ม็อบกว่าร้อยปักหลักในโพลียู ยูเอ็นเรียกร้องฮ่องกงหาทางออกอย่างสันติ


เพิ่มเพื่อน    

ผู้ประท้วงกว่าร้อยคนยังปักหลักในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคเมื่อวันอังคาร "แคร์รี แลม" ผู้บริหารฮ่องกงเตือนออกมามอบตัวโดยดุษณี ขณะยูเอ็นเรียกร้องหาทางออกอย่างสันติ

ตำรวจควบคุมผู้ประท้วงและนักศึกษาที่พยายามหลบหนีออกจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิคเมื่อวันอังคาร / AFP

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายนกล่าวว่า ผู้ประท้วงเข้ายึดมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (โพลียู) ตั้งแต่วันอาทิตย์ พร้อมกักตุนเสบียงและอาวุธประดิษฐ์เอง โดยหวังใช้เป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของการต่อสู้ที่ยกระดับความรุนแรงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ส่งผลให้ทางการต้องปิดโรงเรียนทั่วฮ่องกงและมหาวิทยาลัยหลายแห่งพักการเรียนตลอดทั้งเทอมนี้ ผู้ประท้วงใช้ระเบิดขวด, ก้อนอิฐ, และธนู  ตอบโต้ตำรวจที่วางกำลังปิดล้อม ใช้แก๊สน้ำตา, น้ำแรงดันสูงและกระสุนยาง โดยตำรวจเคยขู่ว่าจะใช้กระสุนจริงด้วย องค์การโรงพยาบาลของฮ่องกงเปิดเผยว่า มีคนบาดเจ็บจากการปะทะเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์เข้ารับการรักษาแล้วราว 280 คน

    เมื่อวันจันทร์ ผู้ประท้วงพยายามหลบหนีหลายครั้ง มีทั้งที่โดนจับกุมและโดนขับไล่กลับเข้าไปภายใน คืนวันจันทร์ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งโรยตัวด้วยเชือกจากสะพานลอยลงมายังถนนโดยมีรถจักรยานยนต์รอรับ ในวันอังคาร บางคนยอมมุดท่อระบายน้ำเพื่อหาทางออก แต่ไม่ได้ผล

    ถึงบ่ายวันอังคาร ยังมีผู้ประท้วงปักหลักอยู่ภายในโพลียูมากกว่า 100 คน     ชายหนุ่มชื่อมาร์คัส อายุ 22 ปี บอกกับนักข่าวภายในนั้นว่า พวกเขาพยายามหาทางหนีแต่ไปทางไหนก็เห็นตำรวจเฝ้าอยู่ ที่ลานกลางมหาวิทยาลัยพวกเขานำผ้าขนหนูมาวางเป็นตัวอักษร "เอสโอเอส" เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนด้านนอกนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองมาเฝ้ารอ หญิงคนหนึ่งที่ลูกชายอยู่กับแฟนสาวภายในโพลียูบอกว่า พวกเด็กๆ อยากออกมาแต่กลัวถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล ซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี แต่ในฐานะพ่อแม่ พวกตนเพียงต้องการเห็นลูกๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย

    แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง เรียกร้องให้ผู้ประท้วงหรือผู้ก่อจลาจลภายในโพลียูยุติการใช้ความรุนแรง วางอาวุธและยอมมอบตัวอย่างสันติ แล้วปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจ ส่วนผู้ที่เป็นเยาวชนจะไม่ถูกจับกุม แต่ผู้ประท้วงที่อายุเกิน 18 ปีจะถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล เธอเผยด้วยว่า มีผู้ประท้วงออกมาจากโพลียูแล้ว 600 คน โดย 200 คนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี

    ด้านกัว เจียจิ้น หัวหน้าผู้กำกับการกองสารนิเทศตำรวจฮ่องกง กล่าวเมื่อบ่ายวันอังคารว่า มีคนถูกจับกุมแล้วราว 1,000 คนทั่วฮ่องกงในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น จำนวนดังกล่าวเท่ากับ 1 ใน 5 ของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดนับแต่การประท้วงเริ่มต้นเมื่อเดือนมิถุนายน กัวยืนยันด้วยว่า ผู้ที่โดนจับนั้นรวมถึงพวกที่โรยเชือกหลบหนีจากสะพานลอยเมื่อคืนวันจันทร์และคนขับรถจักรยานยนต์มารับพวกเขา พร้อมกับย้ำว่าทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าใด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้ออ้าง

    ขณะเดียวกัน รูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) แถลงว่า OHCHR ติดตามสถานการณ์ในฮ่องกงช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง ส่วนสถานการณ์ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิคขณะนี้ OHCHR เรียกร้องให้ทางการฮ่องกงดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ และแก้ไขสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมของผู้ที่อยู่ภายใน ซึ่งอยู่ในสภาพที่แย่ลงอย่างชัดเจน และขอให้หาทางออกอย่างสันติ

    นอกจากนี้ OHCHR ยังมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการใช้ "ความรุนแรงสุดขีด" ของผู้ประท้วงบางราย ซึ่งรวมถึงการใช้ความรุนแรงต่อตำรวจนั้นเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ OHCHR ขอร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการประท้วงนี้ละเว้นและประณามการใช้ความรุนแรง

    วันเดียวกัน ข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า สภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) หรือสภานิติบัญญัติของจีน ออกมาตอบโต้คำตัดสินของศาลสูงฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ ที่ว่าคำสั่งห้ามสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าของรัฐบาลฮ่องกงขัดต่อรัฐธรรมนูญของฮ่องกง โดยเอ็นพีซีระบุว่า ศาลฮ่องกงไม่มีอำนาจตัดสินเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน และมีแต่รัฐสภาของจีนเท่านั้นที่มีสิทธิตัดสินเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงฉบับนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"