พลโทธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาค 1 และนายไมตรี อินทุสุต ประธานบอร์ด พอช.ร่วมมอบงบสนับสนุนการก่อสร้างบ้านใหม่ชุมชนริมคลองเปรมประชากร
คลองเปรมประชากร / พอช.-กองทัพภาคที่ 1- กทม.จับมือชาวคลองเปรมประชากร จัดกิจกรรม “รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมฯ” เพื่อเปิดพื้นที่สร้างเขื่อนระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมและพัฒนาพื้นที่ชุมชนริมคลองเปรมฯ ประเดิมรื้อย้ายชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร รวม 197 หลัง โดยจะเริ่มสร้างบ้านใหม่ภายในปีนี้ เผยเป้าหมายพัฒนาทั้งคลองเปรมฯ ในกรุงเทพฯ 32 ชุมชน และ 6 หมู่บ้านใน จ.ปทุมธานี รวม 6,386 ครัวเรือน
คลองเปรมประชากรเป็นอีกลำคลองหนึ่งที่รัฐบาลมีนโยบายจัดระเบียบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ หลังจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วในคลองลาดพร้าว ตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 โดยรัฐบาลมอบหมายให้กรุงเทพมหานครก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลของน้ำในคลองเปรมประชากร
สภาพชุมชนที่รุกล้ำลำคลองเปรมประชากร
ขณะที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ จะดำเนินการเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง โดยประชาชนที่สร้างบ้านเรือนรุกล้ำคลองจะต้องรื้อย้ายบ้านออกจากคลองและแนวเขื่อนซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ รองรับชาวบ้าน 32 ชุมชนในเขตจตุจักร หลักสี่ และดอนเมือง และอีก 6 หมู่บ้านในเขต จ.ปทุมธานี รวมทั้งหมด 6,386 ครัวเรือน ทั้งนี้ตลอดช่วงปี 2562 หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้จัดเวทีประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจกับชาวชุมชนริมคลองเปรมฯ ครบแล้วทุกชุมชน โดยชาวชุมชนส่วนใหญ่พร้อมเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาคลองเปรมประชากร
ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย.) ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. ที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 ริมคลองเปรมประชากร เขตจตุจักร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตจตุจักร จัดกิจกรรม “รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมฯ” โดยมีพลโทธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 นายไมตรี อินทุสุต ประธานคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวชุมชนริมคลองเข้าร่วมงานประมาณ 200 คน เพื่อเปิดพื้นที่พัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรที่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เป็นชุมชนแรก จำนวน 197 หลัง โดยเริ่มรื้อย้ายบ้านชุดแรกจำนวน 17 หลังในวันนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างบ้านเฟสแรกจำนวน 20 หลัง และทะยอยรื้อย้ายและก่อสร้างเฟสต่อไป
พลโทธรรมนูญ วิถี
พลโทธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากรให้มีความสุข มีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัยจะสำเร็จได้นอกจากการสนับสนุนของรัฐแล้ว ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องเป็นประการสำคัญ และความเข้มแข็งของชุมชนจะเป็นกำลังหลักในขับเคลื่อนโครงการนี้ให้สำเร็จ โดยชุมชนประชาร่วมใจ 2 เป็นชุมชนแรกที่เริ่มรื้อบ้านเพื่อเตรียมการก่อสร้างบ้านใหม่ ซึ่งแสดงถึงความสามัคคีของพี่น้อง
“กองทัพยังคงเฝ้ารอที่จะดีใจกับชาวชุมชนทุกท่านอีกครั้ง ที่พี่น้องจะได้มีบ้านหลังใหม่ที่สวยงาม และที่สำคัญ คือ สามารถเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้อย่างถูกต้อง และสามารถถือกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านได้ โดยทางกองทัพได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ประสานงานและช่วยเหลือพี่น้องอย่างใกล้ชิด จนกว่าทุกท่านจะย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่” พลโทธรรมนูญกล่าว
นายไมตรี อินทุสุต ประธานคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า เขตจตุจักรมีชุมชนริมคลองเปรมประชากร จำนวน 5 ชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้เข้าร่วมโครงการแล้วทั้งหมด โดยจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ 3 สหกรณ์ ซึ่ง พอช.ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างบ้านใหม่ รวม 91.23 ล้านบาท โดยจะเริ่มรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป เริ่มจากชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 197 ครัวเรือน อยู่อาศัยในที่ดินราชพัสดุเนื้อที่ 10 ไร่ 3 งานเศษ โดยกรมธนารักษ์ให้เช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี (เมื่อหมดสัญญาสามารถต่อได้อีกครั้งละ 30 ปี) โดยเริ่มรื้อย้ายบ้าน 17 หลังในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลารื้อย้าย 1 เดือน และจะเริ่มสร้างบ้านใหม่ 20 หลังได้ก่อนสิ้นปี 2562 เป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4x7 ตารางเมตร และ 5x6 ตารางเมตร ผ่อนชำระกับสหกรณ์ 2,579 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 20 ปี
นายไมตรี อินทุสุต ร่วมรื้อบ้านชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจุตจักร
“ปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 ประการของพี่น้อง ได้แก่ 1.ชาวชุมชนมีความร่วมมือร่วมใจตามชื่อของชุมชน คือ ‘ประชาร่วมใจ’ ถ้าผู้นำและชาวบ้านไม่ร่วมมือเข้มแข็งเช่นนี้ ความสำเร็จคงเกิดขึ้นยาก 2.ส่วนราชการให้ความร่วมมือ ทั้งทหาร กองทัพบก กทม. พอช. ธนารักษ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประปา ไฟฟ้านครหลวง รวม 12 หน่วยงาน 3. รัฐบาลเร่งรัดติดตาม เพราะเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ที่ได้ทุ่มเท ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยของพี่น้องชุมชนคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวอย่างต่อเนื่อง” นายไมตรีกล่าว
นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวว่า สำนักงานเขตจตุจักรมีความพร้อมในการสนับสนุนการทำงานในทุก ๆ ด้านให้กับชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำชุมชนและสมาชิก เริ่มตั้งแต่กระบวนการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกและให้บริการกับชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น การร่วมสร้างความเข้าใจกับชุมชน การอนุญาตก่อสร้างบ้านและดำเนินการเรื่องทะเบียนบ้านให้กับบ้านที่ก่อสร้างใหม่
“นอกจากนี้เมื่อชุมชนก่อสร้างบ้านเสร็จแล้ว สำนักงานเขตจะสนับสนุนให้เกิดระบบสาธารณูปโภคที่มีมาตรฐาน ส่งเสริมการฝึกอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน รวมถึงดูแลผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ในทุกๆ ชุมชน เพื่อให้ได้รับโอกาสและได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กับทุกคนในชุมชนด้วย” ผอ.เขตจตุจักรกล่าว
นางสมร จันทร์ฉุน ประธานสหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด กล่าวว่า ชาวชุมชนประชาร่วมใจ 2 อยู่กันมานานกว่า 80 ปี ดำเนินชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป บ้านเรือนปลูกสร้างแบบพออยู่พอกินตามฐานะของแต่ละครอบครัว ส่วนใหญ่มีสภาพทรุดโทรมไม่แข็งแรง เมื่อมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเข้ามา ชาวบ้านจึงดีใจที่จะได้เข้าร่วมโครงการและพัฒนาชุมชน เพราะเป็นโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณและช่วยเรื่องการรื้อย้าย ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากรของ พอช. โดยรวมตัวเป็นกลุ่มออมทรัพย์และจัดตั้งเป็นสหกรณ์แล้ว ใช้ชื่อ ‘สหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด’ มีสมาชิก 197 ครัวเรือน ตามแผนงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งชุมชนในปี 2563
“ชาวบ้านเห็นว่าโครงการนี้จะทำให้ชุมชนมีที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น เพราะเห็นตัวอย่างมาจากการพัฒนาชุมชนริมคลองลาดพร้าว ที่มีบ้านใหม่ที่สวยงามมั่นคง มีสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้ชีวิตของชาวชุมชนดีขึ้น และพวกเรามั่นใจว่าโครงการนี้จะสามารถพัฒนาได้สำเร็จ จนเป็นที่ยอมรับของชุมชนข้างเคียง และเป็นชุมชนแรกของคลองเปรมประชากรในการพัฒนา และเป็นต้นแบบการพัฒนาให้กับชุมชนอื่น ๆ ริมคลองเปรมประชากรต่อไป” ประธานสหกรณ์กล่าว
ตัวอย่างโมเดลบ้านริมคลองเปรมประชากร
นายธนัช นฤพรพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวถึงการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากรว่า แต่เดิมชุมชนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ริมคลองเปรมประชากรเกือบทั้งหมดปลูกสร้างบ้านบนที่ดินราชพัสดุที่กรมธนารักษ์ดูแลโดยไม่ได้เช่าที่ดินอย่างถูกต้อง และบางส่วนปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำลงไปในคลองเปรมประชากรทำให้กีดขวางทางเดินน้ำ สภาพบ้านเรือนส่วนใหญ่มีสภาพทรุดโทรม ไม่มั่นคงแข็งแรง
รัฐบาลจึงมีนโยบายการพัฒนาตาม ‘แผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร’ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่คลองเปรมประชากร (ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน) ทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยมีหลายหน่วยงานร่วมดำเนินงาน เช่น กรมธนารักษ์ให้ชุมชนเช่าที่ดินอย่างถูกต้องระยะยาวในอัตราผ่อนปรน กรุงเทพมหานครรับผิดชอบก่อสร้างเขื่อนและพัฒนาพื้นที่ริมคลอง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง จังหวัดปทุมธานี และสำนักงานของกรุงเทพมหานครที่ดูแลพื้นที่ โดยมีกองทัพภาคที่ 1 ร่วมสนับสนุนในเรื่องการสร้างความเข้าใจและการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับชุมชน
ขณะที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช. สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์เคหสถานเพื่อเช่าที่ดินและบริหารงานก่อสร้าง โดย พอช. สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือครัวเรือนละ 147,000 บาท (สาธารณูปโภคส่วนกลาง 50,000 บาท งบอุดหนุน 25,000 บาท ลดภาระสร้างบ้าน 72,000 บาท/ครัวเรือน) และสินเชื่อก่อสร้างบ้านไม่เกิน 360,000 บาท/ครัวเรือน ชำระคืนภายใน 20 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาท/ปี โดยขณะนี้ พอช.ได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือแล้ว 4 สหกรณ์ (7 ชุมชน) รวม 927 ครัวเรือน วงเงิน 145.27 ล้านบาท
ส่วนการออกแบบที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรเบื้องต้นมี 3 แบบ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการรับภาระของแต่ละครัวเรือน คือ 1.บ้านแถว 1 ชั้น ขนาด 4x7 ตารางเมตร ราคาประมาณ 290,000 บาท ผ่อนชำระ 1,500 บาท/เดือน 2.บ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4x7 ตารางเมตร ราคาประมาณ 450,000 บาท ผ่อนชำระ 2,600 บาท/เดือน และ 3.บ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 5x6 ตารางเมตร ราคาประมาณ 450,000 บาท ผ่อนชำระ 2,600 บาท/เดือน ระยะเวลา 20 ปี ทั้งนี้ ในกรณีที่บางชุมชนมีครัวเรือนเป็นผู้ด้อยโอกาสหรือผู้ยากไร้ รัฐบาลก็จะพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือเป็นกรณี ๆ ไป
นายธนัชกล่าวด้วยว่า แผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร
มีกรอบแนวคิดในการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ 1. ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมของเมือง เช่น การสร้างเขื่อนริมคลองเปรมฯ อุโมงค์ระบายน้ำ ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย 2.ด้านการพัฒนาชุมชนริมคลอง ซึ่งมีเป้าหมายการพัฒนาที่อยู่อาศัยของทุกครัวเรือนที่อยู่ริมคลอง 3. ด้านการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และ 4. ด้านกฏหมายและการขับเคลื่อนงาน มีระยะเวลาดำเนินการ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2562 ถึง 2570 ซึ่งหลังจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยดำเนินการได้แล้วเสร็จ ในระยะต่อไปแผนนี้จะมีการดำเนินการอีกหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์กับชุมชนและส่วนรวม อาทิ การขุดลอกคลองเพื่อให้ระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ การเชื่อมต่อระบบขนส่ง ล้อ-ราง-เรือ ในอนาคต รวมถึงการสนับสนุนชุมชนให้มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทั้งในเรื่องอาชีพ รายได้ และมีโอกาสที่จะเห็นตลาดน้ำเกิดขึ้นในคลองเปรมประชากรในเวลาไม่นานนี้
ตัวอย่างบ้านที่สร้างเสร็จแล้วในคลองลาดพร้าว
“พอช. กำหนดแผนดำเนินการ 4 ปี คือตั้งแต่ปี 2562 – 2565 โดยใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง เช่นเดียวกันกับการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว โดยให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินโครงการ เริ่มจากการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์และจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เพื่อเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ มีการออกแบบและวางผังร่วมกันทั้งชุมชนเพื่อขออนุญาตปลูกสร้างบ้านใหม่จากกรมธนารักษ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนสถานะจากผู้บุกรุกเป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้จะมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชน ขณะที่ชาวชุมชนก็จะช่วยกันดูแลคลองให้ใสสะอาด และร่วมกันพัฒนาพื้นที่ริมคลองให้สวยงาม สามารถใช้เป็นเส้นทางขี่จักรยานเลียบคลองหรือวิ่งออกกำลังกายได้ด้วย” นายธนัชกล่าว
การก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำในคลองเปรมประชากรตามแผนงานจะมีความยาวทั้งหมดประมาณ 27 กิโลเมตร เริ่มจากพื้นที่ริมคลองเปรมฯ ในเขตจตุจักร-หลักสี่-ดอนเมืองถึงปทุมธานี ขนาดความกว้างของสันเขื่อนคือ 3 เมตร ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่ปี 2562-2565 โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ขณะนี้เริ่มสร้างเขื่อนฯ นำร่องจากคลองบ้านใหม่ถึงสะพานข้ามคลองบริเวณหมู่บ้านแกรนด์คาแนล เขตดอนเมือง ระยะทางตามแนวเขื่อนทั้งสองฝั่งรวม 460 เมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้
นอกจากนี้ ตามแผนแม่บทฯ ยังมีโครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองเปรมประชากร จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2562-2566 เป็นการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตจตุจักร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 109 ตารางกิโลเมตร เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ รวมถึงยังช่วยรับน้ำฝนที่ระบายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ข้างเคียง คือ จ.นนทบุรีและ จ.ปทุมธานี และสามารถสูบน้ำกลับเพื่อเจือจางน้ำเสียในคลองเปรมประชากร
เขื่อนฯ ในคลองเปรมประชากรเริ่มสร้างบริเวณคลองบ้านใหม่ถึงสะพานข้ามคลองหมู่บ้านแกรนด์คาแนล เขตดอนเมือง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |