"ธนิก-สมศักดิ์" สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น ตั้งแต่วันแรก "เพื่อไทย" ใช้มุกเดิม สู้กันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ด้าน "พปชร." โว นโยบาย "รัฐบาลบิ๊กตู่" ทำได้จริง จับต้องได้ 

    เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่อาคารอเนกประสงค์ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-2 ธ.ค. โดยเป็นการรับสมัครวันแรก พบว่า ก่อนเวลา 08.30 น. มีผู้ที่เดินทางมาลงทะเบียนสมัครรับการเลือกตั้งก่อนที่เวลากำหนด 2 คน คือ นายธนิก มาสีพิทักษ์ จากพรรคเพื่อไทย และนายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพลังประชารัฐ โดย กกต.ได้ให้โอกาสในการพูดคุยเพื่อตกลงกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องมีการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ผลปรากฏว่า นายธนิก ได้หมายเลข 1 ขณะที่นายสมศักดิ์ ได้หมายเลข 2 ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีจากเหล่าบรรดากองเชียร์และผู้แทนพรรคการเมืองที่มาร่วมลุ้นจนแน่นเต็มที่
    หลังจากจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเสร็จสิ้น กกต.ได้ให้ผู้สมัครทั้ง 2 คนทำการตรวจสอบเอกสาร ยื่นเอกสาร และการสมัครรับการเลือกตั้งตามระเบียบและขั้นตอนของ กกต. โดยในพื้นที่ของการรับสมัครนั้นไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด จนการสมัครรับการเลือกตั้งเสร็จสิ้นตามขั้นตอน จึงอนุญาตให้ผู้สมัครนั้นมาพบปะกับผู้ที่มาร่วมให้กำลังใจบริเวณด้านหน้าห้องประชุม
    นายอภินันทน์ จันทร์อุปละ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังสิ้นสุดวันรับสมัครรับการเลือกตั้ง จะมีการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ อย่างครบถ้วน และจะสามารถประกาศรับรองการเป็นผู้สมัครและหมายเลขประจำตัวผู้สมัครได้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ธ.ค.
    ผอ.กกต.ขอนแก่นกล่าวว่า ได้กำหนดให้มีพิธีลงนามสัตยาบันในการไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง และการไม่กระทำการใดๆ ที่ผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งในวันที่ 4 ธ.ค. ส่วนในวันที่ 20 ธ.ค. ได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิ์ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยที่นายอิทธิพล บุญประคอง ประธาน กกต. จะเดินทางมาเป็นประธานในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ทั้งยังคงจะลงพื้นที่ตรวจสอบการเตรียมความพร้อม การจัดการเลือกตั้งและบรรยากาศก่อนถึงวันเลือกตั้งในด้านต่างๆ ในภาพรวม และในวันที่ 21 ธ.ค. กกต.เขต 7 จะทำการมอบหีบบัตรและอุปกรณ์เลือกตั้งให้กับทั้ง 217 หน่วยเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 22 ธ.ค.
    โดยนายธนิกกล่าวว่า มีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างมากสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่หาเสียงและทำงานร่วมกันกับประชาชนในเขต อ.หนองเรือ และ อ.มัญจาคีรี มาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย จึงขอทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุด แต่สิ่งที่กังวลคือการต่อสู้กับคู่แข่งที่เป็นพรรครัฐบาล ที่วันนี้พบแล้วถึงกระบวนการการใช้อำนาจที่มิชอบ มีการสแกนประชาชนในพื้นที่ แต่ถึงอย่างไรมั่นใจว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ทำมา และสิ่งที่ตนตั้งใจขออาสาเป็นผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ จะครองใจคนมัญจาคีรีและคนหนองเรือ จนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในวันที่ 22 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
    นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อแนะนำผู้สมัคร และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของพรรคที่ขออาสาเข้ามาทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมทั้งการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคในการหาเสียงครั้งนี้ ยอมรับเรามีเวลาที่จำกัด แต่เราจะงานอย่างหนัก ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทุกคนต้องมาช่วยกันเพื่อให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้อย่างถล่มทลาย
    นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ชัดเจนว่าเป็นการแข่งขันกันเฉพาะประชาธิปไตยกับระบอบเผด็จการ ที่ผ่านมาฝ่ายเผด็จการทำงานมาทุกคนรู้อยู่แก่ใจแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง สภาพความเป็นอยู่นั้นเป็นอย่างไร ปัญหาปากท้องของคนไทยได้รับการแก้ไขหรือไม่ วันนี้จึงเป็นการแข่งขันที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคฝ่ายระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีความพร้อมอย่างมาก และมั่นใจว่าจะสามารถคว้าเก้าอี้ที่นั่ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 7 ขอนแก่นได้สำเร็จ ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนั้นได้มีการหารือกันแล้วว่าจะไม่ส่งผู้สมัครในเขตนี้
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อมาเป็นรัฐบาลกลับไม่ดำเนินการ แล้วสร้างเงื่อนไขเพื่อจะไม่ทำ กลายเป็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลขนาดกลางยังพยายามจะผลักดันนโยบายมากกว่า จึงแปลกใจว่าพรรคพลังประชารัฐไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งถ้ามั่นใจ ช่วยเอาป้ายหาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไปที่เป็นสัญญาประชาคมว่าจะทำนโยบายใดบ้าง มาขึ้นป้ายหาเสียงใหม่อีกรอบ ซึ่งคงไม่กล้า เพราะขนาดจะเอาไปประกอบการอภิปรายในสภา ป้ายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐยังกลายเป็นสิ่งต้องห้าม
    ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า ขอขอบคุณพรรคแกนนำรัฐบาลที่ให้โอกาสตนเองนั้นลงสมัครรับการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งแห่งนี้อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าการที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาในหลายนโยบายนั้น เป็นผลดีต่อประชาชนอย่างแท้จริง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำเสนอผลงานของรัฐบาลและความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตร ที่ได้รับการประกันชดเชยจากภาครัฐที่เหมาะสม แต่จากนี้ไปคือการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
     “สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่นี้ทำได้ จับต้องได้ ไม่มีรัฐบาลใดที่โอนเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรกรตามนโยบายของรัฐได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำได้จริง และวันนี้ที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เดินทางมาให้กำลังใจ เพราะทุกท่านต้องเข้าประชุมสภา ต้องทำหน้าที่ในสภา แต่พรรคคู่ต่อสู้นั้นตกงาน จึงมากันหลายคน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าตกใจ” นายสมศักดิ์กล่าว.