดในหลายเรื่อง ขณะนี้ ศธ.พร้อมที่จะมีความยืดหยุ่น ตราบใดที่เราร่วมมือ มองและเดินไปในทิศทางเดียวกัน ให้ผลประโยชน์สูงสุดกลับมาอยู่ที่เด็กและเยาวชนของประเทศไทย เพราะตอนนี้ ศธ.กำลังมีการปรับใหญ่เพื่อให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว หากเรายังช้าไม่มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนการศึกษาไทย เราเองจะโดนทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนั้นการเรียนการสอนของเราจะต้องเปลี่ยนไปให้ทันต่อโลกในปัจจุบัน การท่องจำยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมี ตนเชื่อว่าเด็กทุกคนต้องจำ แต่จำแล้วความสามารถนำมาใช้ในการคิดวิเคราะห์ คือ เรื่องสำคัญกว่าการจำ ฉะนั้นวิธีการสอนก็จะต้องเปลี่ยนไป ความเข้าใจเรื่องการประเมิน วิเคราะห์สมรรถภาพของเด็กแต่ละคนก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะเด็กมีความแตกต่างกัน ซึ่งครูจะต้องมีความสามารถจัดองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละบุคคลด้วย นอกจากนี้เรายังต้องการประเมินที่เป็นระบบและมีความสม่ำเสมอ สำหรับทุกคนที่อยู่ในวงการศึกษา และต้องเป็นระบบที่เรามั่นใจว่าเป็นระบบที่มีความเหมาะสมที่สุด ไม่มีข้อกังวล ข้อครหา และนำพาผู้ที่มีความสามารถสูงสุดขึ้นมาสู่การบริหารการศึกษาของประเทศไทย

“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราได้กลับมาดูในเรื่องการให้โรงเรียนมีความเป็นนิติบุคคล จริงๆว่ากฎหมายมีอยู่แล้ว แต่ยังคงมีระเบียบต่างๆ ที่ครอบคลุมอยู่ เป็นเรื่องที่เราจะนำมาใช้อย่างกว้างขวางทำให้ผู้บริหารโรงเรียนรู้สึกว่าความยืดหยุ่นมีจริง และจะต้องมีความเข้าใจถึงความรับผิดชอบ และไม่นำสิทธิที่ได้รับไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งหากมีการนำไปใช้ผิดวิธี ศธ.ก็จะต้องเข้าไปช่วยดูแล”รมว.ศธ.กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"