ทำท่าจะกลายเป็นหนังเรื่องยาว เรื่องราวความบาดหมาง-ขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อคนถือธงนำพรรคคนปัจจุบัน

        หญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์!!!!

        เรื่องราวคนไม่เอาหน่อยในพรรคเพื่อไทย จากเดิมมีเพียงเสียงพูดคุยกันตามวงสนทนาของบรรดาสมาชิกพรรคผู้รู้สึกอึดอัด เริ่มขยับบรรยายสรรพคุณไปสู่วงกว้างขึ้น ลามไปถึงหู นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร ผู้กุมบังเหียนในพรรคตัวจริง ที่เจ้าตัวยังออกมาบอกต่ออดีต ส.ส.ที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนเองว่า

        ‘เรื่องหน่อย (สุดารัตน์) มีคนเอามาเล่าให้ฟังเยอะ’

        กลุ่มที่อึดอัดก่อตัว มีตั้งแต่ระดับแกนนำคนใกล้ชิดนายใหญ่ อดีต ส.ส. สมาชิกพรรคคณะทำงาน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าออกตัวแรงชนิดเปิดหน้า เหตุเกรงใจทั้งนายใหญ่ที่เป็นผู้เลือกมากับมือ และความเป็นพรรค ที่อาจสะเทือนแรง ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ หากมีการแบ่งฝ่ายเปิดหน้ารบกันผ่านสื่อ

        ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 

        ไม่กี่วันก่อน ปาล์ม-พชร นริพทะพันธุ์ บุตรชาย เสี่ยแดง-พิชัย นริพทะพันธุ์ อีกหนึ่งแกนนำพรรค ออกมาเปิดศึกถล่มเจ๊ไม่มีชิ้นดี ด้วยเรื่องการไม่ให้ความสำคัญต่อแนวคิดคนรุ่นใหม่ แถมยังลากไปถึงแนวคิด วิธีการทำงาน ยกเอาศาสนามาบังหน้าหาประโยชน์เข้าตัว

        ยังไม่ทันข้ามวัน "องครักษ์พิทักษ์หน่อย" เรียงหน้าออกมาโต้กันแทบจะทันควัน สุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. ไชยา พรหมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู ชวลิต วิชยสุทธ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินหน้าแจกแจงคุณงามความดี ตั้งแต่โครงการที่ "ออเจ๊" ริเริ่มผลักดันให้คนรุ่นใหม่มามีส่วนร่วม ไปจนถึงยกเป็นผู้เสียสละที่เหมาะสม ในการขันอาสามารับหน้าที่ช่วงการเมืองไม่ปกติเช่นนี้

        ล่าสุด โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ทักษิณ ชินวัตร ออกมาโดดร่วมวง ผ่านเนื้อหาทางเฟซบุ๊ก แม้ถ้อยคำจะพาดพิงไปถึง "พชร" เป็นส่วนใหญ่ 

        -คิดจะแจ้งเกิดแบบผิดๆ อาจกลายเป็นแจ้งดับได้ คิดกันให้ดีนะครับ

        -แทนที่จะผนึกกำลังกัน กลับใช้ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หาเรื่องมาทะเลาะเบาะแว้ง แก่งแย่งชิงดี

        -เล่นใช้วิธีปั่นกระแสแบบนักเลงคีย์บอร์ดโบราณ

        -ถ้าพรรคการเมืองที่อยู่ข้างประชาชนคนรักประชาธิปไตยไม่เป็นพันธมิตรกัน มัวแต่แก่งแย่งชิงคะแนน และคิดกันได้แค่นี้ ไม่มีทางที่จะชนะพรรคเผด็จการฯ ได้พูดเลย

        ถ้อยคำผ่านคีย์บอร์ด ลูกโอ๊ค สรุปประเด็นชัดพร้อมกับยอมรับ ในพรรคนั้นเกิดความบาดหมางจริง ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการแก่งแย่งชิงคะแนน ก่อนสรุปตบท้าย การทะเลาะเยี่ยงนี้คงไม่มีทางชนะเผด็จการได้ พร้อมกับเรียกร้องให้ทำตามแนวทาง วัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรค ในการให้ "ผู้น้อย" ขอโทษ "ผู้ใหญ่" เพื่อรักษาบรรยากาศภายในพรรคให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นต่อไป

        ในฐานะลูกชายนายใหญ่ออกมาแตะเบรก ไม่ให้พรรคเป็นตัวตลกจากสายตาคนข้างนอกที่เตรียมนำประเด็นไปขยายต่อหวังผลทางการเมือง

        เรื่องราวของ ออเจ๊ ยังไม่รู้บทสรุปสุดท้ายจะเป็นผู้ถือธงนำพรรค ไปจนถึงเพื่อไทยเข้าสู่สนามเลือกตั้งหรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถามที่ไม่เพียงคนภายนอกอยากรับรู้ แต่คนในเองก็อยากรู้เช่นกัน เนื่องด้วยการเลือกตั้งหากเป็นไปตามคำพูด บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกชัดจะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2562 มองในมุมนักยุทธศาสตร์อาจเกิดโรคเลื่อนอีก มองให้นานก็นาน คิดแบบคนเตรียมพร้อม คงเหลือเวลาอีกไม่มากนัก

        อย่างไรก็ดี แนวทางแก้ไขความขัดแย้ง สมาชิกพรรคบางรายจุดประกายไอเดียใหม่น่าขบคิด

        ในเมื่อพรรคเพื่อไทยยึดมั่นประชาธิปไตย เคารพเสียงข้างมาก หากได้รับการผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมการเมือง เหตุใดจึงไม่เปิดโอกาสให้อดีต ส.ส.พรรค แกนนำพรรค เข้าคูหาแล้วนับคะแนนกันอย่างโปร่งใสไปเลย โดยมีเพียง 2 ชอยส์ ให้โหวต รับ-ไม่รับ ผ่านคำถาม สมาชิกยังเห็นชอบต่อบทบาทการทำงาน ผู้ทำหน้าที่ถือธงให้พรรคคนปัจจุบันหรือไม่

        ผลคะแนนออกมาเช่นไร ให้ถือเป็นอันยุติ จับ 2 ฝ่ายที่เป็นประเด็น ก่อนโหวตให้มีการทำสัญญาใจ มีสักขีพยานระดับคนในพรรคให้ความเกรงใจ และไม่ว่าผลโหวตจะออกมาอย่างไร เป็นอันยุติ

        คนชนะคุมกลเกม คนแพ้ก้มหน้าก้มตาทำงานเพื่อพรรคต่อไป จะได้รู้เสียทีว่า คนในพรรคคิดกันอย่างไร ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยแบบฉบับเพื่อไทย 

        อย่างไรก็ดี แม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงเสียงสะท้อนจากคนเล็กๆ ในพรรค แต่ก็ถือว่าเป็น ข้อเสนอที่น่าสนใจยิ่ง ในการหาข้อยุติ หาทางออกแบบอารยะ

        การเคลื่อนไหวกดดัน "ออเจ๊" รอบนี้ ก็มีการใช้กำลังภายในทั้ง 2 ฝ่าย เชือดเฉือน ขับเคลื่อน แม้เกมครั้งนี้ แลเหมือน "ออเจ๊" จะกำชัย เพียงเพราะอีกฝ่ายเดินเกมพลาด แต่วันข้างหน้าก็ไม่มีอะไรรับประกัน เมื่อจังหวะเปิดจะไม่มีการเปิดฉากประลองกำลังเกิดขึ้นอีก.