29พ.ย.62- เมื่อเวลา19.00 น. วันที่28พ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ถนนวิทยุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีประกาศและมอบรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards และรางวัล SMEs Excellence Awards 2019
จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลาการทำงานของตน 5 ปี รวมกับ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ตนทำงานอย่างหนัก ในการปกครองประเทศ เพราะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าโลกจะต้องมีปัญหาแน่นอน ที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิตอลที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆซึ่งรวมถึงพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปเน้นความสะดวกสบาย ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามปรับทุกอย่าง โดยมีการแก้กฎหมายกฎระเบียบที่ไม่ได้รับการแก้ไขมากพอสมควร และต้องแก้ไขให้มากกว่านี้อีก
นายกฯ กล่าวชี้แจงถึงความจำเป็นต้องมีทหาร ว่า ทุกวันนี้โลกมีความเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ใช่ 2 ขั้วอำนาจ แต่เป็นหลายขั้วอำนาจ ในปัจจุบันไม่มีสงครามเย็น แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจ ส่วนสงครามทหารมีความจำเป็นตามแนวชายแดน ต้องมีความพร้อมเรื่องความมั่นคง อยู่ตลอดแนวชายแดนมากกว่า 2 หมื่นคน ต้องใช้ชีวิตอยู่กลางดิน ป่า เขา จุดใดไม่มีรั้วต้องใช้ทหารอยู่ประจำฐาน รวมถึงใช้กำลัง พลเรือน ตำรวจ ร่วมในพื้นที่สามจังหวัดชายภาคใต้ นี่คือมิติความมั่นคงเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยในประเทศ ส่วนที่มีคนออกมาต่อต้านไม่อยากให้มีทหาร ให้ไปเรียน ร.ด อย่ามาทะเลาะกันให้ปวดหัว
"ทุกคนต้องเชื่อมั่นว่าประเทศไทยไปได้ ประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์ ใครไม่ดีจริงอยู่ไม่ได้ ผมเชื่ออย่างนั้น ยืนยันไม่อยากให้การทำงานที่ผ่านมาเสียเปล่า ให้ทุกคนช่วยกันคิด ใครที่มีความสามารถมาเป็นผู้นำได้ ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า ผมเก่งอยู่คนเดียว เวลาไปต่างประเทศเขาจะชื่นชมประเทศไทยทุกครั้ง เขาไม่ได้พูดเพราะปากหวานแต่พูดเพราะความจริงใจ ตรงกันข้ามในประเทศเรา มีบางคนตื่นมาก็โพสต์ด่า แต่ผมไม่สนใจ ไม่อ่านข้อความพวกนั้น ระยะหลังผมจึงอารมณ์เสียน้อยลง อย่างไรก็ตามขอฝากทุกคนพูดแต่สิ่งดีๆ ทั้งเรื่องการเมือง หรืออะไรก็ตาม และขอให้ทุกคนให้เกียรติประชาชน เพราะประชาชนเลือกมา อย่าลืมว่าต้องดูแลสังคมไปด้วย อะไรเกิดขึ้นอะไรคือประเทศไทย จะมากล่าวหาว่าผมทำให้ประเทศแย่ลง อยากให้ทุกคนไปทบทวนขณะที่ผมเข้ามาประเทศแย่อย่างไร"
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในห้องนี้ใครจะรักหรือไม่รักตน แต่ขอให้ทุกคนรักประเทศและประชาชน และขอให้ภาคธุรกิจไปดูแลราคาสินค้าเพื่อช่วยประชาชน อย่ามุ่งแต่เอากำไรอย่างเดียว รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนทั้งประเทศ 68 ล้านคน ชีวิตคนเป็นนายกฯ ไม่ได้สบาย ตนเป็นนายกฯจะซื้อของอะไรก็ไม่ได้ ยืนยันเป็นนายกรัฐมนตรีทำเพื่อประเทศและคนไทยทุกคน แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วย ถ้าจะไม่มีใครรักหรือไม่ชอบตน ก็ขออภัยเช่นกัน และขอคนในประเทศไทยอย่าสนใจแต่เรื่องการเมือง ตรงข้ามกับต่างประเทศที่ให้ความสนใจเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นต้องสร้างหลักคิดให้ประชาชนใหม่ จะอยู่แบบเดิมๆไม่ได้
"ปัญหาทางการเมือง ทุกคนต้องรวมหัวกันคิดแบบที่ตนคิด ไม่ว่าจะพรรคไหนเมื่อมาอยู่ร่วมกันก็ต้องทำแบบที่ผมคิด แม้พรรคก็คือพรรค แต่รัฐบาลคือรัฐบาล และนโยบายรัฐบาลที่ทำอยู่ตอนนี้มาจากครม.เท่านั้น ครม.ที่ทุกพรรคต้องทำงานร่วมกัน และทยอยทำแต่ละรื่องออกมา ทำพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ เพราะมีเงินอยู่จำกัด"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |