15มี.ค.-ป.ป.ง..คาดสามารถสรุปอายัดทรัพย์ เงินกองทุเสมาพัฒนาชีวิต ที่ถูกยักยอกไปและเหลือเท่าไหร่ได้ในสัปดาห์หน้า ฝาก เตือน เรื่องการเปิดบัญชี เพื่อยักยอก ฉ้อโกง มีความผิดทั้งแพ่ง อาญา โทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปีด้วย แย้ม เตรียม ทำ MOU ร่วม ศธ. หวัง ทำงานใกล้ชิด และป้องปรามไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้น

นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายวิทยา นีติธรรม เลขานุการกรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรณีที่กลุ่มตรวจสอบภายใน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ได้ตรวจสอบบัญชีงบประมาณ ประจำปี 2560 ของ สป. พบมีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท ว่า ตนต้องขอขอบคุณทาง ปปง.ที่เข้ามาร่วมการสืบสวนกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยเอกสารที่เราได้ส่งมอบให้แก่ ปปง. ก็เป็นข้อมูลที่ประกอบการสืบสวน เช่น ข้อมูลคำรับสารภาพ ข้อมูลบันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และในส่วนของ สป. เองจากนี้ก็จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ปปง. ซึ่งจากที่ สป.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวไปแล้ว คณะกรรมการฯ ก็จะลงไปดูเส้นทางการโอนเงินว่าผู้ที่รับผิดชอบในส่วนต่างๆ ดำเนินการตามหน้าที่หรือไม่ และต่อจากนี้ สป.ก็จะต้องหาแนวทางที่จะใช้ในการป้องกันการเกิดทุจริต โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มอบนโยบายให้นำระบบไอซีทีเข้ามาใช้ในการบริการจัดการเรื่องการเบิก จ่ายงบประมาณ รวมถึงตรวจสอบการเบิก จ่ายด้วย ซึ่งจะทำให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตนก็พร้อมที่จะผลักดันในเรื่องนี้

ด้านนายวิทยา กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ปัญหาทุจริต และการดำเนินการในเรื่องนี้ถือว่าทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และการที่ ปปง. เข้ามาประสานความร่วมมือในครั้งนี้ ก็ได้ข้อมูลเอกสารที่ค่อนข้างชัดเจน และครบถ้วน ซึ่งเมื่อตนรับข้อมูลไปแล้วก็จะเร่งดำเนินการสรุปผลที่ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ โดยในส่วนของขั้นตอนการดำเนินการของ ปปง. คงจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น และตนเข้าใจว่าการดำเนินการในทุจริตครั้งนี้ใช้ระยะเวลานาน และการหมุนเวียนของเงินก็ไปอย่างรวดเร็ว แต่ในส่วนนี้กฎหมาย ปปง.สามารถดำเนินการติดตามกลับมาได้ และเงินจำนวนนี้เป็นเงินของ ศธ.ในฐานะผู้เสียหาย ถ้า ปปง. สามารถติดตามทรัพย์กลับมาได้ ทรัพย์ดังกล่าวก็จะต้องคืนให้กลับ ศธ. อย่างไรก็ตาม ปปง.คงจะต้องตรวจสอบก่อนว่าจะเหลือทรัพย์ที่สามารถอายัดได้จำนวนเท่าไร และน่าจะสรุปเรื่องเสนอคณะกรรมการธุรกรรม ของ ปปง. ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อรายงานให้คณะกรรมการฯ พิจารณาข้อมูลที่ ปปง.ตรวจพบ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ อาจจะพิจารณาให้ตรวจสอบเพิ่มเติม หรือดำเนินการยึด อายัดทรัพย์

“ผมอยากฝากประชาสัมพันธ์ ว่า การดำเนินการเปิดบัญชี เพื่อยักยอก หรือฉ้อโกงในลักษณะนี้ นอกจากจะมีความผิดฐานทุจริต ยักยอกแล้ว อาจจะความผิดอาญาฐานฟอกเงินด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปี และในส่วนเจ้าของบัญชีถ้าหากมีการรับรู้ หรือทราบว่า บัญชีดังกล่าวเปิด เพื่ออะไร ก็เข้าข่ายความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะรู้ สำหรับในกรณีที่มีการปิดบัญชี ปปง.ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินถูกส่งไปที่ใคร และคนที่เกี่ยวข้องก็คาดว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มที่เราจะต้องเข้าไปตรวจสอบ ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและนโยบายเองก็เร่งรัดให้การดำเนินการเสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย ดังนั้น ปปง. ก็จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดและรอบคอบ”เลขานุการกรม ปปง.และว่า อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ ทาง ปปง.จะมีการทำข้อตกลงความร่วมมือกับ ศธ. เพื่อที่จะทำงานร่วมกับอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ศธ. เป็นกระทรวงที่มีงบประมาณจำนวนมากและเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้น