ศาลเก็บข้อเท็จจริงยิงเดือดที่ศาลจันทบุรีแล้ว เตรียมชงเข้าที่ประชุม ก.ต. 18 พ.ย. ก่อนเปิดรายละเอียด ผงะ! ที่ศาลบึงกาฬเจออดีตตำรวจวัย 64 ปีมาคัดสำเนาพกปืนอีกแล้ว “เขมจิรา” หอบหลักฐานมอบกองปราบฯ ที่ดินเป็นของใคร ชี้ที่ดินธรณีสงฆ์บาปแรง!
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหลังส่งเจ้าพนักงานตำรวจศาล (คอร์ตมาร์แชล) ลงพื้นที่ศาลจังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมประมวลเหตุการณ์ยิงกันในศาลเมื่อวันที่ 5 พ.ย. จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ว่าได้รับผลการรายงานจากการลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะนำข้อมูลที่ได้รับรายงานมาเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ก่อนเปิดเผยรายละเอียดการลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
“ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ กรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนและกองทุน เชิญเลขาธิการศาลยุติธรรมเข้ามาชี้แจงเรื่องการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งเชิญหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนยุติธรรม เพื่อสอบถามทั้งเรื่องการอนุญาตครอบครองอาวุธปืน, การทำหน้าที่ของตำรวจศาล, การใช้พนักงานเอกชนรักษาความปลอดภัยของศาล และการให้ศาลประกาศเขตพื้นที่อย่างชัดเจนว่าแต่ละโซนควรมีความปลอดภัยระดับไหน”
ขณะเดียวกัน นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.15 น. ที่ศาลจังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำศาลได้ตรวจพบประชาชนที่มาติดต่อราชการศาล พกอาวุธปืนไว้ในกระเป๋าเข้าศาลจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลได้ตรวจพบและควบคุมตัวได้ คือ นายปิยะ ยืนยั่ง อายุ 64 ปี เป็นนายตำรวจนอกราชการ ซึ่งนายปิยะเดินทางมาเพื่อขอคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาในคดีความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ซึ่งนายปิยะไม่ใช่คู่ความ เป็นเพียงญาติของจำเลยในคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและตั้งสำนวนไต่สวนละเมิดอำนาจศาล พร้อมดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนต่อไป
ทั้งนี้ การตรวจค้นจับกุมได้ครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายสราวุธได้ลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล ส่งเป็นหนังสือเวียนถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม ให้ใช้เป็นแนวทางและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ซึ่งมีทั้งส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาล หรือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณศาลโดยเฉพาะในศาลต่างจังหวัด ที่ยังใช้ตำรวจจากพื้นที่ร่วมกับ รปภ.ศาลที่มีอัตรากำลังน้อยกว่าศาลในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล ยังรวมถึงการห้ามนำอาวุธและสิ่งของที่ผิดกฎหมายเข้ามาในบริเวณศาลด้วย หากฝ่าฝืนอาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับความคืบหน้าของคดีการยิงกันที่ศาลจังหวัดจันทบุรีนั้น น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ ที่เสียชีวิตได้นำพยานหลักฐานเป็นเอกสารที่อดีตสามีรวบรวมได้และสามารถพิสูจน์ได้ว่าที่ดิน 3,800 ไร่ในจังหวัดจันบุรีเป็นที่ธรณีสงฆ์ ไม่ใช่ที่ของมูลนิธิและของนายบุญช่วย เจริญสถาพร ที่ได้ทำเอกสารใหม่จนนำไปสู่คำพิพากษาของศาลฎีกา ทำให้ที่ดินตกเป็นของนายบุญช่วยมามอบให้กองปราบฯ
โดย น.ส.เขมจิราระบุว่า หลักฐานที่นำมามอบให้กับตำรวจกองปราบเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่อดีตสามีรวบรวมได้ และส่งให้ตนเองก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วันเพื่อมอบให้ตำรวจ แต่เอกสารยังไม่ทันถึงมือตำรวจก็เกิดเรื่องเสียก่อน
"เหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น หากกระบวนการยุติธรรมมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา อดีตสามีต่อสู้เพื่อสิทธิ์อันชอบธรรมให้กับมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกิดความกดดันมาตลอด จนมีคดีฟ้องร้องกันไปมาถึง 13-14 คดี" น.ส.เขมจิรากล่าว และว่า พื้นที่ จ.สงขลา 600 ไร่ และชลบุรี 1,700 ไร่ ของมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยหายไปไหน และบุคคลที่เกี่ยวข้องคือใคร หากตรวจสอบก็จะรู้คำตอบ
น.ส.เขมจิรากล่าวทิ้งท้ายว่า ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยขอให้แต่ละฝ่ายทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม เพราะที่ดินธรณีสงฆ์บาปแรง และหันกลับมาคิดว่าที่ดินเป็นของใคร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |