จบไปแล้วอีกหนึ่ง โศกนาฏกรรม ที่เกิดขึ้นกับ ชรบ.ทางลุ่ม บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา บัดนี้ผู้วายชนม์ทั้ง 15 ศพได้ถูกสลายสังขารเป็นเถ้าถ่าน เหลือไว้เพียงเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของสงครามประชาชน ที่พลเรือนซึ่งติดอาวุธเพื่อคุ้มครองหมู่บ้านของตนเองต้องตกเป็น เหยื่อ ของความขัดแย้งระหว่างขบวนการแบ่งแยกดินแดนกับเจ้าหน้าที่รัฐ และก็เชื่ออีกเหมือนกันว่าเรื่องราวของ ชรบ.ที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินเกิดจะค่อยๆ เลือนหายเหมือนกับเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่คือ เจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุม คนร้าย หรือ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งแม้ว่าขณะนี้ตำรวจ ทหารจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วหลายคน แม้ว่าจะไม่ใช่คนร้ายที่ปฏิบัติการโจมตี แต่ก็เป็นผู้มีส่วนร่วมเช่นเป็นผู้นำทาง เป็นผู้สนับสนุนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีในการสาวไปยังคนร้ายที่เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 20 คน
ซึ่งก็เชื่ออีกเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วก็ได้แค่ออกหมายจับ เพราะเจ้าตัวหลังจากที่ปฏิบัติการโหดแล้วก็หลบซ่อนในที่ปลอดภัย ส่วนใหญ่ก็หลบซ่อนในพื้นที่เพื่อรอการปฏิบัติการครั้งใหม่ เนื่องจากในทางปฏิบัติจริงๆ นั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีขีดความสามารถพอในการที่จะเข้าถึงที่หลบซ่อน เพราะมวลชนของ โจรใต้ หรือแนวร่วมของขบวนการบีอาร์เอ็นยังให้การช่วยเหลือ ทั้งให้ที่หลบซ่อนและพาหลบหนี
สังเกตหรือไม่ว่าในการปะทะกันหลายๆ ครั้ง ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับโจรใต้ หรือแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน ฝ่ายของแนวร่วมก็มีเจ็บมีตาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เคยสืบทราบว่าคนเจ็บถูกนำไปรักษาตัวที่ไหน และคนตายถูกนำไปฝังที่ไหน
ในเมื่อคนเจ็บกับคนตายย่อมมีเบาะแสให้สืบค้นง่ายกว่า คนเป็น ตั้งเยอะแยะ เวลาผ่านมา 15 ปีทั้งทหาร ตำรวจยังหาเบาะแสไม่เจอ แล้วการไล่จับคนเป็นที่มีอาวุธมีแนวร่วมปกป้องย่อมเป็นไปได้ยากกว่า เพราะแม้แต่กรณีปล้นทองที่ร้านทองนาทวี จ.สงขลา ซึ่งดูมีเบาะแสมากมาย ผ่านไปแล้ว 3 เดือนยังจับมือใครดมไม่ได้เลย
ดังนั้นสถานการณ์ความรุนแรงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเป็น โจทย์ยาก สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในการติดตามคนร้ายหรือแนวร่วม ซึ่งจะเห็นว่าในการก่อเหตุใหญ่ทุกครั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าก็จะนำเอาแผ่นชาร์ตเดิมๆ ที่มีคนร้ายหน้าเดิม ที่เคยก่อเหตุมาอย่างโชกโชนว่าเป็นผู้ปฏิบัติการ เหมือนกับว่า 16 ปีที่ผ่านมาโจรใต้ไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย หรือมีอยู่ไม่ถึง 30 คนที่วนเวียนปฏิบัติการโหดอยู่
ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องการหนีความรับผิดชอบ เพื่อให้เห็นว่าจำนวนโจรหรือแนวร่วมไม่ได้เพิ่มขึ้น มีโจรอยู่เพียง หยิบมือ เดียวเท่านั้นที่วนเวียนปล้นปืน และปฏิบัติการแบบหมุนเวียนไปก่อเหตุที่นั่นที่โน่นที่นี่
การที่หน่วยงานความมั่นคงพยายามที่จะนำเสนอข่าวเพื่อให้เห็นว่า โจรใต้ ไม่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่เหมือนกับจะบอกกับสังคมว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าสามารถสกัดกั้นการ บ่มเพาะ การนำคนเข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนได้ผลดี
แต่ถ้าเกิดมีใครถามว่าในเมื่อ กอ.รมน.เชื่อว่า ณ วันนี้มี โจรใต้ ไม่ถึง 30 คน ตามรายชื่อที่ถูกนำมาแถลงในแต่ละครั้งในเวลาเกิดเหตุ แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าก็ยังไม่มี น้ำยา ในการติดตามจับกุม หรือ ไล่ล่า เพื่อ วิสามัญ ทั้งที่วันนี้หน่วยงานความมั่นคงมีพร้อมทั้งอาวุธและกำลังพล มีชุดปฏิบัติการพิเศษ มีชุดไล่ล่า มีสารพัด แต่ไม่มีความสามารถในการจัดการกับคนร้ายเพียง หยิบมือเดียว ตรงนี้ผู้รับผิดชอบจะมีคำตอบกับคนในพื้นที่อย่างไร
และประเด็นปัญหา นับแต่นี้ไป ชรบ.ในแต่ละพื้นที่จะต้องมีการปรับกระบวนยุทธ์อย่างไร เพราะแค่การส่งทหารไปดูแลช่วยเหลือก็เป็นการทำได้เป็นครั้งคราว อย่างเช่นตอนเกิดเหตุ ชรบ. 15 ศพใหม่ๆ ก็มีคำสั่งให้ทหารในพื้นที่ดูแลช่วยเหลือ ชรบ.เพื่อป้องกันเหตุ แต่เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์ที่ ลำพะยา เลือนหายจากความทรงจำของผู้คน ชรบ.ก็ต้องถูกทิ้งให้ โดดเดี่ยว ได้ค่าตอบแทนหมู่บ้านละ 20,000 บาท และทุกอย่างต้องช่วยตนเอง ช่วยส่วนรวม เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเช่นเดิม
เรื่องของ ชรบ.จึงเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทุกฝ่ายซึ่งเกี่ยวข้องโดยเฉพาะฝ่ายปกครองต้องนำไปขบคิดว่าจะทำอย่างไร จะปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างไรที่จะให้ ชรบ.ไม่กลายเป็น เหยื่อ ของสถานการณ์ และอาวุธที่ให้ ชรบ.จะไม่ถูกเปลี่ยนมือไปเป็นของ โจรใต้ หรือ แนวร่วม เพราะถ้าปล่อยให้เป็นอย่างที่เป็น และถ้าบีอาร์เอ็นต้องการที่จะทำร้าย ชรบ. บรรดา ชรบ.ทั้งหมดก็จะกลายเป็น ผักเหนาะ ของคนร้ายหรือแนวร่วมแบบ กินนิ่ม นั้นเอง
ประเด็นต่อมา ฝ่ายปกครองต้องเอาใจใส่ในเรื่องของ ชรบ.ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยไม่ปล่อยให้ ทหารเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายเดียว เพราะ ชรบ.เป็นผลผลิตของฝ่ายปกครอง ซึ่งก็ต้องยอมรับสภาพที่เป็นจริงว่า ชรบ.ในหลายๆ พื้นที่ยังมีจุดอ่อนในการป้องกันตนเองและป้องกันหมู่บ้าน ชรบ.หลายพื้นที่รวมตัวกันแบบหลวมๆ และมีเรื่องเสียหายอื่นๆ เกิดขึ้น
ถ้าตราบใดที่โครงสร้างของบีอาร์เอ็นในพื้นที่ยังไม่ถูกทำลาย และโครงการซึ่งเป็น เครือข่าย ของขบวนการยังเติบโตต่อไปได้ ยุทธวิธี ต่างๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงใช้ปฏิบัติการอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถเอาชนะบีอาร์เอ็นได้ เพราะความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตกอยู่ในสายตาของ สายข่าว ของขบวนการตลอดเวลา นอกจากนั้นบีอาร์เอ็นยังใช้วิธีการ ลับลวงพราง กับเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกส่งเข้าไปควบคุมพื้นที่ในหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ จนเจ้าหน้าที่แยกไม่ออกว่าไหนคือ แนวร่วม ไหนคือผู้บริสุทธิ์
และต้องยอมรับความจริงว่า วันนี้มี โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา หรือ ปอเนาะ อีกจำนวนมากที่ยังตกอยู่ในอิทธิพลของบีอาร์เอ็น และมีบางส่วนที่ให้การสนับสนุนแนวทางแบ่งแยกดินแดนของบีอาร์เอ็น สังเกตหรือไม่ว่าการจับกุมผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงส่วนใหญ่ยังต้องไปปิดล้อม ปอเนาะ ตรวจค้นโรงเรียนสอนศาสนา หรือไม่ผู้ร้ายที่ถูกจับได้หรือถูกซัดทอด ก็คือนักเรียน คือครูในโรงเรียนสอนศาสนาเสียเอง
และในการดับ ไฟใต้ ไม่ว่าจะได้แม่ทัพ นายกองเก่งมาจากไหน ถ้ายังเชื่อว่าเรื่องของศาสนาและเรื่องของโรงเรียนเอกชนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่แตะต้องไม่ได้ หรือไม่กล้าแตะต้องเพราะกลัวเก้าอี้ตนเองสั่นคลอน สุดท้ายการแก้ปัญหาความไม่สงบหรือการดับ ไฟใต้ ก็จะทำได้แค่ที่เห็น คือเป็นได้แค่ ยาสามัญประจำบ้าน ที่ไม่อาจรักษาโรคที่แท้จริงได้นั่นเอง
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าต้องกล้าที่จะมีมาตรการ เด็ดขาด กับโรงเรียนสอนศาสนาและปอเนาะบางแห่ง รวมทั้งสถานที่บ่มเพาะ สถานที่พักพิง ต้องมีคณะที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ต้องมีการพูดคุยกันให้รู้เรื่องถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานแบบ ลูบหน้าปะจมูก มาเป็นเวลานาน จนทำให้การแก้ปัญหาการก่อการร้ายหรือการดับ ไฟใต้ ไม่ได้ผล เพราะฝ่ายความมั่นคงมัวแต่กลัวโน่นนี่นั่น สุดท้าย ความกลัวทำให้เสื่อม ทำให้ ไฟใต้ ไม่มีวันที่จะมอดดับตลอดกาลเพราะมาจากความกลัวนี่เอง
ขนาดประชาชนตายหมู่ถึง 15 ศพ ผู้นำประเทศยังไม่ยอมรับว่าเป็นเรื่องของการ ก่อการร้าย หรือว่าความตายของ ชรบ. 15 ศพที่ ลำพะยา เป็นเรื่องของการ ตั้งวงเล่นไพ่ และไม่จ่าย ค่าต๋ง จนมีการหักหลังยิงกันเองอย่างนั้นหรือ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตายทีละ 15 ศพ ถ้ายังไม่เรียกว่าเป็นเรื่องก่อการร้าย และเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย แล้วจะเรียกว่าอย่างไร หรือจะเรียกสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเป็นการก่อการร้ายได้ก็ต่อเมื่อ นายพล ต้องเป็น เหยื่อ ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเสียก่อน.
เมือง ไม้ขม รายงาน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |