หลังจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้เปิดขายซองประมูลโครงการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ปิดขายซองเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ถือเป็นการประมูลจัดหาเอกชนรับบริหารดิวตี้ฟรีสนามบินแห่งสุดท้ายที่ ทอท.รับผิดชอบอยู่

                อย่างไรก็ตาม พบว่าผลการขายซองประมูลคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในท่าอากาศยานดอนเมือง ปรากฏว่ามีเอกชน 2 รายเข้าซื้อซองประมูล ได้แก่ 1.บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และ 2.บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด โดยกำหนดให้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอรับสิทธิการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 11 ธ.ค.62 เวลา 09.00-11.00 น.

                สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะประกาศรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ AOT กำหนดตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จากนั้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.62 จะเปิดให้เข้ามานำเสนอผลงาน (Presentation) ข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน โดย ทอท.กำหนดการเปิดซองเสนอค่าตอบแทนและประกาศผลคะแนนสูงสุดในวันที่ 16 ธ.ค.62  ตั้งแต่เวลา 09.30 น.

                รายงานข่าวจาก ทอท. ระบุว่า การประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองครั้งนี้ เอกชนจะได้รับสิทธิ์บริหารจัดการพื้นที่รวมไม่เกิน 4 พันตารางเมตร (ตร.ม.) แบ่งออกเป็นพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร 2 ที่ปัจจุบันรองการรับการเดินทางภายในประเทศ จะถูกปรับเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พื้นที่ราว 1.8-2 พัน ตร.ม. และส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ หรืออาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ซึ่งจะพัฒนาเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ

                ในส่วนของหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินผู้ชนะการประมูล เบื้องต้น ทอท.จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ โดยเอกชนที่มีคะแนนสูงสุด และเสนอผลตอบแทนให้ ทอท.สูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล ได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรีดอนเมืองระยะ 10 ปีเช่นเดียวกับดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ โดยจะเริ่มสิทธิ์ต่อเนื่องจากสัมปทานเดิมที่บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานอยู่ และจะหมดอายุในเดือน ก.ย.65

                สำหรับการประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองครั้งนี้ ทอท.จะไม่กำหนดเกณฑ์การันตีรายได้ขั้นต่ำ เพราะต้องการให้ผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมเอง และต้องการให้เกิดการแข่งขันเสรี ซึ่งต่างจากดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ ที่ ทอท.มีการกำหนดการันตีรายได้ขั้นต่ำ (Minimum Guarantee) ในอัตรา 15% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ

                สำหรับดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง ปัจจุบัน ทอท.มีสัญญาสัมปทานร่วมกับกลุ่มคิงเพาเวอร์ ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานในเดือน ก.ย.65 ทำให้การเร่งรัดเปิดประมูลดิวตี้ฟรีในครั้งนี้จะมีเวลาเหลือให้เอกชนบริหารจัดการและเข้าพื้นที่ราว 2 ปี ก่อนสัญญาสัมปทานเดิมจะหมดลง โดยผู้ชนะการประมูลจะได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรีดอนเมืองระยะ 10 ปีเช่นเดียวกับดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ โดยจะเริ่มสิทธิ์ต่อเนื่องจากสัมปทานเดิมหมดอายุในเดือน ก.ย.65 และหมดอายุสัมปทานในเดือน ก.ย.75

                ถือว่าเป็นที่จับตามองไม่น้อยสำหรับการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองดูเหมือนไม่คึกคักเหมือนครั้งที่ผ่านมา เช่นการประมูลสนามบินสุวรรณภูมิ และภูมิภาค อาจจะด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายๆ อย่าง หรือเอกชนรายอื่นไม่อยากแข่งขันกับรายเดิมก็ว่ากันไปนาจิตตัง

                ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่สิ่งที่ต้องจับตาดูคือข้อเสนอที่เอกชนจะยื่นให้ ทอท.คงต้องลุ้นว่ากลุ่มคิงเพาเวอร์แชมป์เก่าและกลุ่มเดอะมอลล์จะชิงเดือดกันแค่ไหน ในการประมูลดิวตี้ฟรีดอนเมืองในครั้งนี้ โดยเฉพาะคิงเพาเวอร์จะเสนอผลตอบแทนให้ ทอท.สูงเกินคาดเหมือนเดิมหรือไม่ ไม่นานเกินรอ ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้จะได้รู้กันว่าใครจะมาวิน. 

กัลยา ยืนยง