สิ้นอัจฉริยะแห่งยุค! "สตีเฟน ฮอว์กิง" นักฟิสิกส์นามอุโฆษชาวอังกฤษผู้มีมันสมองอันปราดเปรื่องภายในร่างกายที่ทุพพลภาพ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 76 ปี 
     ครอบครัวของฮอว์กิงเปิดเผยข่าวอันน่าเศร้าสลดนี้เมื่อวันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 โดยประกาศว่า นักฟิสิกส์ผู้สร้างชื่อจากผลงานประพันธ์หนังสือขายดีทั่วโลก "A Brief History of Time" (ประวัติย่อของเวลา) ปี 2531 เสียชีวิตที่บ้านของเขาภายในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เมื่อเช้าตรู่ของวันเดียวกัน 
     ความอัจฉริยะและความปราดเปรื่องของนักฟิสิกส์ร่างพิการท่านนี้ ทำให้เขามีผู้ชื่นชอบติดตามผลงานกว้างไกลว่าโลกฟิสิกส์ดาราศาสตร์ และยกเขาขึ้นเทียบเคียงกับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และเซอร์ไอแซค นิวตัน 
     ฮอว์กิงตรวจพบว่าเริ่มเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม (เอแอลเอส) เมื่อเขาอายุได้ 20 ปีเศษ แต่เขาสามารถฝ่าฝืนคำทำนายที่ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่ปี โรคนี้ทำให้เขากลายเป็นคนพิการเป็นอัมพาตเกือบสิ้นเชิงต้องนั่งรถเข็น และไม่สามารถพูดได้ โดยต้องสื่อสารผ่านอุปกรณ์สังเคราะห์เสียง
     ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2485 หรือวันครบรอบ 300 ปีอสัญกรรมของกาลิเลโอ กาลิเลอี บิดาแห่งวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ส่วนวันเสียชีวิตของฮอว์กิง พุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่โลกต้องจารึกว่าเป็นวันสูญเสียนักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ก็ตรงกับวันครบรอบ 139 ปีชาตกาลของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 
     ฮอว์กิงแต่งงานครั้งแรกกับเจน ไวลด์ เมื่อปี 2508 และมีลูกด้วยกัน 3 คน เรื่องราวของทั้งคู่ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง "The Theory of Everything" เมื่อปี 2557 ทั้งคู่แยกทางภายหลังใช้ชีวิตคู่นาน 25 ปี จากนั้นฮอว์กิงแต่งงานกับอีเลน เมสัน อดีตพยาบาลที่เคยดูแลเขา แต่ต่อมาก็เลิกรากันท่ามกลางคำกล่าวหาว่าเธอทำร้ายเขา แต่ฮอว์กิงปฏิเสธเรื่องนี้ 
     การทำงานของเขาเน้นเป้าหมายที่การรวมทฤษฎีสัมพัทธภาพ ที่ว่าด้วยกำเนิดของปริภูมิและเวลา เข้ากับทฤษฎีควอนตัม ที่ศึกษาอนุภาคที่เล็กที่สุด เพื่อนำมาอธิบายว่าเอกภพเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำงานอย่างไร 
 "เป้าหมายของผมนั้นง่ายๆ" ฮอว์กิงเคยกล่าวเอาไว้ "นั่นคือการทำความเข้าใจเอกภพอย่างสมบูรณ์ ว่าทำไมเอกภพจากเป็นเช่นที่เป็นอยู่ และทำไมเอกภพจึงมีอยู่" 
     ไม่เพียงโลกของฟิสิกส์ดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ยกย่องชื่นชมเขา ฮอว์กิงยังเป็นที่รักในวัฒนธรรมป๊อปยุคนี้ และเคยปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในภาพยนตร์เช่น "Star Trek : The Next Generation" และ "The Simpsons" เสียงของเขายังถูกใช้ในเพลงของวงพิงค์ฟลอยด์หลายเพลงด้วย
     ภายหลังข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของเขา นักวิทยาศาสตร์และคนดังทั่วโลกต่างแสดงความไว้อาลัยผ่านทางโซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์ 
     องค์การนาซาเขียนคำไว้อาลัยทางทวิตเตอร์ของนาซา พร้อมกับวิดีโอที่ฮอว์กิงได้รับประสบการณ์ของการไร้น้ำหนักจากภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดาของสหรัฐ ซึ่งทำให้ตัวของเขาหลุดจากวีลแชร์ช่วงสั้นๆ "ทฤษฎีของเขาปลดล็อกความเป็นไปได้ของเอกภพที่พวกเราและโลกกำลังสำรวจ ขออวยพรให้คุณบินต่อไปเหมือนซูเปอร์แมนในภาวะไร้น้ำหนัก เหมือนกับที่คุณเคยกล่าวไว้กับนักบินอวกาศที่สถานีอวกาศเมื่อปี 2557" 
     แม้แต่เคที เพร์รี นักร้องสาวชาวอเมริกัน ก็แสดงความเสียใจต่อการจากไปของเขา โดยโพสต์ข้อความว่าเกิด "หลุมดำขนาดใหญ่ในใจฉัน".