ปปป.เรียก "เปรมชัย-คนขับรถ" แจ้งข้อหาร่วมกันติดสินบนเจ้าหน้าที่ 19 มี.ค.นี้ ชี้พฤติกรรม "ยงค์ โดดเครือ" พยายามพูดส่งเสริมให้มีการปล่อยตัวเจ้าสัวและรับสินบนเป็นอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานของ จนท.ส่อรอดคดีครอบครองงาช้างแอฟริกา ระบุไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.งาช้าง แต่ต้องตกเป็นของแผ่นดิน
    ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) วันที่ 15 มีนาคม พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พบว่าต้องมีการออกหมายเรียกบุคคล 2 รายเพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันติดสินบนเจ้าหน้าที่" คือ นายยงค์ โดดเครือ ซึ่งเป็นคนขับรถของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และนายเปรมชัย เพื่อแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา หลังถูกแจ้งข้อหา "ติดสินบนเจ้าหน้าที่" ไปก่อนหน้านี้
    "สำหรับพฤติการณ์ของนายยงค์คือ การพยายามพูดส่งเสริมให้มีการปล่อยตัวนายเปรมชัยและรับสินบน มีการเสนอสิ่งของเป็นอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน โดยมีการออกหมายเรียกให้ทั้ง 2 คนมาพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ บก.ปปป." พล.ต.ต.กมลกล่าว
    ด้านนายสมชาย ณ นครพนม นักโบราณคดี กรมศิลปากร เปิดเผยถึงกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต ครอบครองปืนคาบศิลา ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นปืนสมัยรัชกาลที่ 5 อาจเข้าข่ายความผิดฐานครอบครองโบราณวัตถุ แต่ปืนประเภทนี้ยังไม่ได้ประกาศเป็นโบราณวัตถุที่ห้ามเคลื่อนย้าย ประชาชนจึงมีไว้ในครอบครองได้ แต่หากไม่มีหลักฐานแสดงที่มาก็ต้องตกเป็นของแผ่นดินทันที
      นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า (ชุดเหยี่ยวดง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงการครอบครองงาช้างแอฟริกาของนายเปรมชัยว่า ไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.งาช้าง เพราะกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้แจ้งเฉพาะงาช้างที่เป็นสัตว์พาหนะตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น ซึ่งไม่ครอบคลุมงาช้างแอฟริกา ดังนั้นจึงเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเท่านั้น.