ผ้าไหมไทยเป็นมรดกทางหัตถศิลป์และภูมิปัญญาของไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงส่งเสริมและอนุรักษ์   ซึ่งในเมืองไทยยังมีผ้าไหมที่หลากหลายลายและรูปแบบ อาทิ ผ้าจก ผ้ายก ผ้าแพรวา ผ้ามัดหมี่ ผ้าไหมเกาะ ผ้าไหมพื้น   ในทุกๆแบบล้วนมีความงามของเส้นไหม ลวดลาย  ตลอดจนกระบวนการทำ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงไหม การสาวไหม การทอ ฯลฯ สู่การออกแบบดีไซน์ที่ไม่ใช่แค่ดีไซน์เนอร์คนไทยเท่านั้น แต่ผ้าไหมไทยยังได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ต่างชาติอีกด้วย
    มูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยว  ร่วมกับคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศระจำประเทศไทย คณะคู่สมรสเอกอัครราชทูตและสถานทูตต่างๆ ประจำประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมหม่อนไหม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 9 ( 9th Celebration of Silk, Thai Silk Road To The World )  อย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสานพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ซึ่งทรงส่งเสริมวัฒนธรรมในการแต่งกายโดยใช้ผ้าไหมไทย   แสดงถึงความสวยงามและการประยุกต์การใช้ผ้าไหมไทยร่วมกับวัฒนธรรมนานาประเทศและเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยผ่านเส้นทางการทูตไปยังทั่วโลก  
    ในปีนี้มีสถานทูตเข้าร่วม 70 ประเทศ  ดีไซน์เนอร์ชั้นนำนานาชาติที่คัดเลือกมาจากสถานทูตที่เข้าร่วมโครงการฯ มากกว่า 60 ท่าน ภายในงานจะประกอบด้วย กาล่าแฟชั่นโชว์ ซึ่งเป็นงานแสดงแบบแฟชั่นโชว์ของดีไซเนอร์ชั้นนำจาก 70 ประเทศ โดยใช้ผ้าไหมจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ณ หอประชุมกองทัพเรือ 
     ภายในงานยังมีการประกวด The Next Big Designer Contest ครั้งที่ 1 ให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศร่วมออกแบบตัดเย็บชุดเสื้อผ้าร่วมสมัยโดยใช้ผ้าไหมไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่จะมีการประกาศผลผู้ชนะในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนด้วย

    วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเผยแพร่ผ้าไหมไทยครั้งนี้ ได้นำผ้าไหมของศูนย์ส่งเสริมศิลปะชีพฯ มาให้ทางสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยต่างๆเลือกผ้า  ลายและสีที่ชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย และนำไปให้ดีไซน์เนอร์ของแต่ละประเทศออกแบบเอง   ซึ่งแต่ละชุดที่ออกแบบมา มีการผสมผสานอย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ผ่านผ้าไหมของไทย ที่จะสวมใส่ โดยเอกอัครราชทูตมากถึง 35 ท่าน และเดินแฟชั่นโชว์ในงาน โชว์ความสวยงามของผ้าไหมไทยที่สวมใส่โดยชาวต่างชาติ นอกจากนี้ผ้าไหมไทยยังเป็นการเชื่อมโยงทางด้านวัฒนธรรมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ของไทยได้รับความรู้จากดีไซน์เนอร์ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้ดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง จิมมี่ ชู และอาจจะได้รับเกียรติจาก แจ็ค หม่า มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
    ด้าน ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม รองประธานคณะจัดงานมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 9 กล่าวเสริมว่า ปีที่แล้วสถานทูตในแต่ละประเทศ ได้ซื้อผ้าไหมกว่า 3,000 หลา แต่ในปีนี้มีการซื้อเพิ่มขึ้น มากถึงกว่า 6,000 หลา ที่สำคัญคือก ระแสของการสวมใส่ผ้าไหมก็เพิ่มมากขึ้น ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติด้วย เป็นส่งเสริมความสวยงามของวัฒนธรรมไทยและผ้าไหมไทยสู่สายตาชาวโลก รวมทั้งส่งเสริมให้ชาวไทยได้ใช้ผ้าไหมไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย  นอกจากนี้  ในการประกวดสำหรับเยาวชนในการดีไซน์ผ้าไหมก็ได้รับความสนใจ เป็นการสะท้อนถึงการรับรู้ของคนรุ่นใหม่ในการสนใจผ้าไหมไทยในทิศทางที่ดี เพราะเยาวชนเป็นส่วนสำคัญในการสืบสานและอนุรักษ์สืบไป

คอลเล็กชั่นเมื่อปีที่แล้ว

    ภายในงานได้มีการจัดแสดงชุดของสถานเอกอัครราชทูตเปรู ประจำประเทศไทย โดยดีไซเนอร์ Carlos Vigil ที่จะนำมาสวมใส่ร่วมงานในปีนี้ นายเซซาร์ เรเกวงโก้ เลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย ได้เล่าว่า ผ้าไหมไทยนับว่ามีหลากหลายแบบ และเป็นผ้าที่มีคุณภาพสูง ในปีนี้ดีไซน์เนอร์จึงได้เลือกผ้าไหมมาออกแบบโดยผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมของเปรูเข้าไป ซึ่งเป็นการออกแบบจากชุดพื้นเมืองชาวแอนดีสของเปรู ที่จะสะท้อนเอกลักษณ์ผ่านการปักลายพื้นเมืองบนพื้นผ้า คือลายดอกไม้ ตรงช่วงกระโปรง ซึ่งเป็นลายมาจากกล่องที่เรียกว่า เรตาโบ้  หรือการทำในส่วนของผ้าคลุมไหล่ที่มีการผสมผสานผ้าทอสไตล์ของชาวพื้นเมืองทางแถบเทือกเขาแอนดีส ที่มีความแข็งและรายละเอียดทั้งด้านหน้าและด้านหลังเข้าไปด้วย พร้อมตกแต่งด้วยเครื่องเงินของเปรูที่ชื่อว่า Tupo ทำให้ดูมีความงดงามมากยิ่งขึ้น

ชุดผ้าไหมจากมาเลเซีย เมื่อปีที่แล้ว
     นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมจากสถานทูตต่างๆในปีที่ผ่านมา อาทิ ญี่ปุ่น ปากีสถาน มองโกเลีย โปแลนด์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา รวมถึงชุดที่ออกแบบโดยที่ไซน์เนอร์ไทย ในหลากหลายสไตล์สวยงาม สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.celebrationofsilk.com   www.thaisilk-fashionweek.com   Facebook: www.facebook.com/celebrationofsilk  และ www.facebook.com/thaisilk fashionweek