จีนกับอเมริกาทำท่าจะขยับใกล้เข้าสู่การประกาศข้อตกลงสงบศึกสงครามการค้า "เฟส 1" ได้ในเร็ววัน
แต่อย่าเพิ่งเปิดขวดแชมเปญฉลองความสำเร็จนะครับ เพราะดูจากลีลาของทั้งสองยักษ์แล้ว อะไรๆ ที่คาดไม่ถึงก็ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
เพราะตอนนี้สหรัฐฯ กับจีนมีเรื่องเผชิญหน้ากันมากมายหลายด้านที่เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆ กัน นอกจากเรื่องขึ้นภาษีสินค้าของกันและกันอย่างต่อเนื่องแล้ว
ก็ยังมีประเด็นความขัดแย้งเรื่องฮ่องกงแทรกเข้ามาเป็นยาดำหม้อใหญ่
เพราะสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ออกกฎหมาย "สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง" เพื่อกดดันจีนให้ยอมรับเงื่อนไขข้อเรียกร้องของฝ่ายผู้ประท้วง
จีนโต้ทันควันว่า "เมินเสียเถอะ"
จุดยืนของจีนชัดเจนว่าเรื่องการค้าต่อรองกันได้ แต่เรื่องอธิปไตยและ "นโยบายจีนเดียว" เป็นประเด็นที่ปักกิ่งถอยไม่ได้เป็นอันขาด
นอกจากสองกรณีนี้แล้ว ล่าสุดสหรัฐฯ ก็ส่งเรือรบสองลำเข้าไปลาดตระเวนในน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ
อเมริกาบอกว่าเป็นสิทธิของกองทัพเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ที่จะลาดตระเวนใน "ทะเลหลวง"
เพราะนี่เป็นเรื่อง freedom of navigation หรือ "เสรีภาพแห่งการเดินเรือ" ของทุกประเทศ
จีนออกแถลงการณ์ว่าอเมริกาทำอย่างนี้เท่ากับเป็นการยั่วยุและละเมิดอธิปไตยของจีน
ต่างฝ่ายต่างแสดงอิทธิฤทธิ์ของตนเพื่อยืนยันความเป็นผู้ยิ่งใหญ่
ทำให้การต่อรองเรื่องยุติสงครามการค้ายากเย็นยิ่งขึ้น
แต่หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ที่ฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐฯ และจีนกำลังทำการเจรจาเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสที่หนึ่ง
เส้นตายที่สำคัญคือวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพราะเป็นวันที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์
แต่นักวิเคราะห์บางสำนักเชื่อว่า แม้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีชุดนี้ออกไป
เหตุก็เพราะทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้บริโภคของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่จะพุ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงสมาร์ตโฟนทั้งหลายถ้ามีการเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้นตามที่ขู่เอาไว้
เพราะนี่เป็นจังหวะใกล้กับช่วงเทศกาลช็อปปิ้งของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันสื่อสหรัฐฯ ก็ออกข่าวว่าจีนได้เชิญอเมริกาเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงปักกิ่ง
ข่าวนี้มาจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่บอกว่านายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน มือขวาด้านเศรษฐกิจของสี จิ้นผิง ได้เชิญนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) มาพูดจารอบตัดสินกันรอบใหม่ที่เมืองหลวงของจีนก่อนเส้นตายวันที่ 15 ธันวาคมนี้
ว่ากันว่านายหลิวได้เชิญระดับนำของทรัมป์สองคนทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในจังหวะร้อน ๆ ที่สภาคองเกรสอเมริกันกำลังผ่านกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง
ทรัมป์ยังต้องลงนามในกฎหมายนี้ก่อนจะมีผลบังคับใช้
แต่ทรัมป์ก็คุยว่าหากไม่ใช่เพราะเขาเบรกเอาไว้ ป่านนี้อาจจะมีคนตายเป็นพันๆ คนแล้วก็ได้
มิหนำซ้ำทรัมป์ยังอ้างว่าถ้าไม่ใช่เขา จีนอาจจะส่งทหารเข้ามาปราบผู้ประท้วงให้ราบคาบ "ภายใน 14 นาที" แล้วก็ได้
วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐฯ แจ้งว่าพร้อมจะไปพบปะหารือกับฝ่ายจีนเพื่อเจรจาการค้ารอบใหม่
อีกสัญญาณหนึ่งมาจากนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่าทางการจีนมีความยินดีในการร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันและบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกโดยเร็ว
ฟังน้ำเสียงของสี จิ้นผิงล่าสุด ก็พยายามจะวาดภาพทางบวกสำหรับการเจรจาการค้ารอบใหม่ แม้ว่าลึกๆ แล้วผู้นำจีนก็รู้ว่าทรัมป์อาจจะไม่สามารถควบคุมสภาคองเกรสเพื่อไม่ให้เดินหน้าแสดงท่าทีต่อต้านจีนปักกิ่งกรณีฮ่องกงได้
แต่จีนก็เก๋าเกมพอที่จะรู้ว่างานนี้ต้องพร้อมจะปรับกลยุทธ์ในทุกกระบวนท่า
เพราะไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการเมืองและการค้าระหว่างประเทศในยุค "ป่วน" (disruption) ที่กระทบทุกภาคส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างสองยักษ์ใหญ่จริงๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |