27พ.ย.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมคณะกรรมการองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ประชุมได้หารือถึงการพิมพ์แบบเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายที่ให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในการจัดพิมพ์ ร้อยละ 80 และองค์การค้าของ สกสค. จัดพิมพ์แบบเรียนระดับประถมศึกษาเพียง ร้อยละ 20 ซึ่งองค์การค้าของ สกสค. ขอให้มีการทบทวนการแบ่งส่วนการจัดพิมพ์ดังกล่าว เนื่องจากอาจส่งผลให้องค์การค้าของ สกสค. ไม่มีรายได้และการจ่ายเงินเดือนพนักงาน โดยที่ประชุมได้พิจารณาอย่างรอบด้านถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า มีข้อสรุปว่า จะไม่มีการทบทวนแบ่งสัดส่วนการพิมพ์แบบเรียนกันใหม่ โดยให้ยึดการพิมพ์แบบเดิม  แม้ที่ประชุมอยากให้องค์การค้าฯมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ก็มองว่าแล้วกำลังการผลิต และระบบการจัดส่งหนังสือเรียนขององค์การค้าฯยังไม่สร้างความมั่นใจให้ได้ว่าจะส่งหนังสือถึงมือนักเรียนได้ทันเปิดภาคเรียน
 ส่วนข้อเสนอที่ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มาช่วยเรื่องกระบวนการจัดส่งแบบเรียนให้แก่องค์การค้าของ สกสค.นั้น ที่ประชุมได้มีการหารือเช่นกัน แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดอย่างรอบด้าน รวมถึงคำนวณความเสี่ยงแล้ว ก็ยังยืนยันว่าไม่สามารถทบทวนให้องค์การค้าของ สกสค.พิมพ์แบบเรียนเองทั้งหมดได้ ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าการพิมพ์แบบเรียน คือ ธุรกิจหนึ่งที่สามารถมีการแข่งขันแบบเสรีได้

“สำหรับประเด็นที่ห่วงว่า หากองค์การค้าของ สกสค. ไม่ได้พิมพ์แบบเรียน 100% จะทำให้ขาดรายได้ ซึ่งประเด็นนี้ผมไม่คิดเช่นนั้น เพราะที่ประชุมก็มีคณะทำงานดูภาพรวมการบริหารงานขององค์การค้าของ สกสค. แล้วจึงมีข้อสรุปออกมาแบบนั้น เราก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาองค์การค้าของ สกสค. ให้ดำเนินภารกิจด้านธุรกิจให้ไปต่อได้ แต่เมื่อองค์การค้าของ สกสค.เป็นองค์กรที่ไม่สามารถสร้างรายได้ให้ขึ้นมาได้ อีกทั้งยังมีหนี้สิ้นที่ยังเคลียร์ไม่จบ ผมถามว่ามีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ ที่จะต้องมีการขึ้นเงินเดือนพนักงาน อย่างไรก็ตามไ ม่ต้องกังวลผมได้มอบหมายปฏิบัติหน้าที่ผอ.องค์การค้าของ สกสค.ไปทำการบ้านวางแผน เพื่อหาแนวทางให้องค์การค้าของ สกสค.อยู่รอดต่อไปให้ได้แล้ว เพราะเข้าใจดีว่าองค์การค้าของ สกสค.เป็นองค์กรขนาดใหญ่ยังจำเป็นต้องรักษาไว้” รมว.ศธ. กล่าว