คลังยังไม่แบล็กลิสต์ "ซิโน-ไทย" ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดผู้บริหารเรียกเงิน 20 ล้านบาทสร้างโรงไฟฟ้าขนอม กบข.ผนึกพันธมิตรกองทุนขนาดใหญ่ขอฟังคำชี้แจง "STEC" ถึงแนวทางป้องกันปรับปรุงภายในไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โฆษก ภท.ฉุนเนชั่นโยง "อนุทิน" มีเอี่ยวซิโน-ไทย ยันพ้นจากผู้บริหารกว่า 15 ปี มีหุ้นไม่เกิน 4% จ่อฟ้องหมิ่นประมาท

    เมื่อวันพฤหัสบดี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด 2 ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC กรณีร่วมกันเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะเรื่องดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้น โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้กรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณไปตรวจสอบข้อมูลคดีดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐด้วย 
    รมว.การคลังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า STEC จะถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ห้ามเข้าร่วมโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐหรือไม่ แต่กระทรวงการคลังยืนยันว่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่ดำเนินการอยู่จะต้องมีความโปร่งใสและยึดหลักคุณธรรม 
    “คิดว่าขั้นตอนจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และคงไม่ก้าวล่วง เพราะทุกอย่างต้องพิจารณาตามขั้นตอน โดยจะสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ยังบอกไม่ได้ตอนนี้ว่าจะขึ้นแบล็กลิสต์ STEC หรือไม่” นายอุตตมกล่าว 
    นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ทาง กบข.กับพันธมิตรที่เป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่ลงนามร่วมกันจะไม่ซื้อหุ้นในบริษัทที่ไม่มีธรรมาภิบาล จะส่งตัวแทนไปหารือกับ STEC เพื่อสอบถามและรับฟังคำชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงรับฟังแนวทางการป้องกันและการปรับปรุงกระบวนการภายในของ STEC เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกว่าเป็นอย่างไร 
    "ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า กบข.และกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวจะไม่ซื้อหุ้นของ STEC หรือไม่ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับ STEC  ด้วย เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอนในการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นจะต้องรอให้การพิจารณาเสร็จสิ้นตามกระบวนการก่อน ซึ่งในเบื้องต้นทาง STEC ยืนยันไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว" นายวิทัยกล่าว
    ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่ตนได้ขอหารือในที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่ามีการเมืองไปแทรกแซงสื่อ หรือสื่อเข้าไปแทรกแซงการเมืองหรือไม่ ล่าสุดเช้าวันที่ 14 พ.ย. รายการหนึ่งทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น ได้จัดรายการที่กำลังบิดเบือนข้อเท็จจริง นำกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมมาโยงกับบริษัท ซิโน-ไทยฯ มีการกล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความเกี่ยวข้องเป็นผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทยฯ แต่ในความเป็นจริงนายอนุทินพ้นจากผู้บริหารบริษัทดังกล่าวมากว่า 15 ปี ในอดีตแม้จะเคยถือหุ้น ก็ถือหุ้นอยู่ไม่เกิน 4% ในรายการยังนำสัญลักษณ์บริษัท ซิโน-ไทยฯ และรูปนายอนุทินไปขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านายอนุทินยังมีความเกี่ยวโยงกับบริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งถือเป็นการบิดเบือนทำให้นายอนุทินเกิดความเสียหาย  
    “ก่อนหน้านี้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยได้ไปแจ้งความเอาผิดกับเนชั่นแล้วทั่วประเทศ มาครั้งนี้ท่านกำลังกระทำความผิดตามกฎหมายทางอาญาซ้ำไปอีก นายอนุทินจะดำเนินคดีทางอาญาแน่นอน ท่านเป็นสื่อ โปรดทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างตรงไปตรงมา มีจรรยาบรรณ ส่วนผม จะว่าอะไรผมก็ว่าไป แต่อย่ามาหมิ่นผม ถ้ามาหมิ่นก็พร้อมดำเนินคดีเหมือนกัน ว่ากันเรื่องเล็กๆ ไม่เป็นอะไรขอกันกินมากกว่า” นายศุภชัยกล่าว.