ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net คำพูดบ่งบอกถึงตัวตน “มีคนบางคนบอกว่าถ้าคุณทำดีจะมีอายุอยู่ถึง 90 หรือ 100 ปี แต่ผมไม่สนใจอายุขัย ไม่สนใจว่าจะจบสวยหรือไม่ ถ้าผมพูดความจริง ยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องจบชีวิตในคุกในตะรางก็ภูมิใจ ที่ได้สร้างสังคมที่เท่าเทียมส่งต่อให้ลูกหลาน และภูมิใจที่ชีวิตอาจจะจบไม่สวย แต่ไม่เลียบูตทหารแน่ๆ” อดีต ส.ส. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกอย่างอหังการ บนเวทีเสวนาในหัวข้อ “ผู้นำการเมืองกับอนาคตประเทศไทย” ที่สำนักงาน กกต. ก็ไม่แน่ใจว่าใช่เส้นทางไกลที่ทอนพยายามปลุกสาวกสีส้มหรือเปล่า ก็ขอให้จดจำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดี นับจากวันนี้มีอีกหลายคดีคอยอยู่ วิบากกรรมทั้งหลายก็เกิดจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น รวมถึงเรื่องเงินกู้ 191 ล้าน ที่สร้างบ่วงขึ้นมาพันธนาการตัวเองและพรรคอนาคตใหม่ ประเดิมคดีอาญาแรกสัปดาห์หน้า กกต.นัดถกฟันดาบสองกรณีฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 151

                ๐ เลือกตั้งซ่อมขอนแก่น เขต 7 ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.นี้ น่าจะวัดเรตติ้งรัฐบาลกับฝ่ายค้านได้ชัดเจนกว่าเลือกตั้งซ่อมนครปฐม เพียงแต่เที่ยวนี้ฟากฝ่ายค้านยังไม่มีใครออกมาท้าเหยงๆ เหมือนเที่ยวก่อน ที่ผลพลิกล็อกอนาคตใหม่เจ้าของพื้นที่พ่ายยับ ศึกครั้งนี้ เจ้าของพื้นที่เดิมเพื่อไทย "หญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธ์ศาสตร์พรรค ประกาศแล้วว่าจะต้องรักษาที่มั่นไว้ให้ได้ รอแค่เคาะตัวผู้สมัครในวันจันทร์ ระหว่าง ธนิก มาสีพิทักษ์ กับอดิศร เพียงเกษ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล ชัดแล้วว่าพรรคพลังประชารัฐจะส่ง "สมศักดิ์ คุณเงิน" แก้มืออีกครั้ง เที่ยวนี้คงไม่มีพรรคร่วมส่งแข่งตัดเสียงกันเอง ถ้าดูคะแนนเลือกตั้ง 24 มี.ค. บรรดาพรรคร่วมอย่าง ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา เสียงได้แค่หลักร้อยเท่านั้น ส่วนนายสมศักดิ์ที่อยู่อันดับ 2 ได้ 26,553 คะแนน แพ้นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ที่ได้รับเลือกตั้ง 29,710 คะแนน ไปเพียง 3,157 คะแนนเท่านั้น  งานนี้ "เอกราช ช่างเหลา" ประธานยุทธศาสตร์อีสานตอนบน พรรคพลังประชารัฐ หมายมั่นปั้นมือ ต้องเพิ่มเก้าอี้ ส.ส.ในมือให้ได้ หลังเลือกตั้งคราวก่อนพลาดเป้า ได้เพียงหนึ่งเดียวคือ ลูกชายสุดที่เลิฟ-วัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 เลือกตั้งรอบนี้ดุเดือดแน่ ไม่งั้น "หญิงหน่อย" คงไม่ออกตัวแต่หัววัน ฝาก กกต.ตรวจสอบเรื่องการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินตั้งแต่เนิ่นๆ

                ๐ "ผมได้ตัดสินใจลาออกจากพรรคแล้ว เมื่อ 19 พ.ย. 2562 แต่บนพื้นฐานที่พวกเราเข้าใจกัน ยังรักและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และยังถือว่าเราเป็นพวกเดียวกัน ที่อาจต้องพึ่งพากัน เพื่อประเทศชาติของเรา ผมได้ลาผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของพวกเราด้วย ตามวัฒนธรรม ไปลามาไหว้ของคนไทยเรา ผมตั้งใจแถลงข่าว เหตุผลและเส้นทางต่อไปในอนาคต 23 พ.ย.นี้ครับ ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ" วันก่อนเพิ่งจะสั่งสอน "ทอน" #อยู่ไม่เป็นก็ไม่ต้องอยู่ มาวันนี้ "หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม" ก็โบกมือบ๊ายบายพรรคพระแม่ธรณีฯ ที่อยู่มาประมาณ 15 ปีซะแล้ว ถึงแม้เจ้าตัวบอกจะเผยเส้นทางการเมืองใหม่ในวันเสาร์นี้ แต่ค่อนข้างชัดแล้วว่าโผไปซบพรรคกำนัน โดยหม่อมเต่า-ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยอมรับกลายๆ แถมยังเชื่อว่าจะหอบทีมงานจาก ปชป.ตามมาด้วย ว่าไปแล้วหลังอดีตมือปราบโกงจำนำข้าวสอบตกไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.พิษณุโลก บทบาทก็ดูจะรางเลือนไป ทั้งที่ก่อนเลือกตั้งเกือบได้เป็นหัวหน้าพรรค ถ้าดูตัวเลขไพรมารีโหวตที่แพ้ให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือว่าสูสีทีเดียว สมาชิกพรรคเทให้ 57,689 คะแนน ขณะที่อภิสิทธิ์ ได้ 67,505 คะแนน พอหลังเลือกตั้งเปลี่ยนหัวหน้ามาเป็นจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็ไม่ใช่ว่าหัวหน้าใหม่จะไม่ไยดี ก่อนหน้านี้มอบหมายงานในพรรคให้รับผิดชอบหลายต่อหลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ สุดท้ายก็มาบรรจบที่ รปช.นั่นเอง แว่วมาว่าหมอวรงค์ไม่ได้ไปอยู่กับพรรคกำนันแค่สถานะสมาชิกพรรค แต่มีเก้าอี้หัวหน้าพรรครออยู่ทีเดียว ส่วนหม่อมเต่าก็ยอมหลีกทางให้แต่โดยดี.

 ลี้คิมฮวง