24 พ.ย.62-  นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการสอบสวนวินัยของนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ ล่าช้า เนื่องจากนายวัชระไม่ได้ไปให้ข้อเท็จจริง ว่า เป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนอย่างยิ่ง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง เพราะความจริงได้ไปให้การกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภาเป็นประธาน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2562 เวลา 10.15 น.ที่อาคารสุขประพฤติ ตรงกำหนดระยะเวลาตามหนังสือที่คณะกรรมการได้นัดไว้ โดยมีพยานคือนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เป็นพยานและเป็นผู้ให้การกล่าวโทษนายสรศักดิ์เพิ่มเติมอีกด้วย

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ในวันนั้นยังได้ยืนยันความผิดของนายสรศักดิ์ พร้อมส่งพยานเอกสารการคุกคามทางเพศของนายสรศักดิ์ ที่กระทำต่อข้าราชการสุภาพสตรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสรศักดิ์เพิ่มเติมต่อนายนัฑ รวมทั้งคัดค้านกรรมการสืบสวนอย่างมีเหตุผลและเอกสารของทางราชการรองรับว่ากรรมการทุกคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับนายสรศักดิ์และได้ส่งพยานหลักฐานเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อกรรมการแต่ละคน ตั้งแต่นายนัฑว่าเกี่ยวพันกับนายสรศักดิ์อย่างไรโดยให้เอกสารกับมือของกรรมการทุกคนเป็นรายบุคคลครบทั้งคณะอีกด้วย

นายวัชระ ระบุว่า ตนเองมีพยาน2คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การในประเด็นของการคุกคามทางเพศครบทุกถ้อยกระบวนความที่ให้กรรมการได้เห็นจนสามารถชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของก.ร.ได้ทันที และได้ขอให้ทบทวนคณะกรรมการชุดนี้เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมดังเหตุผลที่กล่าวมา ซึ่งบัดนี้ได้ครบกำหนดเวลา 15 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ 

นายวัชระ กล่าวทิ้งท้ายว่า พวกเขากล้าแม้กระทั่งรายงานเท็จต่อนายชวน หลีกภัย ที่เป็นถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆสำหรับข้าราชการบางคนในยุคสมัยนี้ ทั้งนี้ นายวัชระได้แสดงรูปภาพขณะไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการด้วย.