อยู่ไม่เป็นจริงๆ


เพิ่มเพื่อน    

 

กลุ่มคนที่พยายามอธิบายว่าพวกเขาอยู่ไม่เป็นหมายความว่าพวกเขาไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจของ คสช. ทำให้ผู้มีอำนาจกลัวพวกเขา จนต้องใช้ปาฏิหาริย์ของกฎหมายมาจัดการกับพวกเขา จนทำให้พวกเขาต้องเจอคดีหลายคดี ทั้งๆ ที่ทุกคดีที่เขาโดนนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการใช้อำนาจของ คสช.แต่อย่างใดเลย หลายคดีที่เขาโดนนั้นเกิดจากการค้นเจอของสื่อมวลชน หลายคดีก็เกิดจากการพูดเปิดเผยของตัวเขาเอง หลายอย่างเกิดจากมีคนเห็นว่าเขาทำผิดกฎหมาย จึงไปยื่นคำร้องกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาการกระทำของพวกเขา และถ้าหากพวกเขาจะถูกตัดสินให้มีความผิด ก็เป็นเพราะเขาทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์ของกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ก่อนหน้าที่จะมีการตัดสินให้หัวหน้าพรรคพ้นจากการเป็น ส.ส.นั้น ก็มีคดีที่ศาลได้ยกฟ้องพวกเขาไปแล้ว โดยพิจารณาว่าการกระทำของพวกเขาไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาทใคร เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองเหมือนอย่างที่หลายคนเขาทำกัน เมื่อศาลยกฟ้องพวกเขา ก็ไม่เห็นจะออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับการทำงานของศาล ไม่เห็นจะออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นปาฏิหาริย์ของกฎหมายแต่อย่างใด แต่พอมาครั้งนี้ เมื่อศาลตัดสินให้มีความผิดจริง คือเป็นคนที่ถือหุ้นสื่อที่ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ แต่ก็ยังมาสมัคร กลับออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิศาล ไม่คิดว่าการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นการหมิ่นศาลได้นะ เรื่องนี้ไม่รู้ หรือว่าจริงๆ แล้วรู้ แต่คิดว่าตัวเองมีดี และอยากจะลองดี จึงทำสิ่งที่ท้าทายกฎหมาย แล้วเมื่อมีความผิดตามบทบัญญัติของกฎหมายก็จะออกมาตะโกนบอกสาวกว่าตนเองโดนกลั่นแกล้งจากผู้มีอำนาจ ที่กลัวว่าเขาจะทำการเปลี่ยนแปลงประเทศได้สำเร็จ การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาล ณ บริเวณด้านหน้าที่ออกมาจากศาลนี่ล่ะที่อาจจะสรุปได้ว่าอยู่ไม่เป็นจริงๆ หรืออาจจะบอกว่า อยู่ไม่สุขด้วยก็ได้ และในที่สุดก็อยู่ไม่ได้ คืออยู่เป็น ส.ส.ในสภาไม่ได้

ในขณะที่พวกเขาอธิบายความหมายว่าการอยู่ไม่เป็นของเขาคือการไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจของทหารที่พวกเขามองว่าเป็นเผด็จการ เขาเรียนรู้ที่จะปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าไม่ถูกต้อง เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้มีอำนาจในปัจจุบันไม่ได้สืบทอดอำนาจเผด็จการ นายกรัฐมนตรีก็มาจากการลงคะแนนเสียงของ ส.ส.ในสภา แม้ว่าจะการลงคะแนนของ ส.ว. แต่หากจะนับแต่เพียงจำนวนของ ส.ส.ก็มีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นต้องถือได้ว่ารัฐบาลนี้มาตามครรลองของประชาธิปไตยตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติมาแล้ว และทุกคดีที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่เวลานี้ไม่ใช่ คสช.หรือรัฐบาลเป็นผู้ร้อง และไม่ใช่รัฐบาลเป็นผู้ตัดสิน ผู้ร้องคือประชาชนที่เคารพกฎหมายและต้องการเห็นคนทำผิดกฎหมายถูกลงโทษ ผู้ตัดสินก็คือองค์กรอิสระที่พิจารณาคำร้องแต่ละเรื่องตามตัวบทกฎหมาย และพิจารณาคดีตามหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ตัดสินคดีด้วยการสันนิษฐานอย่างที่เขาพยายามกล่าวหา เขาไม่ยอมพิจารณาตัวเองว่าเขาให้การมีข้อพิรุธมากมายเกินกว่าที่จะให้คนที่ได้ยินได้ฟังเชื่อถือคำให้การของเขา

เราลองมาไล่เรียงการอยู่ไม่เป็นของเขาในคดีที่ทำให้เขาต้องหลุดจากการเป็น ส.ส. ตามช่วงเวลาที่เกิดขึ้น จนนำมาสู่การพิพากษาให้เขาต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. และไม่สามารถเข้าสภาได้ ทั้งๆ ที่มีชื่อเป็นเบอร์หนึ่งของบัญชีรายชื่อ เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ไม่เป็นจริงๆ ทั้งการทำผิดกฎหมาย และการขาดความรอบคอบในการพูดและการกระทำ จนไม่อยากจะเชื่อว่าเขามีดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมายอยู่ใกล้ชิด ถ้าเป็นถึงอาจารย์กฎหมายที่มีปริญญาเอก น่าที่จะให้คำแนะนำการปฏิบัติที่เป็นไปตามกฎหมายได้

ทำไมก่อนไปสมัครลงรับเลือกตั้งไม่โอนหุ้นสื่อที่ตนเองถือไว้ให้เรียบร้อย

ทำไมต้องบอกว่าโอนวันที่ 8 มกราคม ซึ่งตนเองอยู่บุรีรัมย์มีเวลาถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์

ทำไมต้องเร่งรัดรีบกลับมาจากบุรีรัมย์วันที่ 8 มกราคม

ทำไมไม่กลับเครื่องบิน เพราะน่าจะเร็วกว่ากลับทางรถยนต์ การบอกว่ารถขับเร็วมากจนได้ใบสั่ง 3 ใบไม่ได้ยืนยันว่าอยู่ในรถคันนั้น ถ้าหากอยู่ในรถคันนั้นจริง ก็ยืนยันได้แต่เพียงว่ามากรุงเทพฯ แต่ไม่ยืนยันการโอนหุ้น ถ้าหากบริษัทไม่ได้ทำธุรกิจสื่อแล้วจะต้องรีบมาโอน

ทำไมไม่โอนก็ได้ ถ้าไม่ได้ทำธุรกิจสื่อแล้ว

ทำไมไม่จดทะเบียนเลิกกิจการภายใน 30 วันเมื่อปิดกิจการแล้วจะโอนหุ้นกันไปมาระหว่างแม่ ลูก และหลาน

ทำไมการโอนหุ้นกันเองภายในครอบครัว จะเอามาเป็นหลักฐานว่าโอนหุ้นแล้วได้หรือโอนให้แม่ โดยแม่จ่ายเงินให้ แล้วธุรกรรมแม่กับหลาน ถึงการจ่ายเงินหรือไม่

ทำไมมีการโอนหุ้นกันไปมาในสมาชิกครอบครัวเมื่อกำลังจะปิดกิจการ

ทำไมเช็คมูลค่า 6 ล้านกว่าจึงเก็บไว้นานมาก ไม่รีบเอาเข้าบัญชีเหมือนที่เคยทำมาเมื่อโอนหุ้นตั้งแต่มกราคม

ทำไมเพิ่งมารายงานกระทรวงพาณิชย์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็เคยรายงานแบบออนไลน์

ทำไมคราวนี้ถึงไม่ทำเหมือนที่เคยทำมา ทำหลักฐานนำส่งให้ศาลตั้งหลายลัง น่าจะรู้เนื้อหาในเอกสารดี เพราะเป็นเรื่องสำคัญศาลให้โอกาสชี้แจง

ทำไมถึงตอบแต่ว่าจำอะไรไม่ได้

ทำไมจึงกล้ายกย้อนกับศาลในการตอบคำถามของศาล

              ทำไมถึงกล้าต่อรองกับศาลว่าถ้าตัดสินให้เป็นคุณแก่ตัวเขาแล้วจะไปทำ Blindtrust เมื่อศาลตัดสินแล้วทำไมจึงกล้าวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินของศาลในพื้นที่ศาล กล้ากล่าวหาว่าศาลตัดสินด้วยการสันนิษฐาน ไม่ใช้หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์

แบบนี้กระมังที่เขาเรียกว่าอยู่ไม่เป็น และอยู่ไม่สุขด้วย อยู่ดีๆ ก็มีการกระทำที่ท้าทายกฎหมาย แบบนี้จึงไม่ได้อยู่และระวังจะอยู่ไม่ได้นะจะบอกให้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"