‘ไทด์’ของขึ้น หยุดช่วยเหลือ’กิตติ ดัสกร’


เพิ่มเพื่อน    

 

          ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ประกาศยุติการช่วยเหลือ ปื๊ด-กิตติ ดัสกร อดีตดาวร้าย น้องชายของ ดามพ์ ดัสกร หลังจากที่ได้เคยเข้าไปช่วยเหลือเมื่อครั้งก่อน โดยหนุ่มไทด์เผยกับรายการ เจาะประเด็น ว่า

           “ที่ผมเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ มากจากที่คุณอมตะซึ่งเป็นนักแสดงรุ่นน้องของผมและพี่ปี๊ด กิตติ ได้ยินข่าวว่าพี่กิตติป่วย แล้วกลับมาอยู่บ้านหลังที่เป็นประเด็น คุณอมตะก็เข้าไปดู เห็นสภาพแล้วก็ตกใจว่าทำไม กิตติ ดัสกร ดาวร้ายอันดับต้นๆของประเทศไทยมีสภาพเป็นแบบนี้ เขาก็เลยโทรหาผม บอกว่าสภาพแย่มากเลย ถ้าพี่ไม่ช่วยก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมก็เลยให้ถ่ายรูปส่งมาให้ผมดู เป็นกองขยะเลย เสื้อที่แกใส่ ผมไปหาจากอีกห้องหนึ่งมาให้ใส่เลยนะ เพราะแกใส่แค่แพมเพิสตัวเดียว คิตตี้ก็อยู่ แต่อยู่อีกห้องหนึ่ง แล้วในห้องนั้น แพมเพิสที่เขาใช้แล้ว มีทั้ง อุจจาระ ปัจสาวะ กองเกลื่อนเต็มไปหมด ก็บอกแกว่าผมจะมาช่วยพี่ แต่มันมีอุปสรรค เพราะบ้านหลงนี้มันมีขยะเยอะมากถ้าพี่ป่วยแล้วพี่จะมานอนในสภาพแบบนี้เดี๋ยวสักวันพี่จะต้องติดเชื้อโรค และมีโรคแทรกซ้อนแน่ๆ พี่กิตติก็บอกว่าตามสบายเลย คิดตี้ก็โอเค เพราะไม่ใช่บ้านของเขา เขาบอกว่าเป็นบ้านของคนที่รู้จักคนหนึ่ง แล้วมาขออยู่ ลูกๆก็อยู่ด้วย ที่ผมเจอมี 3 คน ผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน เขาบอกว่ามีอีกคนอยู่หัวหินคนโตสุด

 

 

          เรื่องเงินในบัญชีผมไม่ทราบว่าเขามีอยู่เท่าไหร่ แต่พี่ปื๊ดมาบอกผมว่ามีบัญชีอยู่หนึ่งบัญชีแต่อยู่กับแพทก็คือคิตตี้ภรรยาเขาเนี่ยนะครับ ก็ถามว่าเปิดบัญชีที่เปิดเพื่อให้คนอื่นเข้ามาช่วยเหลือยังอยู่ไหม เขาบอกว่ายังอยู่ครบก็เลยขอเช็คหน่อย เขาว่ามีประมาณ 2 แสนกว่าบาท ผมก็ถามย้ำอีกรอบว่ายังอยู่ครบไหม เขาก็บอกว่ายังอยู่ ก็มีคิตตี้มาเบิกค่าใช้จ่ายรายวันต่างๆบ้าง กดที 200 บ้าง 500 บ้าง ผมก็ถามเรื่องเงินอีกกับคิตตี้ว่าขอเช็คเงินได้ไหม พี่ต้องรู้ยอดจำนวนเงินที่คนให้ความช่วยเหลือ เขาก็บอกว่าอยู่ครบก็ขอบัตรเอทีเอ็มดู ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปหักบัตรเอทีเอ็มตอนไหน หักเพื่อไม่ให้มันใช้งานได้ เขาบอกว่าเอาไว้ในกระเป๋าแล้วนั่งทับในรายการเมื่อกี้แล้วบัตรมันหัก ผมก็โอเคไม่เป็นไร เราก็รายงานพี่ปื๊ด

          เราก็อยากจะทราบว่าเหลือเงินเท่าไหร่ เขาบอกว่าเงินก้อนนี้ไม่ใช่ของพี่ปื๊ด เป็นของผู้ชายที่มาหลงรักเขาโอนให้ ที่จับได้เพราะว่าโทรหาธนาคาร ธนาคารบอกว่ามีถอนออกจากธนาคารติดต่อกัน 4 ครั้ง ครั้งละ 2 หมื่น เป็น 8 หมื่น ถ้าหนูเอาเงินพี่ไปใช้ พี่แจ้งตำรวจจับหนูได้เลย เขาขอโทษว่าเองเงินไปใช้หนี้ก็เลยเคลียร์กันได้ หลังจากนั้นผมถามไปทางพี่ดามพ์ว่าข่าวมันออกมาแบบนี้ว่าพี่ไม่มาเยี่ยมน้องชายเลย มันเพราะอะไร เขาบอกว่าน้องชายแท้ๆ เขาอยากมาเยี่ยมมาก แต่ติดที่ว่าภรรยาคนนี้เขาไม่อยากมาเจอ ถ้าเกิดว่าคิตตี้ไม่อยู่เขาจะมาเยี่ยมน้องชายเขา แต่คิตตี้กลับบอกพี่ปื๊ดว่า นอนอยู่โรงพยาบาลในห้องอนาถาพี่ดามพ์ก็เลยไม่อยากมาดู มันคนละเรื่องกันเลย ทีนี้ก็เลยตัดสินใจว่า ถ้าพี่ปื๊ดยังได้รับความช่วยเหลือ ต้องเลิกยุ่งกับภรรยาคนนี้ พี่ปื๊ดก็รับปากผมนะ

 

 

          ที่เราประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพี่ปื๊ด เพราะเดี๋ยวเขาจะแจ้งความจับอมตะ ข้อหาขโมยของ ซึ่งมันเป็นสร้อยสแตนเลส เส้นหนึ่งไม่กี่ร้อย แล้วมันมีหลายเส้นที่หายไป ผมบอกว่าถ้าจะแจ้งความจับอมตะ ก็ต้องแจ้งจับผมด้วย เพราะผมอยู่ด้วย ถ้าเขาจะกลับไปอยู่กับคิตตี้ ผมไม่ได้ห้าม แต่อยากให้พี่ห้ามปราม ภรรยาของพี่ว่าอย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน อย่าไปใส่ร้ายคนอื่นในทางที่ไม่ดี เขาชอบใส่ร้ายคนอื่น ก่อนหน้านี้เขาก็เคยร้องห่มร้องไห้มาทีนึง ไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัยไหม ผมคิดว่าถ้าพี่ปื๊ดยังเข้าไปอยู่ในวังวนของคิตตี้ ไม่รู้ว่าจะอยู่นานแค่ไหน สุดท้ายยังไงก็ต้องวังวนเดิม ถ้าเงินบริจาคหมด ผมคิดว่าแบบนี้ ถ้าพี่เขาไม่ได้กลับมาผมก็คิดว่าน่าจะกลับไปอยู่ในสภาพที่ผมเจอเขาครั้งแรกนั่นแหละ ยังไงผมก็ต้องช่วยเขาอยู่ดี”

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"