ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของค่ำคืนวันที่ 31 ธ.ค.ทุกๆ ปี ทั่วโลกจะร่วมจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ตามแลนมาร์คสำคัญๆ ของแต่ละเมือง และประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างเดินทางมาในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จับมือกับไอคอนสยาม พร้อมด้วยพันธมิตรทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน และผู้ประกอบการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมพร้อมจะจัดงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ตระการตาระดับโลก “Amazing Thailand Countdown 2020” ซึ่งจัดภายใต้แนวคิด "มหัศจรรย์พร 7 ประการ" ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

(ประดับประดาไฟหน้าไอคอนสยาม)

    นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้กำหนดจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ขึ้นเป็นประจำทุกปีทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง 6 พื้นที่ ประกอบด้วย เชียงราย พัทลุง ลพบุรี กาฬสินธุ์ สระแก้ว และราชบุรี ในส่วนพื้นที่หลักของกรุงเทพมหานคร ททท.ได้ร่วมกับไอคอนสยาม ตลอดจนองค์กรพันธมิตรทุกภาคส่วน สร้างสีสันใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
    ด้านนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครั้งนี้ว่า หนึ่งในปณิธานของไอคอนสยาม คือ การเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมเชิดชูแม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้ออกไปสู่สายตาชาวต่างชาติ เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก และเพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็น Global Countdown Destination เป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ระดับประเทศที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลกซึ่งการเฉลิมฉลองในปีนี้มาภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์พร 7 ประการ” ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ที่ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

    ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งสถานที่สวยงามด้วยไฟประดับประดาสว่างไสวอลังการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมด้วยมหกรรมความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ตลอดค่ำคืน การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมอันวิจิตรงดงามที่ถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า พร้อมจัดเตรียมไฮไลต์การแสดงพลุทำจากข้าวเหนียวไทย นวัตกรรมการสร้างสรรค์พลุแบบรักษ์โลกจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนโค้งน้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 1,400 เมตร คาดว่าจะชมได้ในรัศมี 2 กิโลเมตร
    โดยนอกจากบริเวณจัดงาน ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม ปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่จุดชมพลุ บนชั้น 7 ไอคอนสยามด้วย และยังสามารถรับชมการแสดงพลุได้ที่จุดรับชมต่างๆ ได้แก่ สวนเฉลิมพระเกียรติ, ท่าเรือสาทร, ท่าเรือวัดสุวรรณ, สถานีตำรวจน้ำ 2, CAT บางรัก, ท่าเรือคลองสาน, โบสถ์กาลหว่าร์ (Holy Rosary Church), ลานจอดรถสำเพ็ง รวมถึงสถานที่พันธมิตรผู้ร่วมจัดงาน อาทิ ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง, ล้ง 1919, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ, โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ, โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เป็นต้น

    สำหรับการแสดงพลุ ประกอบด้วย พลุ 7 องก์ ในคอนเซ็ปต์ "มหัศจรรย์พร 7 ประการ" ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์แผ่นดินไทยอันเจริญรุ่งเรืองด้วย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหาร และผืนน้ำอันเป็นบ่อเกิดแห่งการผลิดอกออกผล โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงปกครอง ให้ความร่มเย็นแก่ปวงชนชาวไทยมาช้านาน ซึ่งพลุ 7 องก์ล้วนมีความหมายมหามงคล ดังนี้

(การแสดงเปิดงาน ICONSIAM presents Bangkok Illumination 2019)

    องก์ที่ 1 "เกริกเกียรติ" (The Glory) เกริกเกียรติ เกียรติก้อง แผ่นดินสยาม เริ่มต้นการแสดงด้วยพลุสีทอง ที่ส่องแสงอำไพครอบคลุมแผ่นดิน และผืนนํ้า เพื่อประกาศให้โลกเห็นว่าที่ตรงนี้คือแผ่นดินทอง อันมีพระมหากษัตริย์ไทยทรงเฉลิมฉลองครองราชย์มาจนถึงปัจจุบัน 
    องก์ที่ 2 "ยั่งยืน" (Health Giving) ยั่งยืน ยิ่งยืนนาน รัชสมัย พลุจะพุ่งเป็นเส้นลำแสงจากพื้นขึ้นสู่อากาศ และแตกแผ่กิ่งก้านปกคลุมดั่งร่มไม้ใหญ่ เปรียบเสมือนพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์ที่สร้างความร่มเย็นให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นเวลาช้านาน และจะยังคงแผ่กว้างอย่างมั่นคงต่อไปอีกยาวนาน 
    องก์ที่ 3 "เรืองรุ่ง" (Way up High) เรืองรุ่ง รุ่งเรืองปราชญ์ พระศาสนา เป็นพลุลูกใหญ่ที่พุ่งขึ้นแตกสว่างกลางท้องฟ้า เปรียบดังปัญญาแห่งความรู้แจ้ง รู้กระจ่าง จากแสงธรรมที่นำทางชีวิตให้ประพฤติแต่สิ่งที่ดีงาม
    องก์ที่ 4 "เกษมศานต์" (Joy to the World) เกษมศานต์ สันติสุข ตลอดไป พลุหลากสีสันเล็กใหญ่ ที่แตกตัวกระจายโลดเต้นด้วยความสนุกสนาน เป็นหลักฐานแสดงถึงความสุขของพสกนิกร ที่ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขบนแผ่นดินแห่งความสันติ 
    องก์ที่ 5 "ขุมทรัพย์" (Diamond in the Sky) ขุมทรัพย์ สินดินนํ้า ขนานนามสุวรรณภูมิ ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหาร แสดงผ่านบรรดาดอกไม้ไฟประกายเพชรที่แตกกระจายทั่วท้องฟ้า เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ทรงคุณค่าที่ถูกหว่านออกไปเพื่อผลิดอกออกผลในเร็ววัน
    องก์ที่ 6 "สิริมงคล" (Lucky Star) สิริมงคล ท่วมท้น รวมไทย: พลุเล็กใหญ่หลากหลายสีที่กระจายเต็มท้องฟ้าในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เสมือนพรอันเป็นสิริมงคลอวยชัยให้พี่น้องชาวไทยมีความสุขสดใสตลอด
    องก์ที่ 7 "พลานุภาพ" (Power of Love) พลานุภาพ เทพเทวา คุ้มครองเมือง: พลุสีแดงที่แสดงถึงพลังแห่งความรัก ความห่วงใย ปกป้องดูแล อันเป็นพลังที่จะคอยปกปักรักษาคุ้มครองแผ่นนํ้าจนถึงผืนฟ้ามิให้สิ่งชั่วร้ายย่างก้าวเข้ามาบนแผ่นดินแห่งนี้ได้

(Bangkok Illumination 2019)

    ความพร้อมของงาน ทางไอคอนสยามยังร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ กรมเจ้าท่า, บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการบริการเพื่อรองรับด้านการเดินทางสัญจร การอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งพันธมิตรต่างๆ อาทิ ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง, บริษัท ซิโนพอร์ท จำกัด (Lhong1919), โครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, มูลนิธิประชาคมย่านกะดีจีน-คลองสาน, และผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เตรียมการจัดกิจกรรมการแสดงแสง สี เสียงต่างๆ ไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในช่วงการนับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ตลอดจนการตกแต่งบรรยากาศสวยงามด้วยไฟประดับประดาสว่างไสวอลังการริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในครั้งนี้
    แถมท้าย พบกับความตระการตาของขบวนต้นคริสต์มาสที่ยาวที่สุด ริมน้ำเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562-5 มกราคม 2563 โดยทางบริษัท ดิไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ดิไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  พร้อมด้วย ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกันจัดงาน “Bangkok Illumination 2019” (แบงคอก อิลลูมิเนชั่น 2019) เนรมิตพื้นที่ริเวอร์พาร์ค ริมน้ำเจ้าพระยา ให้เป็นดินแดนแห่งความสุข สุดตระการตามหัศจรรย์ประดับประดาแสงไฟและขบวนต้นคริสต์มาสที่ยาวที่สุดริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความโดดเด่นในการออกแบบผ่านแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่เป็นอัตลักษณ์ของไทย จากสถาปัตยกรรมของพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Glory of ICONSIAM” เพื่อเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้.